5 ช่องทางช่วย “ยื่นภาษี” ง่ายขึ้น...จบใหม่ก็ทำได้
โดย : sceneryp

“ ปีใหม่ปุ๊ป เทศกาล “ยื่นภาษี” ก็คัมแบค ใครที่จบใหม่ หรือจบมาสักพัก แต่ยังงงๆ ว่าต้องยื่นมั้ยนะ? ยื่นยังไง? เงินเดือนแค่นี้ต้องยื่นรึเปล่า? มานี่เลย เรามีตัวช่วย! ให้ยื่นภาษีแบบง่ายๆ ไม่ต้องปวดหัวววว ”
วนมาถึงช่วงสิ้นปี เหตุการณ์พี่ๆ ที่ออฟฟิศเริ่มคุยกันเรื่อง “ภาษี” ทั้งยื่นภาษี, ลดหย่อนภาษี ฯลฯ ก็เข้ามาในหัว ให้น้องใหม่ใสใสแบบเราได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าคำคำนี้คืออะไรก็ไม่รู้~ (อ่านเป็นทำนอง เธอยัง - Potato)
อย่าเพิ่งเครียด! อยากบอกว่ามันไม่ได้เข้าใจยากขนาดนั้น แค่ท่องไว้ในใจว่า “มีรายได้เมื่อไหร่...ต้องยื่นภาษี” แค่นั้นเอง แล้วไม่ต้องกลัวว่ายื่นไป เราจะต้องเสียภาษีอย่างเดียว เพราะบางทีเราอาจจะได้เงินคืนก็ได้นะ
ใครที่ปล่อยเบลอตอนนี้ เพราะคิดว่าเงินเดือนรวม/ปี ไม่ถึงเกณฑ์และได้รับการยกเว้นไม่ให้เสียภาษี (ก็รายได้ต่อปีอยู่ที่ 0-150,000.- เองนี่นา) เลยไม่สนใจยื่นภาษีเลย แล้วถ้าเกิดทำงานไปเรื่อยๆ จนเงินเดือนเราถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษีขึ้นมา คราวนี้แหละ! อาจจะโดนย้อนหลังแบบจุกๆ ก็ได้นะเออ
“การยื่นภาษีเป็น To do list ของคนมีรายได้
ถึงยอดเงินรวมสุทธิจะไม่ถึงเกณฑ์...ก็ต้องยื่น
เพื่อให้เขารับทราบข้อมูลว่าเรามีรายได้”
 เป็นปฏิทินการยื่นภาษีในช่วงปีหน้า สำหรับยื่นผ่านทางไปรษณีย์เริ่มยื่นได้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 31 มี.ค. 62 แต่ถ้ายื่นผ่านช่องทางออนไลน์ สามารถยื่นได้ถึงช่วงต้นเดือนเม.ย. 62 กันเลย! (ติดตามเช็ควันที่ที่แน่นอนได้ตามนี้นะ คลิก )
เป็นปฏิทินการยื่นภาษีในช่วงปีหน้า สำหรับยื่นผ่านทางไปรษณีย์เริ่มยื่นได้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 31 มี.ค. 62 แต่ถ้ายื่นผ่านช่องทางออนไลน์ สามารถยื่นได้ถึงช่วงต้นเดือนเม.ย. 62 กันเลย! (ติดตามเช็ควันที่ที่แน่นอนได้ตามนี้นะ คลิก )
 
หลังจากที่รู้เกี่ยวกับการยื่นภาษีเบื้องต้นไปแล้ว มาดู 5 ช่องทางแบบออนไลน์ที่ช่วยให้เรารู้ว่าต้นปี 2562 ที่กำลังมาถึง เราต้องยื่นภาษีเท่าไหร่ แล้วมีอะไรที่ช่วยลดหย่อนภาษี ให้เราจ่ายในราคาที่ถูกที่สุดได้บ้าง พร้อมแล้ว ลุยกันเลย !!!
1) RD Smart Tax
                
                     
                
                     
                
                     
                
            
 
                 
                 
                แอป Official จากกรมสรรพากร เป็นอีกช่องทางที่สะดวกสุดๆ แค่โหลดติดมือถือไว้ พอถึงเวลาที่ต้องยื่นภาษีในปีถัดๆ ไป ก็ไม่ต้องมาเสียเวลากรอกข้อมูลใหม่ เพราะมีระบบการจัดเก็บข้อมูลของผู้ใช้ แถมในแอปก็มีส่วนให้ความรู้เรื่องภาษีเพิ่มให้อีกด้วยนะ
- แจ้งข่าวสารสรรพากร ภาษี กฏหมายภาษีใหม่ ฯลฯ
- ความรู้เกี่ยวกับภาษี
- ยื่นภาษีแบบออนไลน์
- แผนที่กรมสรรพากรว่าบริเวณที่เราอยู่ใกล้กับสาขาไหนบ้าง
 

2) E-Filing
 
 สำหรับใครที่ไม่อยากโหลดแอป ก็สามารถเข้าเว็บไซต์ยื่นภาษีออนไลน์ของกรมสรรพากรได้โดยตรงเลย (คลิกลิงค์นี้ https://rdserver.rd.go.th)  ที่สำคัญช่องทางนี้ช่วยให้ไม่ต้องเสียเวลาไปยื่นแบบภาษีตามสถานที่ต่างๆ แถมได้รับสิทธิพิเศษให้ขยายเวลายื่นแบบแสดงรายการภาษีและชำระภาษีออกไปอีก 8 วันด้วย! (แนะนำให้ไปลงทะเบียนทิ้งไว้ก่อนเลยจ้า)
สำหรับใครที่ไม่อยากโหลดแอป ก็สามารถเข้าเว็บไซต์ยื่นภาษีออนไลน์ของกรมสรรพากรได้โดยตรงเลย (คลิกลิงค์นี้ https://rdserver.rd.go.th)  ที่สำคัญช่องทางนี้ช่วยให้ไม่ต้องเสียเวลาไปยื่นแบบภาษีตามสถานที่ต่างๆ แถมได้รับสิทธิพิเศษให้ขยายเวลายื่นแบบแสดงรายการภาษีและชำระภาษีออกไปอีก 8 วันด้วย! (แนะนำให้ไปลงทะเบียนทิ้งไว้ก่อนเลยจ้า)
 	- สามารถยื่นได้ทั้งภาษีแบบ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด.90/91/94 , ภ.ง.ด.1,  ภ.ง.ด.2, ภ.ง.ด.3, ภ.ง.ด.53, ภ.พ.30, ภ.ธ.40
- ตรวจสอบสถานะการยื่นภาษี
- ตรวจสอบข้อมูลการขอคืนภาษี
3) iTax Pro
                
                     
                
                     
                
                     
                
            
 
                 
                 
                แอปจัดการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตัวแอปหน้าตาดี ใช้ง่าย งงเรื่องภาษีก็เก็ทได้ไม่ยาก นอกจากจะมีให้คำนวณภาษีแล้ว ยังมีแนะนำการลดหย่อนภาษีให้อีก แอปฟรีและดีมีอยู่จริงนะบอกเลยย
- ช่วยคำนวณภาษี
- แสดงข้อมูลสถานะภาษี
- เช็คสถานะเงินคืนภาษี
- สรุปว่าเราต้องเสียภาษีเท่าไหร่ เทียบกับรายได้ทั้งหมดที่เรายื่นภาษีไป
- ช่วยวางแผนการจัดการภาษีและวิธีประหยัดภาษี
 
 
4) Taxcal thai lite
                
                     
                
                     
                
                     สำหรับใครที่อยากเน้นเรื่องการคำนวณอย่างเดียว แอปนี้ถือว่าตอบโจทย์เลย มีบอกว่าต้องใช้อะไรถึงจะลดหย่อนภาษีได้ มีสรุปให้ว่าภาษีที่เราต้องจ่ายคือเท่าไหร่ แค่ใส่ข้อมูลส่วนตัว แอปก็จะจัดการให้เราเรียบร้อย ไม่ต้องมานั่งงมบวกลบคูณการเองอีกต่อไป
                
            
สำหรับใครที่อยากเน้นเรื่องการคำนวณอย่างเดียว แอปนี้ถือว่าตอบโจทย์เลย มีบอกว่าต้องใช้อะไรถึงจะลดหย่อนภาษีได้ มีสรุปให้ว่าภาษีที่เราต้องจ่ายคือเท่าไหร่ แค่ใส่ข้อมูลส่วนตัว แอปก็จะจัดการให้เราเรียบร้อย ไม่ต้องมานั่งงมบวกลบคูณการเองอีกต่อไป 
5)  iTax Check Check เป็นแอปครอบครัวเดียวกับ iTax Pro แต่เป็นแอปสำหรับตรวจเช็คสถานะเงินคืนภาษีโดยเฉพาะ หลังจากที่ยื่นภาษีไปแล้ว ผลคือไม่ต้องเสียภาษี แต่ได้คืนเงิน แอปนี้ก็จะช่วยบอกว่าเราจะได้เช็คเมื่อไหร่นั่นเอง เหมาะกับคนที่ไม่อยากเข้าไปกรอกข้อมูลเยอะๆ ในเว็บสรรพากร เพราะแค่ใช้ชื่อ-นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน ก็ล็อคอินติดตามสถานะได้เลย
เป็นแอปครอบครัวเดียวกับ iTax Pro แต่เป็นแอปสำหรับตรวจเช็คสถานะเงินคืนภาษีโดยเฉพาะ หลังจากที่ยื่นภาษีไปแล้ว ผลคือไม่ต้องเสียภาษี แต่ได้คืนเงิน แอปนี้ก็จะช่วยบอกว่าเราจะได้เช็คเมื่อไหร่นั่นเอง เหมาะกับคนที่ไม่อยากเข้าไปกรอกข้อมูลเยอะๆ ในเว็บสรรพากร เพราะแค่ใช้ชื่อ-นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน ก็ล็อคอินติดตามสถานะได้เลย

 
 
 
                 
                 
                 เป็นแอปครอบครัวเดียวกับ iTax Pro แต่เป็นแอปสำหรับตรวจเช็คสถานะเงินคืนภาษีโดยเฉพาะ หลังจากที่ยื่นภาษีไปแล้ว ผลคือไม่ต้องเสียภาษี แต่ได้คืนเงิน แอปนี้ก็จะช่วยบอกว่าเราจะได้เช็คเมื่อไหร่นั่นเอง เหมาะกับคนที่ไม่อยากเข้าไปกรอกข้อมูลเยอะๆ ในเว็บสรรพากร เพราะแค่ใช้ชื่อ-นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน ก็ล็อคอินติดตามสถานะได้เลย
เป็นแอปครอบครัวเดียวกับ iTax Pro แต่เป็นแอปสำหรับตรวจเช็คสถานะเงินคืนภาษีโดยเฉพาะ หลังจากที่ยื่นภาษีไปแล้ว ผลคือไม่ต้องเสียภาษี แต่ได้คืนเงิน แอปนี้ก็จะช่วยบอกว่าเราจะได้เช็คเมื่อไหร่นั่นเอง เหมาะกับคนที่ไม่อยากเข้าไปกรอกข้อมูลเยอะๆ ในเว็บสรรพากร เพราะแค่ใช้ชื่อ-นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน ก็ล็อคอินติดตามสถานะได้เลย

 
 
ใครไม่อยากมึนกับการยื่นภาษี ก็ลองเข้าไปใช้งานตามช่องทางที่เราแนะนำไปได้นะ :) รับรองว่าง่ายและสะดวกมากกก!
 - โดย sceneryp- Extraordinary