BTS เปลี่ยนไป๊ มีอะไรเด็ดๆ บ้างมาดูกัน!

avatar writer
โดย : MilD
avatar writer29 ธ.ค. 2561 avatar writer2.1 K
BTS เปลี่ยนไป๊ มีอะไรเด็ดๆ บ้างมาดูกัน!

~ ถึงโลกจะเปลี่ยนไป แต่เราก็ยังต้องเดินทางไปทำงานเหมือนเดิม ~
เชื่อว่าคนในเมืองก็ต้องใช้บริการรถไฟฟ้าเป็นหลักแน่นอน
แล้วปีนี้ "รถไฟฟ้า BTS มีอะไรเปลี่ยนไป๊บ้าง" มาสรุปกันหน่อยดีกว่าาา


รถไฟฟ้า BTS ก็เหมือนเป็นวิธีเดินทางหลักของคนกรุงเทพฯ ไปแล้ว ในช่วงเวลาเร่งด่วนนี่เรียกว่าช่วยชีวิตคุณได้! ย้อนกลับไปดูประวัติกันสักนิดนึง เริ่มเปิดให้บริการวันที่ 5 ธันวาคม 2542 ถือว่าเป็น "รถไฟฟ้าสายแรกของประเทศ" เลยทีเดียว ในช่วงแรกให้บริการ 2 เส้นทาง คือ สายสุขุมวิท (หมอชิต-อ่อนนุช) และสายสีลม (สนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสิน) และปัจจุบันได้ขยายเส้นทางให้บริการส่วนต่อขยายเพิ่มเติม คือแบบนั่งไปยาวม๊ากกกกก โดยเฉพาะสายสุขุมวิท นั่งยาวๆ ไปถึงสถานีเคหะสมุทรปราการได้เลย เรียกว่าถ้านั่งจากหมอชิตไปเนี่ย ใช้เวลาตลอดสายก็สักพักใหญ่ๆ เลย ส่วนสายสีลม ก็ข้ามไปฝั่งธนบุรี ไปถึงสถานีบางหว้า เรียกว่าชีวิตคนฝั่งธนฯ เวลาจะเข้าเมืองก็ต้องพึ่งพารถไฟฟ้านี่แหละ รวดเร็วสุด! ตลอดทั้งปี 2561 นี้ รถไฟฟ้า BTS เค้าก็มีความเปลี่ยนแปลงต่างๆ มากมายเลยนะ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาตอนปลายๆ ปีหน่อย ไม่ว่าจะเปิดส่วนต่อขยายไปถึงเคหะสมุทรปราการ ก็ได้รถไฟฟ้าใหม่มาวิ่งอวดโฉมครั้งแรกด้วย หรือสามารถเอาบัตรแรบบิทผูกกับ Rabbit LINE Pay ได้แล้ว จ่ายผ่าน QR Code ก็ยังได้ เรารวบรวมข้อมูล และสรุปมาให้อ่านแบบง่ายๆ แล้ว ตามมาเล้ยยยยยย!

รถไฟฟ้าขบวนใหม่มาแว้วว!

BTS รถไฟฟ้าซีเมนส์ อินสไปโร หรือรุ่น EMU-A2
ส่วนต่อขยายที่กำลังจะเปิดใหม่ วิ่งยาวขนาดนี้ ก็ต้องหารถใหม่มาวิ่งหน่อย และรถไฟฟ้ารุ่นล่าสุดก็ได้ถูกสั่งซื้อเข้ามา เป็นยี่ห้อซีเมนส์ อินสไปโร ใช้รหัส EMU-A2 เรียกว่าทุกอย่างไม่เหมือนกับรถซีเมนส์ปัจจุบันที่ใช้งานอยู่ (EMU-A1) เลย มีกล้องวงจรปิดทุกตู้โดยสาร, จุดสำหรับจอดรถเข็นผู้พิการ จอแสดงผลด้านบนประตูที่สามารถปรับแต่งได้ ตอนเข้าไปในรถคือสัมผัสได้ถึงความใหม่จริงๆ เสียงเครื่องยนต์ก็เปลี่ยนไป ถ้าใครอยากลองนั่งดูก็ต้องไปที่ส่วนต่อขยาย สำโรง-เคหะฯ เค้าทดลองวิ่งอยู่ แถมมีไม่กี่ขบวนเองนะ เป็นไอเทมลับที่ต้องตามหากันหน่อยนาจาาาาาา

เปิดบริการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท (สำโรง - เคหะฯ)

ตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค. 61 เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป รถไฟฟ้าบีทีเอสได้เปิดส่วนต่อขยายสายสีเขียว ช่วงสำโรง-เคหะฯ เชื่อมระหว่างกรุงเทพฯ กับสมุทรปราการอย่างสมบูรณ์แบบ คราวนี้ถ้าแบบอยากไปเที่ยวบางปู เมืองโบราณ หรือฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ ก็สะดวกสบายขึ้นต่อรถไปอีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว แถมช่วงนี้เปิดให้นั่งฟรี! ระหว่างสถานีสำโรง-เคหะฯ จนถึงเดือน เม.ย. 62 เลยเชียว และยังมีที่จอดรถให้บริการที่สถานีเคหะฯ ก็จอดฟรีเหมือนกัน คือดีไปอี้กกกก ไปนั่งแล้วบรรยากาศมันก็จะใหม่ๆ หน่อยนะ แถมทุกสถานีเค้าติดตั้งประตูกั้นด้วย ความปลอดภัยนี่สบายใจหายห่วง
BTS บรรยากาศสถานีปลายทาง เคหะฯ ใหม่มากจ้า
ในช่วงทดลองเดินรถไฟฟ้านี้ ถ้าจะเดินทางในช่วงสำโรง-เคหะฯ จะต้องสลับขบวนที่สถานีสำโรงก่อนนะ ไม่ได้วิ่งยาวไปถึงหมอชิตเลย จะมีเจ้าหน้าที่สถานีคอยช่วยเหลืออยู่ตลอดจ้า รถจะให้บริการทุก 10 นาทีนะ ช่วงเย็นๆ นี่คนเยอะอยู่เหมือนกัน สะดวกสบายขนาดนี้อ่ะเนอะ :)

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับส่วนต่อขยาย สำโรง-เคหะฯhttp://bit.ly/2EtJAMg


ความถี่ของช่องอาณัติสัญญาณใหม่

"ระบบอาณัติสัญญาณ" ถือเป็นส่วนสำคัญที่สุดของการเดินรถก็ว่าได้ ถ้ามีปัญหาทีนี่รถก็วิ่งไม่ได้นะ ถ้าจำกันได้ในช่วงกลางปี 2561 จะมีข่าวเรื่องรถไฟฟ้าเป็นระยะๆ สมัยโน้นจำได้เลยว่าต้องติดตามข่าวสารแบบใกล้ชิดเวอร์ ตอนนั้นเกิดปัญหาเรื่องความถี่ของคลื่นสัญญาณที่ใช้งาน อาจจะมีการรบกวนกัน สุดท้ายแล้วแนวทางแก้ไขปัญหาก็เลยย้ายไปใช้คลื่นความถี่ที่ใกล้ 2500 MHz มากที่สุดแทน คือใช้ความถี่ 2480-2495 Mhz จากเดิมที่ใช้ช่วง 2370 MHz อยู่ ซึ่งหลังจากเปลี่ยนความถี่แล้วทุกอย่างก็แฮปปี้ กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม ช่วงนั้นนี่แบบลุ้นแทบทุกวันเลยจย้าาาาา
BTS ระบบอาณัติสัญญาณควบคุมการเดินรถ

ป้ายบอกทางสถานีแบบใหม่

ถ้าใครสังเกตดีๆ จะพบว่าตอนนี้บีทีเอส เค้าเปลี่ยนป้ายบอกทางบนสถานีเป็นแบบใหม่แล้วนะ แต่จะแตกต่างกันยังไง ลองมาเปรียบเทียบกันได้ตามนี้เลยยยยย
  • ป้ายบอกทางแบบเดิม : บอกว่ารถไฟฟ้าขบวนไปถึงสถานีปลายทางอะไร เช่น ไปหมอชิต / ไปสำโรง / ไปบางหว้า / ไปสนามกีฬาแห่งชาติ
  • ป้ายบอกทางแบบใหม่ : บอกชื่อสถานีปัจจุบัน พร้อมแสดงชื่อสถานีก่อนหน้า และสถานีถัดไปด้านล่าง
หลายคนที่ใช้บริการอาจจะคุ้นเคยกับป้ายบอกทางแบบเดิม เลยทำให้เกิดความสับสนว่าจะต้องไปชานชาลาไหนดีนะ ช่วงแรกอาจจะต้องเพิ่มเติมข้อมูลให้คนเข้าใจง่ายขึ้น เพราะทุกอย่างต้องมีการเริ่มต้นละเนอะ ค่อยๆ ปรับกันไปจะดีเองจ้าาาาา
BTS ป้ายบอกทางแบบใหม่ที่ถูกมาใช้ในปัจจุบัน

บัตรโดยสารเที่ยวเดียวแบบใหม่

ช่วงตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นมา จะมีสโลแกนสุดฮิตติดหู "แตะเข้า สอดออก" ได้ยินตลอดเว บนรถไฟฟ้า 555 ก็เพราะรถไฟฟ้าบีทีเอสเค้ากำลังปรับเปลี่ยนบัตรโดยสารเที่ยวเดียวนี่แหละ ถ้าจำกันได้เวอร์ชั่นก่อนจะเป็นบัตรบางๆ หน่อย ใช้สอดเข้า และสอดออกทั้งคู่ แต่ตอนนี้พอขยายเส้นทาง ก็ต้องทำให้รองรับทั้งระบบ เลยต้องเปลี่ยนบัตรเป็นแบบใหม่ ซึ่งบัตรจะหนากว่าเดิมหน่อย และเปลี่ยนวิธีใช้เป็นแตะเข้า และสอดออกแทน ตอนนี้ก็เปลี่ยนเรียบร้อยแล้วทุกสถานี

เครื่องอ่านบัตรโดยสารแบบใหม่

จากบัตรโดยสารประเภทเดินทางเที่ยวเดียวแบบใหม่ที่รองรับส่วนต่อขยายในอนาคต จึงต้องเปลี่ยนเครื่องและอุปกรณ์อ่านบัตรด้วยเหมือนกัน ซึ่งหน้าตาของเครื่องอ่านบัตรแบบใหม่จะเป็นแบบนี้เลย ซึ่งจะไม่เหมือนกับเครื่องอ่านก่อนหน้า ตรงไฟที่แสดงหลังแตะบัตรแล้ว และความเร็วอ่านบัตรได้ไวกว่าเดิม แต่บางสถานีก็ยังแอบเห็นเครื่องอ่านแบบเดิมอยู่บ้างนะ น่าจะกำลังทยอยเปลี่ยนจ้า
BTS ไม่ว่าบัตรไหนก็แตะเข้าหมดแล้วน้าาาา
BTS

ตู้จำหน่ายตั๋วแบบใหม่ รองรับการจ่ายเงินด้วย QR Code

ปัจจุบันมีเครื่องจำหน่ายตั๋วที่รองรับจ่ายเงินด้วย QR Code พร้อมให้บริการนำร่อง 6 สถานี ได้แก่ สยาม, อารีย์, ช่องนนทรี, สำโรง, ปากน้ำ และเคหะฯ และปัจจุบันรองรับการจ่ายด้วย QR ทุกสถานีแล้ว ขอบอกเลยว่าสะดวกสบายมากๆ ไปเล้ยยย ถ้าเกิดพอดีไม่ได้พกเงินสดติดตัวมา ก็ไม่ต้องกลัวแล้ว เอามือถือขึ้นมาสแกนจ่ายได้เลย ตอนนี้สามารถจ่ายเงินด้วย QR Code ผ่าน 2 ช่องทาง คือ Rabbit LINE Pay บนแอป LINE หรือ THAI QR Payment สแกน QR Code จากแอปธนาคารต่างๆ โดยตรงได้เลย นี่แหละสังคมไร้เงินสดที่แท้ทรู ขยายให้ครบทุกสถานีไวๆ ก็จะเริ่ดมากกกก
BTS เครื่องซื้อบัตรโดยสารแบบใหม่ จ่ายด้วย QR Code ได้แล้ว

ซื้อตั๋วได้หลายๆ ใบในครั้งเดียวได้แล้วจ้า

เครื่องออกบัตรสมัยก่อนถ้าใครนึกออก จะเป็นแบบกดปุ่มจำนวนเงิน แล้วหยอดเหรียญให้ครบก็จะได้บัตรโดยสารออกมา แต่ถ้าแบบมากันหลายคน เป็นแก๊งจะต้องกดหลายๆ รอบหรอ ต้องนี่เลย! เดี๋ยวนี้เครื่องออกบัตรที่รับธนบัตร ออกได้สูงสุด 10 ใบไปเลยจ้า ก่อนซื้อก็กดเลือกจำนวนไว้ก่อนนะ ส่วนเครื่องออกบัตรที่ไม่ได้รับธนบัตร ลองไปกดดูแล้ว ได้สูงสุดครั้งละ 4 ใบนะ ลดเวลาไปได้เยอะเลย ไม่ต้องเสียเวลากดหลายรอบอีกต่อไปแล้นนน ~

เติมเงิน และเช็คเที่ยวในบัตรแรบบิท ผ่าน Rabbit LINE Pay

เดี๋ยวนี้บอกเลยว่าสะดวกสบายสุดพลังงงง...แค่ผูกบัตรแรบบิท เข้ากับ Rabbit LINE Pay บนแอป LINE ก็ทำทุกอย่างได้ในมือถือแล้วอ่ะ ไม่ว่าจะเช็คเงินยอดคงเหลือ เช็คเที่ยวเดินทางคงเหลือ หรือเติมเที่ยวเดินทางได้ทุกที่ ทุกเวลา จะตอนตี 1 ก็ตื่นมาเติมได้นะ อิอิ คราวนี้ก็ไม่ต้องกลัวเกิดอาการแตะบัตร แล้วตื๊ดเข้าไม่ได้ หรือจะต้องเสียเวลามาต่อแถวเติมเงินหรือเที่ยวเข้าบัตรอีกต่อไปจ้า 

บัตรหาย ไร้กังวล อายัดได้ เงินและเที่ยวยังอยู่ครบ

อีกหนึ่งบริการดีๆ หลังจากผูกบัตรแรบบิท กับ Rabbit LINE Pay ก็คือถ้า "บัตรหาย" ก็ไม่ต้องร้องไห้แล้ว สามารถกดอายัดบัตรได้ในแอปเลย ยอดเงินคงเหลือ และเที่ยวโดยสารในบัตรก็ยังอยู่ครบ แค่เอาไปซื้อบัตรใหม่มาผูกบัญชีแทน ก็ใช้งานต่อได้เลยจ้า ดีงามสุดในโลกหล้า :) แต่ถ้าไม่ได้เอาบัตรแรบบิทมาผูกกับ Rabbit LINE Pay ก็จะอายัดไม่ได้นาจา บัตรหาย ทุกอย่างหายหมดนะ รู้งี้รีบไปทำเลยดีก่าาาา
  • ถ้าบัตรแบบหาไม่เจออีกต่อไปแล้ว ต้องออกบัตรใหม่แน่นอน > กด Delete Card
  • แต่ถ้าคิดว่าหาบัตรเจอ แต่ตอนนี้หายไปไหนไม่รู้ > กด Suspend Your Card ไว้ก่อนได้นะ

ช่องทางติดต่อที่เข้าถึงง่าย สะดวก รวดเร็วกว่าเดิม

ในปีนี้ทางรถไฟฟ้าบีทีเอส ได้เปิดตัวช่องทางการติดต่อเพิ่มเติมมากมายเลยจ้า เรียกว่าเราจะต้องเห็นข่าวสารต่างๆ จากซักช่องทางแน่นอน เพราะ Social Media อยู่รอบตัวเราเต็มไปโหม้ดดด BTS
  • โทรศัพท์ : ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ บีทีเอส 02-617-6000
  • Facebook : รถไฟฟ้าบีทีเอส
  • Twitter : @BTS_Skytrain
  • LINE : @btsskytrain
  • Application : BTS Sky Train (โหลดได้เลยบน App Store และ Play Store) ซึ่งจะมีแสดงสถานะของรถไฟฟ้า และความหนาแน่นของผู้โดยสารให้รู้แบบเรียลไทม์เลยนะ เกิดอะไรขึ้นคือรู้เดี๋ยวนั้น! แนะนำให้โหลดมาติดเครื่องไว้ ข้อมูลแน่นสุดดด

บริการฟรี Wi-fi ทุกสถานี

เพราะการสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญในทุกวันนี้ ก็เลยเกิดบริการฟรีไวไฟบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ให้พวกเราได้ใช้งานเน็ตกันแบบเพลินๆ ระหว่างอยู่บนชานชาลาได้นะ แค่เชื่อมต่อ @BTS Xpress Wifi ทำตามขั้นตอนให้เรียบร้อย ก็ใช้งานได้เลย ลองดูแล้วเน็ตเร็วแรงไม่ธรรมดาเลยน้าาาาา ไปลองใช้กันได้แล้วจ้าาา เวลาจะใช้งานไวไฟ ก็กดเชื่อมต่อ Connect ก่อนนะ หน้าจอจะแสดงข้อมูลต่างๆ แล้วเลือกล็อกอินด้วยช่องทางใดนึง ก็ใช้งานได้แล้วจ้า ฟรี! ตลอดการเดินทางเล้ยยยยย เชื่อมต่อได้สูงสุดครั้งละ 45 นาทีนะ แล้วต้องต่อใหม่อีกครั้ง ทั้ง 30 สถานีที่พร้อมให้บริการ Free Wi-Fi มีดังนี้จ้า : สยาม, ราชเทวี, พญาไท, อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, สนามเป้า, อารีย์, สะพานควาย, หมอชิต, ชิดลม, เพลินจิต, นานา, อโศก, พร้อมพงษ์, ทองหล่อ, เอกมัย, พระโขนง, อ่อนนุช, บางจาก, ปุณณวิถี, อุดมสุข, บางนา, แบริ่ง, ราชดำริ, ศาลาแดง, ช่องนนทรี, สุรศักดิ์, สะพานตากสิน, กรุงธนบุรี, วงเวียนใหญ่ และ สนามกีฬาแห่งชาติ

ป้ายสัญลักษณ์ที่นั่งพิเศษสำหรับผู้โดยสารเฉพาะกลุ่ม

ในช่วงเวลาเร่งด่วน คนใช้บริการก็จะเยอะเป็นพิเศษ แต่บุคคลบางกลุ่มมีความจำเป็นต้องการที่นั่งมากกว่าคนอื่นๆ นะ เช่น เด็ก สตรีมีครรภ์ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ หรือพระภิกษุ จะทำยังไงให้ทุกคนตระหนักในเรื่องนี้ ก็เลยมีแนวคิดติดสติ๊กเกอร์ให้ดูเด่นชัดกว่าเดิม และเปิดโหวตให้ทุกคนเลือกว่าแบบไหนชอบที่สุดผ่านทางหน้าเพจด้วย ถือว่ามีการรับฟังความคิดเห็นสุดๆ 55 และผลก็คือได้แบบนี้นั่นเองงงงง!

BTS

ถ้าใครอยู่ที่นั่งนี้แล้วเห็นคนที่ต้องการที่นั่งมากกว่าเรา ก็อย่าลืมลุกให้พวกเขาเหล่านี้ด้วยนาจา ช่วงแรกอาจจะต้องปรับตัวกันหน่อย แต่ถ้าทุกคนทำได้ ก็ถือเป็นวัฒนธรรมที่ดีของประเทศเราเชียวนะ 

เสียงคุณรัดเกล้ายังดังก้องอยู่ในใจ จะไปไหนก็ต้องได้ยินเสียงตล๊อดดดด ~ - ขอขอบคุณข้อมูลจาก Wikipedia และเว็บไซต์ BTS -

BTS
  • avatar writer
    โดย MilD
    รักที่จะเรียนรู้ อยู่อย่างมีชีวิตชีวา เพราะไม่ว่าโปรโมชั่นจะอยู่ที่ไหน เราต้องตามหามันให้เจอ <3
แสดงความคิดเห็น