ยื่นภาษีอีกแล้วสินะปีหน้า.. งั้นมาเตรียมรายการลดหย่อนไว้รอกัน!
โดย : JINFEB

รวมรายการลดหย่อนภาษีปีนี้ วางแผนไว้รอยื่นปี 69 กัน!
หลายคนเริ่มปวดหัวเรื่องยื่นภาษีต้นปีหน้า แต่ถ้าวางแผนดีตั้งแต่เนิ่น ๆ ช่วยให้เรามีสิทธิ์จ่ายน้อยลงได้เลยนะ เพราะเค้ามีตัวช่วยลดหย่อนภาษีให้เลือกหลายช้อยส์เลย ใครยังไม่แน่ใจว่าค่าใช้จ่ายและรายการอะไรที่ใช้สิทธิ์ได้บ้าง ? เรารวมมาให้ครบจบในนี้แล้ว เตรียมพร้อมไว้ยื่นได้เลย
รายการลดหย่อนภาษีปี 68 มาเริ่มกันที่รายการแรกเลย…
1.ค่าลดหย่อนภาษีหมวดส่วนตัวและครอบครัว
- ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000.- : เอาไปลดหย่อนภาษีได้ไม่มีเงื่อนไขอะไร ให้ยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 และ ภ.ง.ด.91 ถ้ายื่นภาษีออนไลน์จะมีรายการลดหย่อนส่วนตัวให้อัตโนมัติอยู่แล้ว
- ค่าลดหย่อนคู่สมรส 60,000.- : สำหรับคู่สมรสที่จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย แต่คู่สมรสต้องไม่มีรายได้
- ค่าลดหย่อนฝากครรภ์และคลอดลูก : ที่จ่ายให้กับสถานพยาบาลของรัฐหรือเอกชน ใช้ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง ไม่เกินท้องละ 60,000.- (ถ้าลูกแฝดจะนับว่าเป็นท้องเดียว) ถ้าสามีและภรรยายื่นภาษีทั้งคู่ จะให้สิทธิลดหย่อนนี้ได้แค่ภรรยาเท่านั้น แต่สามีสามารถลดหย่อนภาษีในกรณีที่ภรรยาไม่มีเงินได้
- ค่าลดหย่อนภาษีลูก คนละ 30,000.- : ที่เป็นลูกโดยกฎหมาย ถ้ามีลูกคนที่ 2 เกิดในปี 2561 เป็นต้นไป ใช้สิทธิลดหย่อนได้คนละ 60,000.- แต่ถ้าเป็นลูกบุญธรรม ลดหย่อนได้สูงสุด 3 คน และต้องมีอายุไม่เกิน 20 ปี ส่วนอายุตั้งแต่ 21 – 25 ปี ต้องศึกษาในระดับ ปวส. ขึ้นไป และลูกต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000.- /ปี ยกเว้นกรณีที่ได้รับเงินปันผล
- ค่าลดหย่อนสำหรับเลี้ยงดูพ่อแม่ของตัวเองและของคู่สมรส จำนวนคนละ 30,000.- สูงสุดไม่เกิน 4 คน : ลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 120,000 .- (ต้องไม่ใช่พ่อแม่บุญธรรม) โดยพ่อแม่ต้องอายุมากกว่า 60 ปี และมีรายได้ต่อปีไม่เกิน 30,000.- (ไม่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนซ้ำระหว่างพี่น้อง)
- ค่าลดหย่อนภาษีกรณีอุปการะผู้พิการหรือบุคคลทุพลภาพ คนละ 60,000 .- : ผู้พิการต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000.- /ปี และมีบัตรประจำตัวผู้พิการกับหนังสือรับรองการเป็นผู้อุปการะ แต่ในกรณีที่ผู้พิการหรือทุพลภาพเป็นบิดามารดา บุตร หรือคู่สมรสของตัวเอง ใช้สิทธิลดหย่อนทั้งสองส่วนร่วมกันได้
2.ค่าลดหย่อนภาษีหมวดประกัน, เงินออมและการลงทุน
- เบี้ยประกันชีวิตทั่วไปและสะสมทรัพย์ รวมกันไม่เกิน 100,000.-
- เบี้ยประกันสุขภาพไม่เกิน 25,000.-
- ประกันสุขภาพพ่อแม่ ไม่เกิน 15,000.-
- ประกันชีวิตคู่สมรส ไม่เกิน 10,000.-
- ประกันสังคม 9,000.-
- เงินลงทุนธุรกิจวิสาหกิจเพื่อสังคม ไม่เกิน 100,000.-
- กองทุน ThaiESG ลดหย่อนภาษีได้ 30% แต่ไม่เกิน 300,000.-
- กองทุน ThaiESGX (เงินลงทุนใหม่) ลดหย่อนภาษีได้ 30% ไม่เกิน 300,000.-
- กองทุน RMF ลดหย่อนภาษีได้ 30% ไม่เกิน 500,000.-
- กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD), กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน ลดหย่อนภาษีได้ 15% ไม่เกิน 500,000.-
- กองทุนบำเหน็จบำนาญราชการ ลดหย่อนภาษีได้ 30% ไม่เกิน 500,000.-
- เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ ลดหย่อนภาษีได้ 15% ไม่เกิน 200,000.-
- กองทุนการออมแห่งชาติ ไม่เกิน 30,000.-
3.ค่าลดหย่อนภาษีหมวดเงินบริจาค
-
เงินบริจาคให้กับพรรคการเมือง : ลดหย่อนได้ไม่เกิน 10,000.-
-
เงินบริจาคเพื่อการศึกษา, การกีฬา, การพัฒนาสังคมและบริจาคเพื่อสถานพยาบาลของรัฐ : ลดหย่อนได้ 2 เท่าของเงินบริจาคจริง ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังจากหักค่าลดหย่อนภาษี
-
เงินบริจาคทั่วไป : ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังจากหักค่าลดหย่อนภาษี
4.ค่าลดหย่อนภาษีหมวดกระตุ้นเศรษฐกิจ
- ดอกเบี้ยกู้ยืมเพื่อซื้อหรือสร้างที่อยู่อาศัย : ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง ไม่เกิน 100,000.-
- Easy e-Receipt : ลดหย่อนได้ไม่เกิน 50,000.- ตามที่จ่ายจริง สำหรับค่าซื้อสินค้าและบริการที่มีใบกำกับภาษีและใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) หรือใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt)
- ค่าสร้างบ้านใหม่ ปีพ.ศ. 2567 - 2568 : ลดหย่อนได้ไม่เกิน 100,000.- (จำกัดค่าก่อสร้างบ้านใหม่ไม่เกิน 1 หลัง สูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาท)
มาสรุปกันหน่อย
เห็นมั้ยว่ารายการลดหย่อนภาษีสำคัญเหมือนกันนะ ก่อนที่จะเอาไปใช้เราแนะนำ ให้ลองลิสต์ออกมาว่ามีอะไร ที่เราใช้สิทธิ์ได้บ้าง แล้วอย่าลืมเก็บเอกสารที่ต้องใช้ไว้ให้ครบ พอต้นปี 69 ตอนยื่นภาษีจะได้สะดวกและไวขึ้น
👇🏻อ่านบทความที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ได้ที่นี่👇🏻
โดย JINFEB
🍀💜