แอปฟังเพลง 4 แอป แต่ละเจ้าต่างกันยังไง ?
โดย : JINFEB

คงปฎิเสธไม่ได้เลยว่าเสียงเพลงและดนตรี กลายมาเป็นส่วนเติมเต็มในแต่ละวันของใครหลายคน และการฟังเพลงออนไลน์ ยังคงฮิตเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ วันนี้เราเลยมาสรุปจุดเด่นและข้อมูลต่าง ๆ ของ 4 แอปฟังเพลง ให้จะได้เป็นทางเลือกในการโหลดมาใช้กัน
แอปฟังเพลง 4 แอป มีจุดเด่นต่างกันยังไงบ้าง ?
1.Spotify
Spotify แอปฟังเพลงที่อยู่กับคนไทยมานาน 8 ปี ตั้งแต่ 2560 ด้วยจำนวนเพลงที่มีให้เลือกฟังจากทั่วโลกเยอะถึง 100 ล้านเพลง นอกจากนั้นยังมีพอดแคสต์และหนังสือเสียงอีก ไหนจะมีฟีเจอร์ให้เลือกใช้งานหลากหลาย เช่น Smart Shuffle จัดลิสต์เพลงที่ชอบผสมเพลงใหม่ได้ มีทั้งแบบฟังฟรีมีโฆษณาคั่น หรือจะสมัครสมาชิกเพื่อเพิ่มฟีเจอร์อื่น ๆ ก็เริ่ด
มาดูจุดเด่นกัน!
- AI ช่วยแนะนำเพลงใหม่ให้ตามสไตล์การฟังของเรา รวมไปถึงเพลงที่เราอาจจะชอบเพิ่มเติมด้วย
- Smart Shuffle จัดลิสต์เพลงโปรดผสมเพลงใหม่ ชอบแบบไหนจัดเลย
- สรุปสถิติการฟังเพลงประจำปี เช่น ปีนี้เราฟังเพลงแนวไหน หรือฟังของศิลปินคนไหนเยอะสุด
ราคาสมาชิก
- 1 บัญชี 139.-/เดือน
- 2 บัญชี 189.-/เดือน
- นักศึกษา 72.-/เดือน
- ครอบครัว สุงสุด 6 บัญชี 219.-/เดือน
เป็นสมาชิกของ Spotify ดียังไง ?
- ฟังเพลงเพลินไม่มีโฆษณาคั่นคอยกวนใจ
- โหลดเพลงฟังออฟไลน์ได้สูงถึง 10,000 เพลง
- สลับเพลงได้ไม่จำกัด ไม่ว่าจะฟังซ้ำทั้งเพลง หรือจะฟังอัลบั้มที่ชอบแบบเรียงเพลงเองก็ทำได้หมด
- ฟังเพลงกับเพื่อนแบบเรียลไทม์ อยู่ที่ไหนก็แชร์เลือกเพลงด้วยกันได้
- ฟังเพลงใหม่ที่เตรียมปล่อย ไปพร้อมกับศิลปินได้เลย
คุณภาพเสียง
แบบฟรี
- ต่ำ 24kbps
- ปกติ 96kbps
- สูง 160kbps
แบบ Premium
- สูงมาก 320kbps
โปรโมชัน
- ทดลองใช้ Spotify Premium ราคาพิเศษ 139.-/ 3 เดือน
Spotify เหมาะกับใคร
- คนที่ชอบความหลากหลาย ทั้งเพลง, พอดแคสต์ และหนังสือเสียง
2.JOOX
JOOX อีกแอปฟังเพลงที่เพื่อน ๆ หลายคนเลือกใช้ เปิดในไทยมานาน 9 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2559 จนถึงทุกวันนี้มีเพลงกว่า 40 ล้านเพลงจากทั่วโลก มีให้เลือกทั้งใช้บริการฟรีและสมัครสมาชิก อีกอย่างที่เก๋แล้วชอบมาก คือฟีเจอร์ร้องคาราโอเกะ จะเพลงไทย เพลงสากลก็มาเลย
มาดูจุดเด่นกัน!
- ถ่ายทอดสด ดูคอนเสิร์ตและไลฟ์สดจากศิลปิน พิเศษที่ JOOX โดยเฉพาะ
- เพิ่มอรรถรสด้วย JOOX Room แชทคุยกันแบบเห็นหน้า + ร้องเพลงไปพร้อมกัน
- มีฟีเจอร์เลือกร้องเพลงเป็นคาราโอเกะได้ สนุกขึ้นไปอีก
- JOOX BUZZ ทำคอนเทนต์คลิปสั้นลงแอป จะแนวไหนก็ทำได้ตามสไตล์เราเลย
ราคาสมาชิก
- 79.-/1 สัปดาห์
- 129.-/เดือน
- 349.-/3 เดือน
- 1329.-/ปี
เป็นสมาชิกของ JOOX ดียังไง ?
- ฟังเพลงเพลินไม่มีโฆษณาคั่นคอยกวนใจ
- โหลดเพลงฟังออฟไลน์ได้ไม่อั้น จะอยู่กี่ด้อม รักกี่ศิลปินก็มาเลย
- สลับเพลงได้ไม่จำกัด เรียงลำดับเพลงที่อยากฟังเองได้เต็มที่
- โหลดเพลงแบบคาราโอเกะ เอาไว้ร้องเพลงออฟไลน์ได้
- ฟังเพลงใหม่จากศิลปินได้ทันที ไม่ต้องรอเหมือน JOOX แบบฟรี
คุณภาพเสียง
แบบฟรี
- ปกติ 128 kbps
แบบ VIP
- สูงมาก 192 kbps
- Lossless 1,411 kbps
โปรโมชัน
- ทดลองใช้ JOOX VIP ราคาพิเศษ 59.-/เดือน (เดือนถัดไป 129.-)
JOOX เหมาะกับใคร
- คนที่ชอบร้องคาราโอเกะกับเพื่อน และอยากใกล้ชิดศิลปินมากขึ้น
3.Youtube Music
แอปฟังเพลง Youtube Music เป็นแอปที่ถูกพัฒนาโดย Youtube และ Google มีเพลง, MV และไลฟ์สดต่าง ๆ ให้เลือกฟังจุใจกว่า 100 ล้านผลงานจากทั่วโลก ซึ่งเปิดในไทยมาแล้วถึง 6 ปี ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2562 โดยสามารถเลือกใช้บริการฟรีหรือสมัครสมาชิกก็ได้เช่นกัน
มาดูจุดเด่นกัน!
- มีเพลง Cover และเพลงนอกกระแสให้ฟังเพียบ จากศิลปินทั่วโลก
- AI แนะนำเพลงใหม่ + มิกซ์เพลงให้ตรงตามแนวที่เราชอบและน่าสนใจ
- มีคอมมูนิตี้ให้พูดคุยแลกเปลี่ยน + แชร์เรื่องราวกันได้
- สรุปสถิติการฟังเพลงประจำปี เช่น ปีนี้เราฟังเพลงอะไรเยอะที่สุด
ราคาสมาชิก
- 139.-/เดือน
- 1,390.-/ปี
- นักศึกษา 72.-/เดือน
- ครอบครัว 5 คน 219.-/เดือน
เป็นสมาชิกของ Youtube Music ดียังไง ?
- ฟังเพลงเพลินไม่มีโฆษณาคั่นคอยกวนใจ
- โหลดเพลงฟังออฟไลน์ได้ จะขึ้นเครื่องก็ฟังเพลงโปรดได้
- สลับเพลงที่อยากฟังได้ไม่จำกัด
- สลับจากฟังเพลงมาดู MV ได้ง่าย แค่กดปุ่มเดียว ไม่ต้องเสียเวลาไปเปิด MV ใหม่อีกต่างหาก
คุณภาพเสียง
แบบฟรี
- ต่ำ 48 kbps
- ปกติ 128 kbps
แบบ Premium
- สูง 256 kbps
โปรโมชัน
- นักศึกษาทดลองใช้ Music Premium ฟรี! 1 เดือน (เดือนถัดไป 72.-)
Youtube Music เหมาะกับใคร
- คนที่ชอบฟังเพลงหลากหลาย ทั้งจากศิลปินและคนทั่วไป
- ชอบฟังเพลงไปด้วย ดูวิดิโอไปด้วย
4.Apple Music
แอปฟังเพลงอันสุดท้ายที่เอามาให้ดูก็ต้อง Apple Music ที่จัดว่าเป็นแอปที่เปิดให้บริการในไทยนานสุด ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 จนถึงทุกวันนี้ก็ 10 ปีแล้ว พูดถึงเรื่องจำนวนเพลงแน่นอนว่าไม่เป็นรองใคร มีเยอะมากกว่า 100 ล้านเพลง แถมยังมีสถานีวิทยุต่าง ๆ ให้เราได้เลือกฟังตามที่ชอบอีกด้วย อีกอย่างที่น่าสนใจขอพูดถึงฟีเจอร์ Apple Music Sing ร้องคาราโอเกะแบบปรับเสียงได้ เช่น ปรับให้เสียงศิลปินเบาลง เสียงเราชัดขึ้น หรือจะปรับร้องคลอไปพร้อมกันก็ทำได้
มาดูจุดเด่นกัน!
- ดูรายการสัมภาษณ์และคอนเสิร์ตจากศิลปิน Exclusive แค่ที่ Apple Music เท่านั้น
- AI คอยช่วยแนะนำเพลงใหม่ให้ตามสไตล์การฟังของเรา
- มีฟีเจอร์ร้องเพลงแบบคาราโอเกะได้ เปิดคอนเสิร์ตตัวเองไปเลยแบบนี้
- มีข่าวสารของศิลปินทั่วโลก คอยอัปเดตอยู่เรื่อย ๆ ไม่มีเอาท์แน่งานนี้
ราคาสมาชิก
- 139.-/เดือน
- นักศึกษา 79.-/เดือน
- ครอบครัว 5 คน 219.-/เดือน
เป็นสมาชิกของ Apple Music ดียังไง ?
- ฟังเพลงเพลินไม่มีโฆษณาคั่นคอยกวนใจ
- โหลดเพลงเก็บไว้ฟังออฟไลน์ได้
- สลับเปลี่ยนและเลือกเพลงที่อยากฟังได้ไม่จำกัด
- ขอเพลง, อัลบั้ม, เพลย์ลิสต์ และสถานีวิทยุ ผ่านการพูดหรือจะพิมพ์บอก Siri ก็ทำได้เหมือนกัน
- ระบบเสียงที่ลึก, คมชัด และมีคุณภาพมากขึ้น
คุณภาพเสียง
แบบฟรี
- สูง 256 kbps
แบบ Subcribe
- Lossless 48kHz
- Hi-Res Lossless 192kHz
โปรโมชั่น
- ทดลองใช้ Apple Music แบบ Subscribe ฟรี! 1 เดือน (เดือนถัดไป 139.-)
- ทดลองใช้ Apple Music แบบ Subscribe ฟรี! 3 เดือน (เดือนถัดไป 139.-) เมื่อซื้อ iPhone, iPad, Mac, AirPods หรืออุปกรณ์ Apple อื่นที่เข้าร่วม
Apple Music เหมาะกับใคร
- คนที่ชอบฟังทั้งเพลงและวิทยุ และอยากติดตามข่าวสารของศิลปิน
แอปฟังเพลง มาสรุปกันหน่อย
ไม่ว่าจะเพลงสไตล์ไหน ศิลปินสัญชาติอะไรแค่เปิดแอปฟังเพลง 4 แอปนี้ก็ได้จอยทุกอารมณ์ง่ายแค่ปลายนิ้ว ยิ่งถ้าสมัครสมาชิกยิ่งมีความจึ้งเข้าไปอีกระดับ ยังไงทุกคนลองเลือกดูนะว่าแอปไหน, ราคาสมาชิกแบบไหนที่ตอบโจทย์กับเรา ยังไงลองดูน้า~
👇🏻อ่านบทความที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ได้ที่นี่👇🏻
โดย JINFEB
🍀💜