เช็กลิสต์ [ต้องรู้] ซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมใบแรกให้คุ้มค่า ใช้ได้นาน
โดย : Pani
ซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมครั้งแรก ต้องรู้อะไรบ้างน้า?
เรารวบรวมข้อมูลมาไว้ให้แล้ว
หากพูดถึงกระเป๋าแบรนด์เนม รับรองว่าสาวๆ หลายคนต้องอยากได้เป็นเจ้าของกันสักใบ ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะ ที่เห็นปุ๊ปรู้ปั๊ป และไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน กระเป๋าเหล่านี้ ก็ยังคงความสวยคลาสสิกไว้ตลอดกาล วันนี้เราจึงขอแนะนำกระเป๋าแบรนด์เนมที่คุ้มค่าแก่การลงทุนและครอบครอง จะซื้อทั้งที่ต้องรู้อะไรบ้าง ต้องเช็กอะไรบ้าง เราบอกไม่มีกั๊ก จัดเต็มให้เลย
10 แบรนด์กระเป๋าสุดคลาสสิกไม่มีเอ้าท์ [โดนใจมือใหม่แน่นอน]
Hermès ยกให้เป็นที่สุดของกระเป๋าแบรนด์ระดับไฮเอนด์ ที่สาวๆ หลายคนอยากมีครอบครองไว้สักใบ แม้จะมีราคาที่แสนแพงชนิดที่ว่า บางรุ่นนั้นมีมูลค่าเทียบเท่าได้กับรถยนต์หรือบ้านหลังนึงได้เลยทีเดียว แต่ก็ยังคงเป็นที่ต้องการของลูกค้าจนแทบผลิตไม่ทันกันเลย
ราคา : เริ่มต้น 300,000.-
ถึงแม้ราคาจะแพงแต่ก็แลกมาด้วยกระเป๋าคุณภาพชั้นสูง ด้วยกระบวนการผลิตอย่างพิถีพิถัน ใช้วัสดุชั้นดี และกระเป๋าหนังของ Hermès ทุกใบเป็นการตัดเย็บด้วยมือ โดยใช้หนังระดับเกรดเอ ทั้งหนังวัว หนังนกกระจอกเทศ หนังจระเข้ ซึ่งจระเข้ที่นำมาทำกระเป๋าจะถูกเลี้ยงในบ่อหินอ่อนเพื่อให้ได้หนังที่เรียบเนียนที่สุด ไม่มีรอบขีดข่วน และถูกแยกเลี้ยงเดี่ยวบ่อละตัวเท่านั้น ช่างตัดเย็บแต่ละคนจะต้องผ่านการฝึกฝนมาเป็นเวลา 3 ปี จึงจะได้รับการอนุญาตให้ผลิตกระเป๋า
นอกจากการผลิตที่ละเอียดแล้ว ลูกค้าของ Hermès ไม่ใช่เพียงแต่มีเงินแล้วจะสามารถซื้อได้เลยทันที เพราะแบรนด์ก็จะกำหนดกลุ่มลูกค้าที่จะได้เป็นเจ้าของ มีเงื่อนไขในการซื้อ เช่น บุคลิกที่เหมาะสมและคู่ควร หรือจะต้องเป็นลูกค้าประจำก่อน ซึ่งหากเราอยากได้กระเป๋าจะต้องซื้อสินค้าประเภทอื่นๆ เช่น เข็มขัด นาฬิกา ต่างหู กำไลข้อมือ เป็นต้น เพื่อให้มีประวัติในการซื้อขายนั่นเอง และหากเป็นลูกค้าประจำแล้ว จะเดินเข้าไปที่ Shop Hermès แล้วซื้อเลยก็ไม่ได้อีกนะ เนื่องจากสินค้าเป็นงานแฮนด์เมด จะใช้เวลาในการผลิต ยิ่งถ้าเป็นรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่น อาจต้องรอนานเป็นปีๆ ว่าจะได้กระเป๋ามาครอง
รุ่นยอดฮิต Hermès คือ Birkin และ Kelly
ความแตกต่างระหว่างสองรุ่นยอดฮิต
กระเป๋า Hermès รุ่น Kelly จะมีสองสไตล์
-
Sellier หรือ Rigide มีรูปร่างและโครงสร้าง ด้วยการเย็บเข้ามุมที่แข็งแรง และภายนอกการเย็บจะไม่สามารถมองเห็นตะเข็บจากการเย็บ ทำให้มีรูปทรงที่แข็งแกร่งและขอบที่คม
-
Retourne หรือ Souple จะมีรูปทรงที่ดูนุ่มนวลกว่าแบบแรก การผลิตนั้นกระเป๋าจะถูกกลับเอาด้านในออกมา มีขอบที่โค้งมนและสามารถมองเห็นถึงตะเข็บการเย็บได้
ตัวอย่างหนังที่นำมาทำกระเป๋า Hermès
Chanel แบรนด์กระเป๋าในฝันของสาวๆ หลายคน ที่ยังคงสวยงามคลาสสิกตลอดกาล ด้วยรูปทรงอันเป็นเอกลักษณ์ ดีไซน์ที่เน้นความเรียบหรู ถือแล้วดูดีสุดๆ จะใช้เองก็ดี หรือจะซื้อไว้เพื่อการลงทุนก็คุ้มค่า มีรุ่นไหน แบบไหนที่ฮิตๆ กันบ้างมาดูกันเลย
มากันที่รุ่นแรก CHANEL 2.55 ตัวกระเป๋าแต่งด้วยลายควิลท์ สามารถเลือกประเภทหนังได้ มีทั้งหนังงู หนังลูกแกะ และหนังจระเข้ ฟังก์ชันด้านใน มีช่องใส่ของมากถึง 7 ช่อง พร้อมสายสะพานทำจากโซ่ล้วน ซึ่งวางขายครั้งแรกในปี 1995 และจากวันที่วางขายวันถึงวันนี้ ราคาของกระเป๋าได้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 70% เลยทีเดียว คุ้มค่าแก่การครองครอบสุดๆ ไปเลยจ้า
ผ้าทวีตขนสัตว์ ราคา : เริ่มต้น 145,000.-
หนังแกะ หนังแพะ หนังลูกวัว ราคา : เริ่มต้น 190,000.-
Chanel Boy อีกหนึ่งดีไซน์ที่ได้รับกระแสตอบรับจากทั่วโลกเป็นอย่างดี กับดีไซน์สไตล์โมเดิร์นขนาดกะทัดรัด เหมาะกับทุกวัย เรียบง่าย เข้าได้กับทุกลุค นอกจากสีดำแล้ว ยังมีสีอื่นๆ ให้เลือกอีกหลากหลายโดนใจสุดๆ
ราคา : เริ่มต้น 150,000.-
Chanel’s Gabrielle อีกหนึ่งรุ่นฮิตที่เหล่าคนดังใช้กันเพียบ กับกระเป๋าหนังที่ประดับด้วยสายโซ่โลหะ ตัวกระเป๋ามีหนังให้เลือกหลายแบบ ทั้งหนังงู หนังจระเข้ รุ่นนี้เพิ่มลูกเล่นความเก๋ด้วยการปรับสายสะพานได้หลายแบบ และยังถูกออกมาให้ใช้งานได้แบบ unisex หญิงใช้ได้ ผู้ชายใช้ก็ดี เข้าได้ทั้งกับลุคสวยๆ วันลุยๆ หรือวันสบายๆ ก็หยิบมาใช้ได้ทุกวันทุกโอกาสเลยทีเดียว
ราคา : เริ่มต้น 130,000.-
Chanel Classic Flap รุ่นยอดฮิตตลอดกาล สมกับคำว่า สวยคลาสสิกจริงๆ สำหรับกระเป๋ารุ่นนี้ แม้จะมีการพัฒนาดีไซน์รูปลักษณ์ ทั้งสีกระเป๋า หนังที่ใช้ทำ หรืออะไหล่ของอุปกรณ์เพียงเล็กน้อย แต่ก็ไม่ละทิ้งความเป็นตัวตนของรุ่นนี้ไปได้เลย สนนราคารุ่นนี้ก็หลักแสน แต่คุ้มค่าแก่การครอบครอง ไม่ว่าจะซื้อใช้หรือขายต่อ กำไรดีงามแบบสุดๆ
ราคา : เริ่มต้น 190,000.-
5 ข้อควรรู้ก่อนซื้อ แอดขอแนะนำเสนอรุ่นนี้เลย “Chanel Classic Bag”
1. มีให้เลือกหลากหลายขนาด ตั้งแต่ Mini จนถึง Maxi
2.วัสดุที่นำมาใช้มีให้เลือกหลากหลาย แต่หนังที่ได้รับความนิยมอย่างมากคือ Lambskin และ Caviar Leather
3.สียอดนิยมของกระเป๋า Black และ Beige เป็นสีที่ขายดีที่สุดตลอดกาล แต่ชาแนลก็ยังมีสีอื่นๆ ให้เลือกด้วยเช่นกัน
4.สีฮาร์ดแวร์
5.กระบวนการผลิตที่ได้คุณภาพสูง กระเป๋าแข็งแรงทนทาน สวยงามทุกใบ
Christian Dior กระเป๋าไฮเอนด์สัญชาติฝรั่งเศส ที่ความเก่าแก่แต่หรูหราที่สุดแบรนด์หนึ่งของโลก คงความสวยงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สะท้อนความหรูหราอย่างมีระดับและทันสมัย
สำหรับรุ่นฮิตยอดนิยมตลอดกาล คือ Lady Dior เป็นกระเป๋าที่ไม่เคยตกเทรนด์ ดีไซน์โดดเด่นด้วยรูปทรงสี่เหลี่ยม ตัดเย็บหนังด้วยลวดลายคานนาจ (Cannage) มีหูจับ 2 ข้าง เชื่อมด้วยห่วงสีโลหะและและตัวอักษร D i o r แม้จะมีการปรับขนาด เพิ่มสีสัน และวัสดุต่างๆ ออกมาอีกหลากหลายแบบ แต่รุ่นนี้ก็ยังถือเป็นรุ่นในตำนาน ที่คงความสวยงามคลาสสิกและขายดีอันดับหนึ่งของแบรนด์
ราคา : เริ่มต้น 98,000.-
[4 ข้อ ควรรู้ก่อนซื้อ Lady Dior]
1.กระเป๋ารุ่นนี้มีให้เลือก 4 ขนาด คือ Micro, Mini, Medium,Large
2.วัสดุที่นำมาใช้ทำกระเป๋า มีทั้งหมด 14 แบบ แต่จะมี 3 รุ่นยอดฮิต คือ Lambskin, Grained Calfskin, Patent
3. สียอดนิยมฮอตฮิตขายดี 3 อันดับ
4. ฮาร์ดแวร์ของกระเป๋า มีให้เลือก 2 แบบ คือ Silver และ Light Gold
5.ขั้นตอนการผลิตที่ะเอียดพิถีพิถันทุกขั้นตอน
นอกจากรุ่นที่กล่าวไปแล้ว ยังมีอีก 2 รุ่นแนะนำคือ
Saddle Bag ราคา : เริ่มต้น 80,000.-
Book Tote Bag ราคาเริ่มต้น 83,000.-
Louis vuitton ต้องยกให้เป็นที่สุดของกระเป๋าแบรนด์เนมที่สาวๆ อยากได้กันมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ด้วยดีไซน์ที่มีให้เลือกหลากหลาย ยิ่งรุ่นไหนที่ดาราคนโปรดใช้ รุ่นนั้นยิ่งเป็นกระเป๋าแรร์ไอเทมที่สาวๆ ตามหามาครอบครองกัน ด้วยความสวยงามคลาสสิกและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้สามารถหยิบมาใช้ได้แบบไม่มีเอาท์ และยังเข้าได้กับทุกลุคอย่างง่ายดาย
[กระเป๋ารุ่นยอดนิยม ของ Louis vuitton #ของมันต้องมี]
1.Speedy กระเป๋ารุ่นนี้ไม่เคยตกยุค สามารถหยิบมาใช้ได้ทุกวัน จุของได้เยอะ มีให้เลือกหลายไซซ์ นอกจากสวยงามแล้วยังแข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้นาน คุ้มค่าแก่การครอบครองจริงๆ
ราคาเริ่มต้น : 30,000.-
นอกจากลายโมโนแกรมแล้ว ยังมีลายอื่นๆ ให้เลือกอีกด้วย
2. Neverfull อีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เปิดตัวครั้งแรกในปี 2007 จนปัจจุบันนี้ยังเป็นรุ่นที่ครองใจสาวๆ ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ดีไซน์ตัวกระเป๋าสวยงามคลาสสิกแบบฉบับหลุยส์ วิตตอง และสามารถจุใของได้เยอะมากๆ
ราคาเริ่มต้น : 44,000.-
รุ่นนี้มีขนาดให้เลือก 3 ไซซ์
วัสดุใช้ผลิตกระเป๋า
ภายในกระเป๋าด้านในก็มีให้เลือกหลากหลาย
สีทั้งหมดของ EPI
พิเศษสำหรับรุ่นนี้ ยังมีใบเล็กเพิ่มเติมให้ใส่ของเล็กๆ น้อยๆ จะไว้ด้านในหรือโชว์ไว้ด้านนอกแบบเก๋ๆ ก็สวยงามไปอีกแบบ หากไม่ใช้ยังสามารถถอดออกจากตัวกระเป๋าได้อีกด้วย
3.Alma หรือที่ใครๆ เรียกกันติดปากว่า กระเป๋ารุ่นอาม่า ออกวางจำหน่ายครั้งแรก ค.ศ. 1934 แม้จะออกมานาน แต่ยังเป็นกระเป๋าที่ขายดีติดอันดับตลอดของแบรนด์
ราคาเริ่มต้น : 46,000.-
สำหรับรุ่น Alma มีวางจำหน่าย 4 ขนาด
วัสดุที่ใช้
4. Multi Pochette Accessoires นาทีนี้ไม่มีรุ่นไหนมาแรงเท่านี้อีกแล้ว เป็นรุ่นตามหาที่ถือเป็นแรร์ไอเทม หาซื้อยากมากๆ และราคาก็แรงแซงหลักแสนไปแล้ว สำหรับกระเป๋ารุ่นนี้ขอบอกเลยว่าตอนนี้ในช็อปเองก็หมดเกลี้ยงเช่นกัน เหล่าคนดังในบ้านเราที่ใช้กระเป๋ารุ่นนี้ ถือแล้วสวยปังมาก คือ ญาญ่าและน้องเก้า สวยโดนใจจริงๆ
กระเป๋ารุ่น Multi Pochette Accessoires ประกอบด้วยกระเป๋าลายโมโนแกรม 3 ใบที่สามารถถอดแยกออกจากกันได้ โดยจะมีกระเป๋าใบใหญ่ กระเป๋าใบเล็กติดอยู่ด้านหน้า และกระเป๋าใส่เหรียญ มาพร้อมสายสองเส้น คือ สายโซ่และสายผ้า ซึ่งสายผ้าจะมีสายสีเขียวและสายสีชมพู หากใครอยากได้สายทั้งสองสี สามารถเพิ่มได้ในราคา 15,000 บาท
ราคาเริ่มต้น : 60,000.- แต่ปัจจุบันหายาก ทำให้กระเป๋าใบนี้ เป็นแรร์ไอเทมที่ถูกตามหา ราคาพุ่งขึ้นสูงหลักแสนแล้วจ้า
5.NÉONO กระเป๋าหนังทรง Bucket Bag หรือที่เรียกกันว่า กระเป๋าทรงขนมจีบ ดีไซน์น่ารักสุดๆ แถมยังจุของได้เพียบ มีให้เลือกทั้งแบบลายโมโนแกรม และลายหนัง Epi พร้อมสายหนังสามารถปรับระดับได้ สะพายได้ทั้งแบบข้าง สะพาย crossbody น่ารักขนาดนี้ของมันต้องมีแล้วล่ะ!
ราคาเริ่มต้น : 48,000.-
Fendi แบรนด์กระเป๋าสัญชาติอิตาลี เป็นที่นิยมมากในหมู่คนดังและดาราฮอลลีวูด รวมถึงดาราไทยหลายๆ เปิดตัวกันที่รุ่น Peekaboo ซึ่งถ้าพูดถึงกระเป๋าแบรนด์นี้จะต้องนึกถึงรุ่นนี้เป็นอันดับแรกๆ อย่างแน่นอน รุ่นนี้จะมีสัญลักษณ์โดดเด่นอยู่ที่ฮาร์ดแวร์ของกระเป๋า ที่มีลักษณะคล้ายดวงตา ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังมีการเพิ่มลูกเล่นอื่นๆ ทั้งลวดลายและวัสดุ มาอัปเดตเทรนด์ใหม่ๆ ให้เลือกซื้อกันอยู่เสมอ
Peekaboo ราคา : เริ่มต้น 100,000.-
นอกจากรุ่นที่กล่าวไปแล้ว มีอีกรุ่นที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน Fendi Baguette กระเป๋าสะพายใบเล็ก ใส่ของได้ไม่เยอะมาก แต่ราคาแรงมาก ซึ่งหลังจากทำการเปิดตัวรุ่นนี้ก็ได้รับความนิยมอย่างมาก ทำให้สร้างยอดขายได้ถึง 100,000 ใบในปีแรกที่เปิดตัว และยิ่งทวีคูณความอยากได้มากยิ่งขึ้นเข้าไปอีก เมื่อแคร์รี แบรดชอว์ ตัวละครจากซีรีส์เรื่อง sex and the city ได้ใช้รุ่นนี้เป็นกระเป๋าประจำตัว ในปัจจุบันได้มีการออกแบบคอลเลกชันใหม่ๆ เพิ่มลวดลายต่างๆ ก็ยังคงได้รับกระแสตอบรับที่ดีอยู่เสมอ
Baguette ราคา : เริ่มต้น 100,000.-
3 ข้อ รู้ไว้ก่อนซื้อ! กระเป๋ารุ่น Peekaboo
1.มีให้เลือกทั้งหมด 4 ขนาด
2.วัสดุที่นำมาใช้ทำกระเป๋ามีให้เลือกกว่า 18 ชนิด (วัสดุที่นำมาจากหนังสัตว์ ยิ่งเป็นสัตว์หายากยิ่งมีราคาแพงมากยิ่งขึ้น)
3.อัปเดตสีของกระเป๋าที่มีวางจำหน่าย
Goyard กระเป๋าสุดคลาสสิกจากแบรนด์เก่าแก่ของฝรั่งเศส มีมานานกว่า 200 ปี โดยไม่เคยใช้การโฆษณาหรือใช้ดาราเซเลบคนดังในการช่วยโปรโมทแบรนด์ แต่ยังคงยืนหยัดอยู่ติดอันดับกระเป๋าแบรนด์เนมยอดนิยมเสมอมา ทางแบรนด์ได้รักษาเอกลักษณ์และคุณภาพไว้โดยไม่เปลี่ยนแปลง
รุ่นกระเป๋ายอดนิยมของ Goyard
แต่สำหรับรุ่นฮอตฮิตเป็นที่นิยมตลอดกาลของแบรนด์ที่อยากจะแนะนำคือ Goyard Saint Louis Tote ซึ่งความพิเศษของกระเป๋าใบนี้คือแต่ละใบจะถูกเพ้นท์ลายโมโนแกรม Chevron ด้วยมือเท่านั้น เลยทำให้เป็นหนึ่งในกระเป๋าแบรนด์เนมที่ได้หลายคนต้องการ แต่ในปัจจุบัน Goyard อาจจะไม่ได้ใชการวาดมือลงบนสินค้าทุกชิ้น แต่หากลูกค้าออเดอร์พิเศษมา ก็สามารถสั่งทำได้ แต่ขอบอกเลยว่า ราคาก็จะสูงขึ้น เพราะต้องผลิตออกแบบ ใส่ไอเดียสร้างสรรค์ให้ออกมาเป็นผลงานชิ้นยอด
ตัวอย่างดารา เซเลบคนดังที่ใช้กระเป๋าแบรนด์นี้
[5 ข้อควรต้องรู้ ก่อนซื้อ Goyard Saint Louis Tote]
1.Goyard ไม่มีช้อปในไทย ใกล้สุดที่หาซื้อได้คือที่สิงคโปร์ และยังไม่มีบริการขายทางออนไลน์ เรียกได้ว่าอยากได้ต้องตามหากันสักหน่อย
2.Goyard Saint Louis Tote มีให้เลือก 2 ขนาด
Goyard St. Louis Tote PM ขนาด กว้าง 11 นิ้ว x สูง 19 นิ้ว x ลึก 6 นิ้ว : ราคาเริ่มต้น 51,000.-
Goyard St. Louis Tote GM ขนาด กว้าง 13 นิ้ว x สูง 23 นิ้ว x ลึก 7 นิ้ว : ราคาเริ่มต้น 59,000.-
3.สำหรับรุ่นนี้มีให้เลือกมากมาย
(black, black/tan, white, red, burgundy, sky blue, navy, orange, yellow, green, grey) และ milled calfskin
4.วัสดุที่ใช้ในการทำกระเป๋า สำหรับรุ่นนี้ ตัวกระเป๋าจะทำมาจากผ้าลินินและผ้าป่าน หรือที่เรียกกันว่า Goyardine แล้วเคลือบชั้นกระเป๋าให้มีความแข็งแรงทนทานมากยิ่งขึ้น
5.กระเป๋ารุ่นนี้ลูกค้าสามารถสั่งพิเศษให้วาดลวดลายต่างๆ ทำการเพ้นท์ด้วยสีน้ำชนิดพิเศษ โดยช่างผู้เชี่ยวชาญ จะรังสรรค์ลวดลายไว้อย่างสวยงาม
Balenciaga ขอบอกเลยว่าเป็นกระเป๋าแบรนด์เนมที่เหล่าแฟชั่นนิสต้า คนดัง เซเลบต่างๆ ต้องมี และยังเป็นกระเป๋าโปรดในดวงใจสำหรับคนที่ชื่นชอบกระเป๋าแบรนด์อีกด้วย รุ่นที่ฮอตฮิตสุดๆ คือ Balenciaga Classic City ด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวหนังที่นำมาทำกระเป๋า เป็นหนังนุ่มๆ มีรอยยับหน่อยๆ แต่งด้วยหมุดโลหะ กระเป๋าด้านหน้าเป็นซิปแล้วประดับด้วยพู่ ขอบอกเลยว่ารุ่นนี้ในช้อปไทยขายดีมากๆ
Balenciaga หลายคนสับสนว่าคำนี้จริงๆ แล้วนั้น ต้องอ่านออกเสียงว่าอะไรกันนะ เรามีคำตอบให้ Balenciaga เป็นดีไซเนอร์ชาวสเปน ดังนั้นคำว่า Balenciaga สามารถอ่านออกเสียงได้ว่า "บาเลนเซียก้า" แต่การออกเสียงว่า "บาลองซิเอก้า" หรือ "บาลองเซียก้า" เป็นการอ่านออกเสียงแบบฝรั่งเศส นั่นเองจ้า
[สิ่งที่ต้องรู้ ก่อนซื้อ Balenciaga Classic City]
1.กระเป๋ารุ่นนี้มีให้เลือก 3 ขนาด คือ
Classic City Bag ไซซ์ปกติ : สูง 10 นิ้ว x กว้าง 15 นิ้ว x ลึก 6 นิ้ว
ราคาเริ่มต้น : 63,000.-
Classic City Bag ไซซ์เล็ก : สูง 7.5 นิ้ว x กว้าง 11.5 นิ้ว x ลึก 4 นิ้ว
ราคาเริ่มต้น : 59,000.-
Classic City Bag ไซซ์มินิ : Classic City Bag : สูง 6.5 นิ้ว x กว้าง 19.5 นิ้ว x ลึก 3.75 นิ้ว
ราคาเริ่มต้น : 50,000.-
2.วัสดุ Leathers
3.ฮาร์ดแวร์
4.Balenciaga Colors
เดิมทีแบรนด์จะผลิตเพียงแต่สีดำและน้ำตาล แต่เมื่อกระเป๋าได้รับความนิยมมากขึ้น จึงมีการผลิตสีอื่นๆ เพิ่มขึ้น
5.Balenciaga Handbag Styles
Prada แบรนด์หรูชื่อดังจากอิตาลี น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้ คือคำนิยมของกระเป๋าแบรนด์นี้ได้อย่างเหมาะสมลงตัวสุดๆ ด้วยดีไซน์ที่เรียบหรู ทำให้ Prada เป็นกระเป๋าในฝันของสาวๆ หลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งรุ่น Saffiano Lux
[ข้อควรรู้ก่อนซื้อ Prada Saffiano Lux]
1.Prada Saffiano Lux Tote จะมีทั้งหมด 5 ไซซ์ คือ 25,28,30,33,35
2.วัสดุกระเป๋า
Saffiano เป็นชื่อของหนังประเภทหนึ่ง ที่ทางแบรนด์ได้เลือกนำมาใช้ในการผลิตกระเป๋ารุ่นนี้ ซึ่งหนัง Saffiano นั้นทำขึ้นจากการพิมพ์ลาย มีลักษณะเฉพาะเป็นลายตัดขวาง เมื่อนำมาผลิตกระเป๋าจึงทำให้ดูเรียบหรู คลาสสิก และนอกจากความสวยงามแล้ว ยังมีความทนทาน ใช้งานได้นาน และกันน้ำได้ดีอีกด้วย
3.ฮาร์ดแวร์
นอกจากนี้รุ่นที่แนะนำแล้ว Prada ยังมีกระเป๋ารุ่นและทรงอื่นๆ ให้เลือกอีกมากมาย
Gucci กระเป๋าสัญชาติอิตาเลียน ที่ไม่มีใครไม่รู้จัก ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะของลายกระเป๋า คือ ลายโมโนแกรมและโลโก้ GG เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งใน wish list กระเป๋าแบรนด์เนมที่ติดอันดับครองใจสาวๆ มาโดยตลอด
ขอแนะนำกระเป๋า 5 รุ่นยอดฮิตติดอันดับขายดีของ Gucci
Gucci Dionysus ออกวางจำหน่ายครั้งแรกในช่วง Fall/Winter 2015 เป็นการผสมผสานระหว่างความเก่าและความใหม่ในสไตล์กุชชี่ ไว้อย่างลงตัว พร้อมด้วยดีไซน์กระเป๋าลายโมโนแกรม เพิ่มลูกเล่นด้วยหนังกลับ ขอบอกเลยว่ารุ่นนี้ เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดของ Gucci อีกด้วย ไม่แปลกใจเลยล่ะที่กระเป๋ารุ่นนี้จะเป็นที่หมายปองของสาวๆ หลายคน
Gucci Dionysus : ราคาเริ่มต้น 69,000.-
หนึ่งในโปรดของเหล่าคนดังที่มักจะพบเห็นกันบ่อยๆ ตามสื่อต่างๆ ด้วยดีไซน์ตัวกระเป๋าที่มีลวดลายที่ถูกปั้มลงบนหนังดูซับซ้อน แต่สวยงามพร้อมกับฮาร์ดแวร์สีทอง ประดับโลโก้ GG กระเป๋ารุ่นนี้ถูกทำออกมาหลายสี แต่อะไหล่ของกระเป๋าจะมีเพียงสีทองสีเดียวเท่านั้น
Gucci GG Marmont : ราคาเริ่มต้น 57,000.-
กระเป๋าดีไซน์เรียบ แต่เพิ่มลูกเล่นด้วยการปั้มโลโก้ GG แบบนูน มีขนาดกระทัดรัด มาพร้อมพู่หนังเก๋ๆ ด้านข้าง ฮาร์ดแวร์ใช้เป็นวัสดุสีทอง ตัวหนังทำจากหนังแท้ มีความนุ่มน่าสัมผัส ซึ่งด้วยความเรียบแต่หรู จึงเป็นที่ถูกใจเหล่าดารา เซเลบคนดังหลายคน ใช้เป็นกระเป๋าคู่ใจ จนทำให้รุ่นนี้ฮอตฮิตติดอันดับขายดีสุดๆ อีกรุ่นหนึ่งเลยทีเเดียว
Gucci Soho Disco : ราคาเริ่มต้น 35,000.-
Gucci Padlock รุ่นนี้ออกวางจำหน่าครั้งแรกในช่วงซัมเมอร์ 2016 ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ด้วยดีไซน์กระเป๋าลายโมโนแกรมบนผ้าแคนวาส และหนังงู พร้อมฮาร์ดแวร์สีทอง และตัวปิดล็อกสีทองสว่างโดดเด่นสะดุดตา แถมยังทำออกมาให้เลือกหลายขนาด ตั้งแต่เล็ก กลาง ใหญ่ รวมถึงแบบเป้ ตอบโจทย์สาวๆ ทุกสไตล์จริงๆ
Gucci Padlock : ราคาเริ่มต้น 52,000.-
ปิดท้ายกันที่รุ่น Sylvie Bag เป็นรุ่นที่สวยหรูแบบฉบับกุชชี่สไตล์แท้จริง ด้านบนที่จับเป็นเนื้อผ้าไนลอนเย็บติดกับหนัง ประดับโซ่สีทองตัดกับสีกระเป๋าเป็นอย่างดี ซึ่งดีไซน์นี้ได้รับแรงบันดาลใจจากทหาร ขอบอกเลยว่ารุ่นนี้ให้ความสวยแบบคลาสสิกที่ไม่ว่าจะลุคไหน ก็ใช้ได้ทุกวันไม่มีเบื่อเลยทีเดียว
Gucci Sylvie Bag : ราคาเริ่มต้น 80,000.-
และพิเศษมากสำหรับปีนี้ ทาง Gucci จึงได้ออกคอลเลกชันพิเศษต้อนรับปีหนูทอง x Disney Mickey Mouse น่ารักมากจริงๆ
Céline ขอยกให้เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่กำลังมาแรงสุดๆ ในช่วงนี้เลย สำหรับกระเป๋าแบรนด์ Céline มีความแตกต่างจากกระเป๋าแบรนด์อื่นๆ ตรงที่แม้จะไม่มีโลโก้ออกมาให้เห็นอย่างเด่นชัดบนตัวกระเป๋า แต่กลับสร้างความจดจำด้วยเอกลักษณ์รูปทรงขอกระเป๋า ที่บอกเลยว่าเห็นปุ๊ปรู้ปั๊ป กับรุ่น Céline Luggage กระเป๋าทรงสี่เหลี่ยมทรงสูง มีช่องซิปพร้อมหูกระเป๋ายาวที่มีความแข็งแรง รูปทรงของกระเป๋าดีไซน์เก๋กางปีกข้างออกได้ ด้านในเป็นช่องโล่งๆ มีซิปปิดด้านบน แถมยังมีให้เลือกหลายขนาด
และในปีนี้ หากใครซื้อกระเป๋ามาแล้ว มีตัวสะกดที่เปลี่ยนจากไป เดิม Céline จะเปลี่ยนเป็น Celine ไม่ต้องแปลกใจกันนะ เพราะรุ่นที่ไม่มีเครื่องหมายที่ตัว e จะผลิตตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นไป
[ข้อควรรู้ก่อนซื้อกระเป๋า Céline Luggage]
1.ขนาดของกระเป๋า มี 4 ไซซ์
2.วัสดุ
นอกจากรุ่นที่กล่าวไปแล้ว Céline ยังมีอีกรุ่นที่เป็นที่นิยมของเหล่าแฟชั่นนิสต้าและดาราดัง คือ Celine Micro Belt Bag รุ่นนี้มีสไตล์ที่โดดเด่น ด้วยการปิดพับด้านหน้ากระเป๋าและตกแต่งด้วยสายเข็มขัด ตัวกระเป๋าทำมาจากหนังวัวที่มีความนุ่ม แต่งด้วยฮาร์ดแวร์สีทอง ด้านในบุด้วยหนังกลับของหนังลูกวัวอ่อน มีสีให้เลือกหลากหลาย และยังถูดดีไซน์ให้ใช้งานได้หลายแบบ ทั้งคล้องแขน ครอสบอดี้ หรือสะพายไหล่ ก็ได้ทุกแนว
ราคาเริ่มต้น : 70,000.-
อีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างมาก คือ Celine Triomphe Bag ซึ่งกระเป๋าใบนี้ เป็นใบที่ศิลปินชื่อดังอย่าง ลิซ่า-แบล๊คพิงค์ สะพายมาร่วมงานแฟชั่นโชว์ที่ฝรั่งเศส ซึ่งไอดอลสาวคนนี้เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงระดับโลก หยิบจับหรือใช้อะไร มักจะกลายเป็นแรร์ไอเทมที่สาวๆ สนใจและอยากใช้ตาม แต่ก่อนจะตัดสินใจซื้อมาทำความรู้จักกระเป๋ารุ่นนี้ พร้อมข้อมูลเบื้องต้นกันก่อนดีกว่า
[ข้อควรรู้ก่อนซื้อ Celine Triomphe]
1.Celine Triomphe Bag จะเป็นกระเป๋าทรงกล่องคล้าย Classic Box มาพร้อมลูกเล่นที่สะดุดด้วยโลโก้สไตล์วินเทจ ใช้ฮาร์ดแวร์โลหะสีทองเพิ่มความหรูหรา มาพร้อมกับสายหนังซึ่งสามารถปรับระดับได้ ใช้ได้ทั้งสะพายไหล่และ crossbody
2.สีที่วางจำหน่าย
3.วัสดุที่ใช้ทำกระเป๋า
4.ราคาของกระเป๋ารุ่นนี้ขึ้นอยู่กับขนาดและหนังที่ใช้
หนัง shiny calfskin ราคาเริ่มต้น 98,000 บาท
หนัง Lizard ราคาเริ่มต้น 200,000 บาท
หนัง Crocodile ราคาเริ่มต้น 750,000 บาท
เราจะมีกระเป๋ากี่ใบก็ได้ แต่หลายคนอาจจะไม่รู้ชื่อของทรงกระเป๋าแบบต่างๆ วันนี้เรารวบรวมมาให้แล้ว กับชื่อเรียกระเป๋าทรงยอดฮิตแบบต่างๆ มาดูกันเล้ยยย
1.Baguette Bag ทรงกระเป๋าที่มีชื่อเรียกเหมือนขนมปังฝรั่งเศส (บาแกตต์) ด้วยรูปทรงที่มีขนาดความยาวมากกว่าความสูง ไซซ์กะทัดรัด เหมาะกับการใส่ของเล็กๆ น้อยๆ
2.Backpack หรือเรียกง่ายๆ ว่า เป้ บางรุ่นถูกดีไซน์ให้สะพายได้ทั้งด้านหลัง หรือ จะสะพายเฉียงไว้ด้านข้างก็ได้เช่นกัน เหมาะกับวันลุยๆ ลุคเท่ๆ
3.Bowler Bag กระเป๋าที่เดิมทีผลิตมาเพื่อใส่ลูกโบว์ลิ่ง ลักษณะคล้ายสี่เหลือมที่มีความโค้งมน ตัวหูจะเป็นวัสดุเดียวกับตัวกระเป๋า มีความแข็งแรง ขนาดกระเป๋าค้อนข้างใหญ่ ใส่ของได้อย่างเต็มที่
4.Bucket Bag เดิมทีกระเป๋าทรงนี้ได้ต้นแบบมาจากกระเป๋าสำหรับไว้ใส่ขวดไวน์ รูปทรงเหมือนกับถังหรือตระกร้า มีสายรัดสำหรับรูดเปิดปิด และมีสายสะพานยาว เป็นอีกรุ่นที่น่ารักมากๆ เลยทีเดียว
5.Clutch กระเป๋าขนาดเล็กไม่มีสายสะพายหรือสายคล้องมือมาให้ โดยปกติแล้วจะถูกใช้เป็นกระเป๋าสำหรับออกงาน ใส่ของได้ไม่ค่อยมาก เน้นการตกแต่งด้วยวัสดุพิเศษ ใช้ถือเพื่อความหรูหราสวยงามอย่างแท้จริง
6.Crossbody Bag กระเป๋าทรงนี้มีชื่อเรียกตามการใช้งาน คือ ใช้สำหรับสะพายเฉียงจากไหล่ด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง สายจะมีความยาวและส่วนใหญ่มักจะปรับระดับความยาวของสายได้
7.Messenger Bag ต้นแบบกระเป๋ามากจากรูปแบบการใช้งานของเมสเซนเจอร์ สามารถใส่เอกสารและจุของได้เยอะ มาพร้อมสายสะพายยาวคาดลำตัว เป็นทรงที่นิยมใช้สำหรับผู้ชาย แต่ถ้าผู้หญิงก็จะได้ลุคเท่ๆ ไปอีกแบบ
8.Saddle Bag กระเป๋าสะพายที่มีลักษณะรูปทรงคล้ายกับอานม้าหรืออานจักรยาน มาพร้อมสายยาวที่สามารถสะพายคล้องกับช่วงไหล่ได้
9.Top Handle กระเป๋าสะพายที่มีหูหิ้วสำหรับคล้องแขน นิยมใช้ถือมากกว่าสะพาย แต่สำหรับางรุ่นก็มีสายสะพายยาวให้ด้วยเช่นกัน
10.Tote Bag กระเป๋าสะพายที่มีขนาดกลางไปถึงจนใหญ่ หรือหลายคนมักจะเรียกทรงนี้ว่า ทรงช้อปปิ้ง มาพร้อมสายสะพายไหลขนาดกำลังพอดี มีหูถือได้ทั้งสองข้าง บางรุ่นมีซิบ แต่บางรุ่นอาจเป็นลักษณะกระเป๋าเปิดกว้างไม่มีซิป และที่สำคัญยังจุของได้เยอะมากๆ
วัสดุที่นิยมใช้ในการทำกระเป๋าแบรนด์เนม พร้อมวิธีการดูแลรักษา
กระเป๋าแต่ละรุ่นจะผลิตด้วยหนังหรือวัสดุที่ไม่เหมือนกัน จึงทำให้การดูแลรักษาจึงแตกต่างกันออกไป แต่วันนี้เราจะมาขอแนะนำหนังที่นิยมาใช้ในการทำกระเป๋า และวิธีการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง เพื่อให้กระเป๋าใบโปรดอยู่คู่กับเราไปนานๆ
หนังแพะ (Goatskin) เป็นหนังที่มีลวดลายสวยงามชัดเจน และให้สัมผัสที่อ่อนนุ่ม ทนทานต่อรอยขีดข่วน และที่สำคัญดูแลทำความสะอาดได้ง่าย
หนังแกะ (Lambskin) จะมีสัมผัสคล้ายกับหนังแพะ แต่จะต้องดูแลใส่ใจมากเป็นพิเศษมากยิ่งขึ้น เพราะหนังแกะจะมีความนุ่มและยืดหยุ่น ยิ่งใช้จะยิ่งนุ่มขึ้นเรื่อยๆ และหนังประเภทห้ามโดนน้ำหรือโดนความชื้น และไม่ควรใช้ซิลิโคนหรือแว๊กซ์ในการทำความสะอาด แค่ผ้าสะอาดๆ เช็ดก็เพียงพอแล้ว
หนังลูกวัว (Calfskin / Nubuck / Velvet-Like / Suede) เป็นหนังที่ได้รับความนิยมที่สุด มีหลากหลายประเภท เช่น หนังคาเวียร์หรือหนังวัวปั้มลายต่างๆ มีการดูแลรักษาที่ง่าย และใช้งานได้ทนทาน หลีกเลี่ยงการเก็บในที่อับชื้น วางไว้ในที่สามารถระบายอากาศได้ดี ส่วนหนังนูบัค หนังกลับ เป็นหนังวัวเป็นประเภทหนึ่งที่มีความสวยงามแต่การดูแลรักษาจะยากกว่าหนังวัวแบบอื่น หากอยากทำความสะอาดจะต้องใช้น้ำยาเฉพาะสำหรับหนังประเภทนี้เท่านั้น
หนังแก้ว (patent leather) เป็นหนังที่ทำสะอาดง่าย เพียงแค่ใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาด วางไว้ที่ระบายอากาศ หลังจากใช้เสร็จแล้วก็เพียงพอ แต่มีข้อห้ามสำหรับหนังประเภทนี้ คือ ห้ามวางใกล้ชิดกับกระเป๋าใบอื่นๆ เพราะอาจทำให้เกิดการดูดสีจากใบอื่นได้
หนังงู (python leather) เป็นกระเป๋าที่ต้องดูแลเอาใจใส่อย่างมาก มีอายุการใช้งานไม่นานนัก เพราะหนังงูเป็นหนังที่มีความบอบบาง ด้วยความเบาและมีลักษณะเป็นเกล็ด หากใช้ไปนานๆ ไม่มีการดูแลที่ถูกวิธีอาจทำให้เกิดความกรอบ ฉีกแตกออกมาได้ จึงต้องมีการนำกระเป๋าไปเคลือบหรือลงแล็กเกอร์ให้มีความแข็งแรงมากขึ้น
หนังจระเข้ (crocodile leather/alligator skin) เป็นกระเป๋าหนังที่มีราคาสูงมากๆ แต่วิธีการดูแลกลับไม่ยุ่งยาก เพียงแค่ใช้ผ้านุ่มๆ เช็ดเบาๆ และใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับหนังจระเข้โดยเฉพาะ แต่จะมีข้อระวังอยู่นิดเดียวคือ ห้ามไม่ให้กระเป๋าโดนน้ำ หรือวางไว้ในที่ๆ มีความชื้นสูง เพราะอาจจะทำให้หนังบวมได้นั่นเอง
กระเป๋าที่ทำจากผ้าแคนวาสชนิดพิเศษ มีความทนทาน ใช้งานได้นาน ยิ่งใช้ยิ่งสวย กระเป๋าชนิดนี้วิธีการดูแลง่ายมาก เพียแค่ใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาด หลีกเหลี่ยงการโดนน้ำเท่านั้นเอง
หาซื้อได้ที่ไหนบ้าง?
Hermès |
Central Embassy,Iconsiam,Siam Paragon |
Chanel |
Central Embassy,Siam Paragon,King Power Rangnam,The EmQuartier |
Dior |
Siam Paragon,The Emporium,Iconsiam, King Power Rangnam |
Fendi |
Siam Paragon,Central World,Iconsiam,The Emporium |
Louis Vuitton |
Siam Paragon,Iconsiam,The Emporium |
Gucci |
Siam Paragon,The Emporium,Iconsiam,Central World,Central Chidlom,Central Embassy,King Power Rangnam |
Prada |
Siam Paragon,Central Embassy,EmQuartier,King Power Rangnam |
Balenciaga |
Siam Paragon,EmQuartier |
Céline |
Siam Paragon,Iconsiam,EmQuartier,The Emporium |
Goyard |
สำหรับแบรนด์ยังไม่มีช็อปใทย แต่มีช็อปใกล้เคียงสุดอยู่ที่ฮ่องกงและสิงคโปร์ |
5 ข้อต้องรู้! ก่อนตัดสินใจซื้อ
1.หากสินค้าที่ผลิตออกมามีตำหนิ ทางแบรนด์จะไม่มีการนำมาขายเป็นสินค้าหลุด QC แต่จะเก็บทำลายทุกใบ
2.ไม่มีการขายให้กับตัวแทนจำหน่ายใดๆ ทั้งสิ้น
3.กระเป๋าแบรนด์ Hermès,Chanel,Louis Vuitton 3 แบรนด์นี้นั้นจะไม่มี Outlet
4.ไม่มีการทำโฆษณาออกทีวี
5.ไม่มีของแถม ไม่ขายยกเซ็ต ไม่จัดโปรโมชั่นลดราคา
🌈 ปันโปรสรุปให้ 🌈
-
การเลือกซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมควรไปลองดูสินค้าด้วยตัวเองที่ช็อป เพราะบางทรง บางแบบนั้นอาจดูสวย แต่เมื่อสะพายแล้วอาจไม่เหมาะกับเรา
-
นอกจากซื้อเพื่อใช้งานแล้ว กระเป๋าบางแบรนด์ บางรุ่น หากเก็บรักษาดีๆ สามารถนำมาขายต่อได้ราคาดีมากๆ อีกด้วย
-
หากอยากลงทุนเก็งกำไร แนะนำให้ลองซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม บางรุ่นเมื่อ Sold Out หรือเป็นแรร์ไอเทมแล้ว มีมูลค่าเพิ่มขึ้นสูงมากๆ คุ้มค่าการลงทุนสุดๆ
-
เลือกกระเป๋าตามการใช้งาน ที่ตอบโจทย์และโดนใจเรามากที่สุด จะทำให้เราไม่เสียดายกับเงินที่ซื้อไปแน่นอน
-
ใครมีทริคดีๆ ในการเลือกซื้อ หรือจะแชร์กระเป๋าแบรนด์ไหนที่ชอบ ก็ลองบอกมาน้าา แอดจะหาข้อมูลมาให้เพิ่มเติม
โดย Pani
tbhnwy
บทความ ที่คุณอาจจะสนใจ