รวม 5 น้ำหอมไทย คนไทยชอบ ชาวต่างชาติชู้ส!
โดย : Milddy

การฉีดน้ำหอมช่วยสร้างความมั่นใจได้จริง!
เคยเป็นกันไหม ถ้าวันไหนออกจากบ้านโดยที่ลืมฉีดน้ำหอมจะรู้สึกไม่มั่นใจ ไม่อยากเข้าใกล้ใคร ถ้าเป็นแบบนี้เหมือนกันบอกเลยเราคือพวกเดียวกัน! ต้องยอมรับเลยว่าน้ำหอมเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับเราได้ ดังนั้นการเลือกใช้น้ำหอมให้เหมาะกับบุคลิก เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่ช่วยสร้างการจดจำ และทำให้เกิดความน่าค้นหามากขึ้น แต่ส่วนใหญ่เรามักจะรู้จักน้ำหอม Luxury Brand ที่ค่อนข้างมีราคา แต่ทุกคนรู้กันไหมว่า ยังมีน้ำหอมไทยที่น่าสนใจ กลิ่นมีเอกลักษณ์ แถมรีวิวแน่นทั้งคนไทยและต่างชาติ มาดูกันว่าจะมีแบรนด์ไหนน่าสนใจบ้าง~
5 น้ำหอมไทย คนไทยชอบ ชาวต่างชาติชู้ส
1.Pañpuri (ปัญญ์ปุริ)
เปิดมาด้วยตัวแรก Pañpuri แบรนด์ที่คนไทยส่วนใหญ่ต้องคุ้นหู เพราะถูกพูดถึงในด้าน Holistic Wellness หรือแนวคิดการดูแลสุขภาพให้สมดุลในทุกมิติ เป็นที่โด่งดังทั้งในไทยและต่างประเทศ มีบริการทั้งสปา ออนเซ็น นวด รวมถึงร้านขายผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายและน้ำหอมด้วย
จุดเด่นของน้ำหอม Pañpuri
- เป็น Perfume Oils ที่มีกลิ่นติดทน อ่อนโยนต่อผิว ซึ่งตอบโจทย์สำหรับผู้ที่แพ้แอลกอฮอล์ในน้ำหอม
- กลิ่นได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ และความเป็นไทย
น้ำหอมไทยกลิ่นขายดีของ Pañpuri
-
Siamese Water (ไซมีส วอเทอร์): เป็นกลิ่นที่สะท้อนถึงความเป็นไทยอย่างแท้จริง ด้วยกลิ่นหอมสะอาดสดชื่นของดอกมะลิ ผสมผสานกับความสดชื่นของมิ้นต์ เป็นกลิ่นที่คลาสสิก อ่อนโยน ใช้ง่าย กระซิบว่ากลิ่นนี้เป็นกลิ่นที่รู้จักกันดีอย่างแพร่หลายว่าเป็นกลิ่นไอคอนิกของ Pañpuri เลยทีเดียว
-
Andaman Sails (อันดามัน เซลส์): กลิ่นนี้ให้ความรู้สึกสดชื่น โปร่งสบาย เหมือนลมทะเลอันดามัน มีส่วนผสมของมะกรูด และชาเขียว ให้ความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า สะอาด และผ่อนคลาย เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกลิ่นแนวสดชื่นเป็นที่สุด
-
Sacred Santal (แซคเคร็ด ซานทัล): เป็นกลิ่นที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น และผ่อนคลาย ด้วยกลิ่นหลักของไม้จันทน์หอม และ Orris Root (รากของพืชตระกูลไอริสบางชนิด) มอบความรู้สึกสงบ นุ่มนวล และมีเสน่ห์ เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกลิ่นแนวแป้งๆ ไม้ๆ
-
One Night In Bangkok (วันไนท์ อิน แบงคอก): กลิ่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากปากคลองตลาด เป็นกลิ่นหอมเย้ายวนของดอกซ่อนกลิ่น ผสมกับความเผ็ดร้อนของพริกไทยดำ ทำให้เกิดมิติของกลิ่นที่น่าสนใจและมีเอกลักษณ์
- 10 ml. ราคา 1,590.-
- 30 ml. ราคา 3,950.-
2.MITH (มิธ)
และน้ำหอมแบรนด์ที่สองที่ถูกพูดถึงไม่แพ้กันคือ MITH (มิธ) แบรนด์น้ำหอมไทยที่ได้รับความนิยมอย่างมาก รีวิวแน่นทั้งคนไทยเองและชาวต่างชาติ ทำให้มีชื่อเสียงในระดับสากลได้อย่างรวดเร็ว คอนเซ็ปต์ "MITH" ย่อมาจาก "Made in Thailand" สะท้อนถึงความภาคภูมิใจในคุณภาพและเอกลักษณ์ของน้ำหอมที่ผลิตในประเทศไทย
จุดเด่นของน้ำหอม MITH
- กลิ่นที่ซับซ้อนไม่เหมือนใคร ให้ความยูนีคเทียบเคียงกับน้ำหอม Niche ได้
- ได้รับแรงบันดาลใจจากสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัว ไม่ได้จำกัดแค่ความเป็นไทย แต่ MITH สร้างสรรค์กลิ่นที่สามารถสื่อถึงอารมณ์ ประสบการณ์ หรือแม้กระทั่งความทรงจำต่างๆ ได้อย่างดี
น้ำหอมไทยกลิ่นขายดีของ MITH
- Silver Sparkle: เป็นกลิ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดและมักถูกยกให้เป็น "กลิ่น Signature" ของ MITH โดยรวมกลิ่นนี้จะให้ความรู้สึก สดชื่น สะอาด และหรูหรา มีความซับซ้อนของกลิ่นซิตรัส (Citrus) เข้ามาผสม เลยทำให้เป็นกลิ่นที่ใช้ง่าย เหมาะกับทุกเพศ และทุกโอกาส
- Blue Wood: เป็นอีกหนึ่งกลิ่นที่ขายดีและถูกพูดถึงในกลุ่มของลูกค้าที่เป็นผู้ชาย (แต่ผู้หญิงก็ใช้ได้นะ) หลักๆ ของกลิ่นนี้คือจะให้ความรู้สึก สุขุม นุ่มลึก และมีเสน่ห์ เป็นกลิ่นแนว Woody Aquatic ที่ให้ความสดชื่นแบบสะอาดๆ ผสมผสานกับความอบอุ่นของไม้ ให้ฟีลผู้ชายที่ดูดี มีมาด และดูน่าค้นหา
- When a Woman Falls in Love: สมกับชื่อกลิ่นไปเลย เพราะกลิ่นนี้มีจุดเด่นอยู่ที่ความหวาน นุ่มนวล และเย้ายวน เหมาะกับผู้หญิงที่ชอบกลิ่น Floral แต่ไม่เลี่ยนจนเกินไป มีความละมุนละไมของกลิ่นดอกไม้และวานิลลา ฉีดแล้วน่ารัก อ่อนหวานสุดๆ
- Ruddy Sparkle: กลิ่นนี้จะมีความ สดใส ขี้เล่น และมีชีวิตชีวา ด้วยความว่าเป็นกลิ่นแนวฟรุตตี้ ทำให้ไม่หวานเลี่ยนจนเกินไป เหมาะสำหรับวันที่ต้องการความกระปรี้กระเปร่า
- Rose of Male Planet / Rose of Female Planet: จริงๆ แล้วอีกหนึ่งจุดเด่นของน้ำหอมแบรนด์ MITH คือเค้ามีน้ำหอมกลิ่นกุหลาบที่น่าสนใจหลายตัว โดยเฉพาะกลิ่น Rose of Female Planet ที่เป็นกลิ่นกุหลาบที่นุ่มนวล หรูหรา มีความเฟมินีนสูง ส่วนคุณผู้ชายเราขอแนะนำ Rose of Male Planet เป็นกลิ่นกุหลาบที่ผู้ชายใช้ได้ มีความเข้มข้นกว่าแต่มีมิติ
- 10 ml. ราคา 349.-
- 60 ml. ราคา 1,830.-
3.Karmakamet (คามาคาเมต)
ถ้าให้พูดถึงเรื่องอะไรหอมๆ ก็ต้องมีชื่อ Karmakamet แบรนด์เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะแบรนด์เครื่องหอมชั้นนำที่มีหน้าร้านให้ช็อปมากมายกระจายอยู่เต็มเมืองไปหมด ขนาดแค่เดินผ่านเฉยๆ ก็โดนตกด้วยกลิ่นหอมที่โชยออกมาเตะจมูกแล้ว ใครยังไม่เคยลองน้ำหอมของแบรนด์นี้ บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งน้ำหอมแบรนด์ไทยที่น่าสนใจ และเราอยากแนะนำมาก
จุดเด่นของน้ำหอม Karmakamet
- โดดเด่นในเรื่องของผลิตภัณฑ์เครื่องหอมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำหอมสำหรับบ้าน และผลิตภัณฑ์สปา ซึ่งหลายคนอาจยังไม่รู้ว่าเค้ามีน้ำหอมสำหรับร่างกายด้วย
- แต่ละกลิ่นของน้ำหอมมีการนำเสนอเรื่องราว และแนวคิดที่ลึกซึ้งผ่านกลิ่นหอมแต่ละกลิ่น
น้ำหอมไทยกลิ่นขายดีของ Karmakamet:
-
Javanese Vanilla (ชวาเนส วานิลลา): กลิ่นนี้ถือเป็นหนึ่งในกลิ่น Best Seller อันดับต้นๆ ของ Karmakamet ให้ความรู้สึกหอมหวานละมุน เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบกลิ่นแนว Sweet, Warm & Comforting
-
Joy (จอย): เป็นกลิ่น Signature ของ Karmakamet ที่ให้ความรู้สึกสดชื่น และเย็นสบาย จากการผสมผสานของมิ้นต์, ลาเวนเดอร์ และเจอเรเนียม (Geranium) กระซิบว่าเป็นกลิ่นยอดนิยมสำหรับใช้ในบ้านและผลิตภัณฑ์อโรมาเทอราพีของแบรนด์นี้เชียวล่ะ
-
Chinese Red Tea (ไชนีส เรด ที): กลิ่นนี้ได้แรงบันดาลใจจากใบชาแดง ให้ความรู้สึกมีความฝาดหอม ผสมผสานกลิ่นอายสมุนไพรจากตะวันออก ให้ความรู้สึกอบอุ่น สบาย และมีเอกลักษณ์มากๆ เหมาะกับคนที่ชอบกลิ่นชา โปร่งๆ ไม่ทำร้ายคนรอบข้างสุดๆ
-
Night Lotus Flower (ไนท์ โลตัส ฟลาวเวอร์): กลิ่นนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากกลิ่นของดอกบัวยามค่ำคืนที่ให้ความรู้สึกสดชื่น หอมเย็น และสะอาดเป็นกลิ่นที่บางเบา เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบกลิ่นดอกไม้ที่ไม่ได้หวานเลี่ยนจนเกินไป แต่มีความสดชื่นสอดแทรกอยู่
- 50 ml. ราคา 532.-
🛒พิกัด: Shopee
4.Butterfly Thai Perfume (บัตเตอร์ฟลาย ไทย เพอร์ฟูม)
มาต่อกันที่น้ำหอมจากแบรนด์ Butterfly อีกหนึ่งแบรนด์โปรดของชาวต่างชาติ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่สาวจีน) โดยแบรนด์นี้มีจุดเริ่มต้นมาจากการเปิดร้านอยู่ที่ตลาดนัดจตุจักร ซึ่งใครจะไปรู้ว่าปัจจุบัน Butterfly กลายเป็นแบรนด์น้ำหอมไทยขึ้นห้างที่คราคร่ำไปด้วยลูกค้าแน่นตลอดทั้งวันไปเสียแล้ว
จุดเด่นของน้ำหอม Butterfly Thai Perfume
- การนำเสนอน้ำหอมกลิ่นไทยๆ ที่ไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นที่มาจากอาหารไทย ดอกไม้ไทย สถานที่ หรือแม้กระทั่งอารมณ์ความรู้สึกก็ยังกลายเป็นกลิ่นน้ำหอมได้อ่ะคิดดู
- น้ำหอมส่วนใหญ่จะเป็นเบสน้ำมันมะพร้าว ทำให้กลิ่นติดทนนานบนผิว แถมยังมีการกระจายตัวที่ไม่ทำให้ฉุนจนเกินไปด้วย
น้ำหอมไทยกลิ่นขายดีของ Butterfly :
- Mango Sticky Rice (ข้าวเหนียวมะม่วง): นี่คือกลิ่นที่โด่งดังที่สุด และเป็นเหมือนซิกเนเจอร์ของแบรนด์เลยก็ว่าได้ แถมยังได้รับคำชมจากลูกค้าว่าสามารถจำลองกลิ่นของข้าวเหนียวมะม่วงออกมาเป็นน้ำหอมได้อย่างสมจริง เป็นกลิ่นที่ฉีดแล้วมีความเป็นไทยตะโกนออกมาสูงมาก
- Agarwood & Benzoin (กฤษณากำยาน): เป็นกลิ่นแนวอบอุ่น ลึกลับ และหรูหรา จากส่วนผสมของไม้กฤษณาและกำยานซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการปรุงเครื่องหอมไทยมาแต่โบราณ กลิ่นนี้มีความติดทนสูง ฉีดนิดเดียวก็อยู่ได้ทั้งวันไปเลย
- Lotus Blossom (ดอกบัว): เป็นกลิ่นดอกไม้ที่สดชื่น สะอาด ละมุนละไม ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและสงบ
- Mon Rose (กุหลาบมอญ): กลิ่นกุหลาบมอญ เป็นอีกกลิ่นที่มีความหอมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ใช่กลิ่นหอมแบบกุหลาบทั่วๆ ไป เป็นกลิ่นที่ค่อนข้างหายาก แทบจะไม่เจอจากแบรนด์ไหน
- Cave Lily & Pear (พลับพลึงแพร): เป็นกลิ่นที่มีความหอมหวานของลูกแพร์ผสมกับกลิ่นดอกไม้ ให้ความรู้สึกสดชื่น มีชีวิตชีวา แต่ก็มีความซับซ้อนน่าค้นหาในตัว
- 10 ml. ราคา 312.-
- 60 ml.ราคา 1,325.-
5.Journal Boutique Perfume (เจอร์นัล บูติก เพอร์ฟูม)
ปิดท้ายด้วยน้ำหอมจากแบรนด์ Journal ที่พักหลังกระแสดีไม่มีตก สำหรับแบรนด์นี้โดดเด่นในการสร้างสรรค์กลิ่นหอมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภูมิปัญญา ความเชื่อ วัฒนธรรม และเรื่องราวต่างๆ ของไทย มีรีวิวมากมายจากคนไทยและชาวต่างชาติที่เป็นเสียงยืนยันว่าน้ำหอมแบรนด์นี้เค้ามีความครีเอทีฟในการนำเสนอเรื่องราวความเป็นไทยออกมาในรูปแบบของกลิ่นหอม
จุดเด่นของน้ำหอม Journal
- เน้นการสกัดกลิ่นจากวัตถุดิบธรรมชาติ และนำวิธีการทำน้ำอบน้ำปรุงแบบโบราณมาผสมผสานกับการปรุงน้ำหอมสมัยใหม่
- มีส่วนผสมหลักอย่างน้ำมันมะพร้าว ซึ่งช่วยให้กลิ่นหอมติดทนยาวนาน ลดการแพ้ระคายเคืองจากแอลกอฮอล์ได้
น้ำหอมไทยกลิ่นขายดีของ Journal Perfume:
- The Legacy (เดอะ เลกาซี่): ถือเป็นกลิ่นซิกเนเจอร์และเป็น Best Seller อันดับต้นๆ ของแบรนด์นี้เลย เป็นกลิ่นที่ได้รับแรงบันดาลใจจากไม้กฤษณา ซึ่งเป็นไม้หอมที่ใช้ในการทำเครื่องหอมโบราณของไทย ผสมผสานกับกำยาน (ยางหอม) ทำให้ได้กลิ่นที่หอมลุ่มลึก น่าค้นหา มีเสน่ห์ และดูหรูหรา
- First Love (เฟิร์ส เลิฟ): เป็นอีกหนึ่งกลิ่นที่ขายดีและได้รับความนิยมสูง มักถูกพูดถึงว่าเป็นกลิ่นที่หอมหวาน นุ่มนวล โรแมนติก ผสมผสานความสดชื่นจากผลไม้และดอกไม้ ทำให้เป็นกลิ่นที่ใช้ง่ายและเป็นที่ชื่นชอบของหลายคน
- Promise (พรอมิส): กลิ่นนี้มักจะถูกให้คำนิยามว่าเป็นกลิ่นที่ให้ความรู้สึกสดชื่น สะอาด และมั่นใจ เป็นกลิ่นที่ใช้ได้ในชีวิตประจำวันและเหมาะกับทุกโอกาส
- Charm (ชาร์ม): กลิ่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากป่าและธรรมชาติในไทย ให้ความหอมสดชื่นเป็นธรรมชาติ ไม่ฉุน มีกลิ่นของใบกระวาน มะนาว ใบมะกรูด และมะกรูดฝรั่ง เป็นกลิ่นที่ให้ความรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและมีเสน่ห์
- Mae Nak (แม่นาค): เป็นกลิ่นที่ได้รับแรงบันดาลใจจากตำนานแม่นาคพระโขนง ทำให้กลิ่นมีความลึกลับเย้ายวน เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกลิ่นแนวลึกซึ้ง น่าค้นหา
- 10 ml. ราคา 960.-
- 50 ml. ราคา 2,319.-
💬 ทริคเล็ก ๆ ที่อยากแนะนำ✨
สำหรับใครที่อยากรู้ว่าฉีดน้ำหอมจุดไหนดีให้ติดทน แอดขอทิ้งท้ายบทความนี้ด้วย 4 คำแนะนำในการฉีดน้ำหอม ว่าฉีดตอนไหน จุดไหน จะช่วยให้กลิ่นของน้ำหอมติดทนตลอดทั้งวัน
- ฉีดหลังอาบน้ำทันที (ตอนที่ผิวยังหมาดๆ) เนื่องจากรูขุมขนกำลังเปิด ทำให้ดูดซับน้ำหอมได้ดีที่สุด
- เวลาฉีดให้เน้น "จุดชีพจร" เพราะความร้อนจะช่วยกระจายกลิ่นให้ฟุ้งกระจายได้ดี แถมยังทำให้ติดทนนานขึ้นด้วย
- ควรฉีดน้ำหอมให้ห่างจากผิวประมาณ 6-8 นิ้ว เพื่อให้น้ำหอมกระจายตัวเป็นละอองฝอยได้ทั่วถึง
- การฉีดน้ำหอมบนเสื้อผ้าสามารถช่วยให้กลิ่นติดทนนานขึ้นได้ แต่ต้องเลือกดูประเภทของน้ำหอมที่เหมาะกับการฉีดบนเสื้อผ้าด้วยนะ ไม่งั้นเสื้อผ้าของเราอาจจะเกิดคราบได้
*อ้างอิงราคา ณ วันที่ 27 มิถุนายน 2568
**อ้างอิงข้อมูลคำแนะนำการฉีดน้ำหอมจาก Sephora Thailand
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ได้ที่นี่
- BUTTERFLY Thai Perfume น้ำหอมกลิ่นไท้ย…ไทย แรงบันดาลใจจากความเป็นไทย
- 4U2 เครื่องสำอางแบรนด์ไทย ทำไมครองใจสาว ๆ ทั่วประเทศ?
- สรุปกฎใหม่ของเหลวที่เอาขึ้นเครื่องบินได้ มีอะไรบ้างนะ? ✈️💦
โดย Milddy
ให้มันเป็นเรื่องของพรุ่งนี้ ถ้าคิดวันนี้หมดเดียวพรุ่งนี้ไม่มีอะไรให้คิด ~ มนุษย์คิดมาก
บทความ ที่คุณอาจจะสนใจ