รีวิว 5 แผ่นแปะแก้ปวด เพื่อนคู่ใจชาวออฟฟิศ ปวดเมื่อไหร่แปะได้ทันที

 

ความเจ็บปวดที่พนักงานออฟฟิศจะต้องเจอ

🦾

 

---

 

ทุกคนรู้ โลกรู้ พนักงานออฟฟิศอย่างเราๆ นั่งทำงานอย่างน้อย 8 ชั่วโมง/วัน  บางวันอาจจะต้องนั่งทำโอทีถึงค่ำมืดเลยก็มี ไหนจะต้องจ้องคอมพิวเตอร์อีก ซึ่งการนั่งทำงานแบบไม่ลืมหูลืมตานี้ผลที่ตามมาก็คงไม่พ้น ความเจ็บปวด เจ็บที่คอ ปวดที่บ่า ลำบากที่ไหล่ ขืนปล่อยไว้อาการปวดก็จะลามไปถึงปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ และอีกไม่นาน อาการออฟฟิศซินโดรม ก็จะตามมาในที่สุด เรื่องแบบนี้ต้องมีตัวช่วย และหนึ่งในตัวช่วยที่ใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก ก็คือ แผ่นแปะแก้ปวด 

 

 

แผ่นแปะแก้ปวด หรือ พลาสเตอร์แก้ปวด ถึงแม้จะเป็นเพียงไอเทมแผ่นบาง แต่รับรองว่าเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีอาการออฟฟิศซินโดรมเลยทีเดียว ไม่ว่าจะปวด คอ บ่า ไหล่ หรือหลัง ก็สามารถหยิบเจ้าแผ่นแปะแก้ปวดมาใช้ได้เลย การใช้งานก็แค่ลอกเทปกาวออก แล้วแปะทิ้งไว้ตรงบริเวณที่ปวดเท่านั้นเอง ทั้งง่าย ทั้งสะดวก เรียกได้ว่า ปวดปุ๊บ…แปะปั๊บ ปวดตรงไหนแปะตรงนั้น และวันนี้เราก็ได้ทำการยกแผ่นแปะแก้ปวดที่เคยใช้มารีวิว 5 ชิ้น เพื่อช่วยให้ชาวออฟฟิศที่ยังลังเล ไม่รู้จะใช้แบบไหน ตัดสินใจง่ายขึ้น

 

---

 

รีวิว 5 แผ่นแปะแก้ปวด ไอเทมเด็ดที่ชาวออฟฟิศควรมี

🦾

 

• อันดับที่ 1 Counterpain Plaster
  
  

 

 

 

ขอยกให้แผ่นแปะเคาน์เตอร์เพนเป็นที่ 1 ในใจเลย ปกติเราจะคุ้นชินกับเคาน์เตอร์เพนในรูปแบบเนื้อครีมกัน แต่ความจริงแล้วเขามีรูปแบบพลาสเตอร์แก้ปวดด้วย เราได้ไปเจอเจ้าแผ่นนี้เพราะเภสัชกรในร้านแนะนำมาบอกว่าเพิ่งออกใหม่ ใช้งานง่าย นวัตกรรมจากประเทศญี่ปุ่น แถมออกฤทธิ์ได้นานกว่า 6 ชั่วโมงอีกด้วย เคาน์เตอร์เพนพลาสเตอร์จะมีด้วยกัน 2 สูตร คือ  

 

 

• สูตรเย็น : สำหรับผ่อนคลายกล้ามเนื้อจากการตึงเครียด บรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย   
• สูตรร้อน : แนะนำในผู้ที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง ออฟฟิศซินโดรม 

 

และด้วยเป็นน้องใหม่เพิ่งเข้าวงการออฟฟิศซินโดรมมาหมาดๆ เภสัชกรจึงแนะนำให้ลองใช้สูตรเย็นก่อน 

 

 

แผ่นเรียบบาง และมีความยืดหยุ่นสูงมาก

 

สำหรับการใช้งานก็ง่ายมากเพียง ลอกแล้วแปะ ปวดตรงไหนแปะตรงนั้น ความน่ารักคือมือไม่เปื้อนเลย

 

 

 

ความประทับใจหลังจากได้ลองใช้งาน คือ เคาน์เตอร์เพนพลาสเตอร์มียืดหยุ่นสูงมาก ตัวพลาสเตอร์ก็แปะได้เรียบเนียนไปกับผิวสุดๆ หลังจากแปะเสร็จก็ไปนั่งทำงานต่อได้เลย ตลอดระยะเวลาที่แปะเคาน์เตอร์เพนพลาสเตอร์ทิ้งไว้คือสบายผิวมาก และพอลอกออกก็ไม่ทิ้งคราบกาวหลงเหลือไว้ แถมไม่มีกลิ่นฉุนรบกวน

ที่สำคัญจากที่ปวดตรงบ่าก็รู้สึกสบายขึ้นมาก พอใช้สูตรเย็นแล้วประทับใจจึงไปหาสูตรร้อนมาใช้ค้นพบว่า สูตรร้อนคือให้ความร้อนดีจริงๆ ตอนแปะใหม่ๆ จะรู้สึกยิบๆ นิดหน่อย เหมือนยาเริ่มทำงาน แปะไปสักพักก็รู้สึกสบาย หายปวดดีมาก  แถมตอนลอกออกก็ไม่แสบและไม่มีรอยแดง … เอาไปเลย 10 คะแนนเต็ม!

 

 

 📢  ราคา : ซองละ 79 บาท/ 1 ซองมี 4 แผ่น

 📌  พิกัด : ร้านขายยาทั่วไป, 7-11, และร้านสะดวกซื้อ
            Shopee : https://shopee.co.th/taisho_officialstore

            Lazada : https://s.lazada.co.th/s.j7DuN

 

---

 

• อันดับที่ 2 แผ่นแปะตราเสือ TIGER BALM 
  
  

 

 

สำหรับแผ่นแปะตราเสือนี้จะมีลักษณะเหมือนแผ่นเจลลดไข้แต่แผ่นใหญ่กว่ามาก เคยได้ลองใช้แผ่นแปะตราเสืออยู่บ่อยครั้ง และทุกครั้งต้องเรียกเพื่อนให้มาช่วยแปะให้เพราะเขาจะแยกตัวแผ่นเจลกับแผ่นกาวมา ให้นึกถึงว่าเรียกเพื่อนมา 2 คน คนหนึ่งรับหน้าที่แปะแผ่นเจล อีกคนรับหน้าที่แปะแผ่นกาว ด้วยความที่มีขั้นตอนค่อนข้างเยอะ ปวดหลังแต่ละครั้งจึงทำให้ไม่สามารถแปะด้วยตัวเองได้เลย   

 

หลังจากได้ลองใช้งานแล้วค้นพบว่าแผ่นให้ความร้อนในระดับที่ใช้ได้เลย ตัวแผ่นมีกลิ่นของตัวยาชัดเจนชนิดที่เพื่อนรู้ได้ในทันทีว่า แปะแผ่นแก้ปวดอยู่ หลังจากลอกแผ่นออกให้ความรู้สึกว่าอาการปวดเบาลง  แต่ระหว่างที่แปะอยู่แผ่นกาวก็มีแอบหลุดแอบลอกออกไปนิดหน่อยเหมือนกันนะ … สำหรับน้องแผ่นนี้เอาไป 8/10 คะแนน

 

 

ด้วยความที่ตัวแผ่นมีขนาดใหญ่กว่าบริเวณบ่า เลยใช้วิธีตัดแบ่งแทน

 

 

 

 

 📢  ราคา : ซองละ 78 บาท/ 1 ซองมี 2 แผ่น

 📌  พิกัด : ร้านขายยาทั่วไป, 7-11, และร้านสะดวกซื้อ

 

---

 

• อันดับที่ 3 Ammeltz Yoko Yoko Heat Patch

 

 

 

สำหรับ Ammeltz Yoko Yoko Heat Patch มีลักษณะเหมือนถุงประคบร้อนที่เป็นรูปตัวยู ค่อนข้างหนา นอกจากใช้แปะเวลาปวดหลังแล้ว สามารถใช้เวลาปวดประจำเดือนได้ด้วยถือว่าเป็นเพื่อนคู่ใจของสาวๆ ได้เลย  แต่ไม่แนะนำให้ติดสัมผัสกับผิวหนังโดยตรงนะ ควรติดทับบนเสื้อผ้าอีกที แต่หลังซองระบุไว้ว่า ห้ามแปะบนเสื้อผ้าที่บางเบา เพราะนอกจากจะมีผลกับผิวหนังแล้วกาวจากแผ่นแปะอาจจะทำให้เนื้อผ้าเสียหายได้

 

ด้านหลังซองของน้องแผ่นนี้จะมีระบุข้อควรระวัง และข้อห้ามไว้อย่างชัดเจนหลายข้อ ถือว่าเป็นการให้ข้อมูลที่ดีและเป็นประโยชน์สำหรับผู้บริโภคเลย … ขอมอบคะแนนให้ในฐานะหญิงสาวที่ปวดประจำเดือน 7/10  คะแนน

 

สามารถแปะทิ้งไว้ได้นานถึง 8 ชั่วโมง

 

 

 

 📢  ราคา : ซองละ 45 บาท/ 1 ซองมี 1 แผ่น

 

 📌  พิกัด : ร้านขายยาทั่วไป, 7-11, และร้านสะดวกซื้อ

 

---

 

• อันดับที่ 4  SOS Far infrared Patch
  
  

 

 

ได้บังเอิญไปพบเจอแผ่นแปะนี้ที่เซเว่น หลังซองของ SOS Far infrared Patch ทำให้สะดุดตรง เป็นเทคโนโลยีที่เกิดจากการนำผง ceramic ที่สามารถปลดปล่อยรังสีอินฟาเรดในทางการแพทย์มาพัฒนาในรูปแบบแผ่นแปะ  จึงลองซื้อมาใช้งาน ทันทีที่เปิดซองกลิ่นตัวยานำขึ้นมาก่อนเลย ลักษณะของตัวแผ่นจะเรียบ บาง แต่ยืดไม่ค่อยได้ พอลองแปะลงบ่าแล้วเรียบเนียนไปกับผิว ให้ความร้อนดีเลย ที่สำคัญตัวแผ่นมีแผ่นกาวที่เหนียวแน่นมาก ได้ลองแปะไว้จนครบ 12 ชั่วโมง ตอนลอกออกจะมีความยากนิดหน่อย … ขอให้คะแนนกับแผ่นแปะรังสีอินฟาเรดนี้  7/10  คะแนน

 

 

เนื้อสัมผัสของแผ่นแปะจะเหมือนกระดาษ หลังจากแปะไว้ 12 ชัวโมง ตอนลอกออกมาอาจจะมีทิ้งรอยแดงไว้เล็กน้อย
ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนด้วย

 

 

 

 📢  ราคา : ซองละ 28 บาท/ 1 ซองมี 1 แผ่น

 

 📌  พิกัด : ร้านขายยาทั่วไป, 7-11, และร้านสะดวกซื้อ

 

---

 

• อันดับที่ 5 - Salonpas

 

 

 

 

แผ่นแปะ Salonpas มีลักษณะเหมือนผ้ามีความแข็งเล็กน้อย ยืดไม่ได้ ตัวแผ่นมีขนาดเล็ก และให้กลิ่นเหมือนยาหม่อง กาวเหนียวแน่นมาก หลังจากลองใช้งานตัวแผ่นแปะ Salonpas แล้วพบว่า ให้ความร้อนดีเลย แต่ด้วยความที่แผ่นกาวติดแน่นมากทำให้ลอกออกค่อนข้างยาก แถมยังพบว่าต่อให้ลอกออกแล้ว แต่ยังคงมีความร้อนติดอยู่บริเวณผิวหนังเป็นเวลานานพอสมควรเลย

 

นอกจากนี้แผ่นแปะ Salonpas จะมีข้อจำกัด คือ ห้ามใช้ในผู้ที่มีประวัติแพ้ยาแอสไพรินหรือยาซาลิไซเลท และไม่ควรใช้ปิดต่อเนื่องเกิน 8 ชั่วโมง … ขอให้คะแนนแผ่นแปะ Salonpas 6/10 คะแนน

 

 

เมื่อลอกออกแล้ว บริเวณบ่าจะยังคงมีความเหนียวของกาวติดอยู่เล็กน้อย

 

 

 

 📢  ราคา : ซองละ 135 บาท/ 1 ซองมี 5 แผ่น

 

 📌  พิกัด : ร้านขายยาทั่วไป, 7-11, และร้านสะดวกซื้อ

 

---

 * ทั้งนี้ผลลัพธ์จากการใช้งานอาจจะแตกต่างไปจากในรีวิว ขึ้นอยู่กับสภาพผิว และอาการปวดมากน้อยของแต่ละบุคคลด้วย