FOMO โรคกลัวตกกระแส ภัยอันตรายสำหรับคนชอบเผือก

avatar writer
โดย : wacheese
avatar writer8 มี.ค. 2565 avatar writer521
FOMO โรคกลัวตกกระแส ภัยอันตรายสำหรับคนชอบเผือก

 

หยุดเผือกไม่ได้จริง ๆ แม๊ !!!

 

ตลอดทั้งสัปดาห์จนถึงวันนี้ ชาวโซเชี่ยลยังคงเกาะติดสถานการณ์ กรณี 'แตงโม นิดา' พลัดตกเรือกลางแม่น้ำเจ้าพระยาจนเสียชีวิต แม้เวลาจะผ่านมากว่า 12 วันแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป และมีหลายประเด็นยังเป็นที่ถกเถียงถึงความสมเหตุสมผล และความเป็นไปได้ด้วย โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์ม Twitter ที่ #แตงโม ติดเทรนด์อันดับหนึ่งอย่างต่อเนื่อง ด้านสื่อมวลชนก็นำเสนอประเด็นนี้อย่างไม่หยุดหย่อนและไม่มีพัก อย่างรายการโหนกระแส ของหนุ่ม กรรชัย ที่ทำหลายคนต้องอุทานร้อง อุ๊ย! 😯 กับการ 'ไขปริศนา แตงโม ตกเรือชีวิต' จนถึงรายการ 'หอนกระแส กับทนายตั้ม' ในวันเสาร์ที่ผ่านมา

 

ด้วยอุบัติเหตุในครั้งนี้มีข้อพิรุธและเงื่อนงำอยู่หลายอย่าง รวมถึงตัวละครต้องสงสัยที่ผุดขึ้นอย่างกับดอกเห็ด 🍄 ชาวโซเชี่ยลอย่างเราเลยต้องพักปัด Tinder แล้วสวมบทคุณฐปนีย์ติดตามข่าวผ่านทุกแฮชแท็กแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพราะกลัวจะตกกระแสและคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง แต่รู้ไหมว่า อาการชอบเผือกแบบนี้เสี่ยงเป็นโรค FOMO ?

 


 

อาการ FOMO

 

'FOMO' ภัยร้าย อันตรายจากนิสัยชอบเผือก 🍠 

 

เกิดเป็นชาวโซเชี่ยลในยุคนี้แทบไม่เคยได้พักร่าง แถมโรคร้ายต่างเรียงหน้าเข้ามาทักทายกันไม่เว้นวัน ทั้งออฟฟิศซินโดรม กรดไหลย้อน กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ล่าสุดก็พักผ่อนไม่เพียงพอ เพราะต้องผันอาชีพจากพนักงานบริษัทไปเป็นนักข่าวและนักสืบอย่างเต็มตัว แอบแฝงตัวอยู่ในทวิตเตอร์ทั้งวันทั้งคืน เพื่ออัพเดทข้อมูลของชาวบ้าน โดยเฉพาะกรณี 'แตงโม นิดา' ที่เช็คแบบนาทีต่อนาทีไม่ให้ตกขบวนรถทัวร์ หรือนี่จะเป็นอาการของโรค FOMO 🤔 

 

รู้จัก 'FOMO' อันตรายแค่ไหนแม๊ ?

 

FOMO (Fear Of Missing Out) คือ อาการของคนที่กลัวการตกข่าว กลัวตกกระแส อีกทั้งกลัวการไม่เป็นที่ยอมรับ และกลัวไม่ได้เป็นคนสำคัญ จึงต้องคอยอัพเดทเช็คข่าวสารตลอดเวลา จนทำให้เกิดความเครียด

 

อาการนี้พบมากในหมู่ 'วัยรุ่น' เพราะเป็นช่วงที่สมองส่วนอารมณ์กำลังพัฒนา แต่สมองส่วนเหตุผลยังทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ รวมถึงเป็นวัยที่กำลังค้นหาตัวเอง อยากเป็นที่ยอมรับ และอยากมีความสำคัญ โดยส่วนใหญ่คนที่มีอาการ FOMO มักจะไม่รู้ตัวเอง เพราะคิดว่าเป็นการติดตามข่าวสารปกติไม่ได้ถึงขั้นเสพติด นอกจากนี้อาการ FOMO ยังเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาและโรคร้ายอื่น ๆ ดังนี้ 👇🏼 

 

  • โรคหลงตัวเอง
  • รับฟังคนอื่นได้น้อยลง
  • โกรธแค้นง่าย เมื่อไม่ได้ดั่งใจ
  • โรคซึมเศร้า

 

แตงโม นิดา

 

เช็ค! เข้าข่ายอาการ 'FOMO' ไหมแม๊ ?

 

📱 อารมณ์แปรปรวนง่าย หงุดหงิด และกระวนกระวาย เมื่อไม่ได้เล่นโซเชี่ยล

 

📱 ใช้เวลาไปกับสมาร์ทโฟน ทั้งเช็ค แชร์ ไลค์ ไถฟีด มากกว่า 6 ชม. ต่อวัน

 

📱 เสพติดแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Facebook, Twitter, Instagram, Tiktok หรืออื่น ๆ

 

📱 กลัวตกข่าวและไม่ทันกระแส ต้องตามเก็บทุกแฮชแท็ก และทุกดราม่า

 

📱 กังวลเมื่อถูกคอมเมนต์ในเชิงลบ หรือโดนตำหนิในโซเชี่ยลมีเดีย

 

📱 ชอบเปรียบเทียบตัวเองกับคนบนโลกออนไลน์ และรู้สึกด้อยค่าในตัวเอง


โดยจากการวิจัยพบว่า 64% มีอาการ FOMO เมื่อไม่ได้เล่นอินเตอร์เน็ต โดย 80% เป็นชาวเอเชีย และอีก 56% กลัวการตกข่าว หากไม่ได้เข้ามาเช็คหรืออัพเดทบ่อย ๆ

 

โซเชี่ยลดีท็อกซ์

 

โรค 'FOMO' รักษาได้ไหมแม๊ ?

 

บอกเลยว่า โรค FOMO สามารถรักษาให้หาย และดีขึ้นได้ ถ้าทำตาม 6 ข้อด้านล่างนี้

 

👉🏼 ยืดอกยอมรับแบบแมน ๆ ว่าตัวเองเสพติดโซเชี่ยลมีเดีย

 

👉🏼 หยุดเถิดอานนท์ 'วางโทรศัพท์' แล้วหางานอดิเรกทำซะ

 

👉🏼 ใช้เวลากับคนรอบข้างมากขึ้น พักทักแชทแล้วไปพบกันในโลกความจริง

 

👉🏼 ยกห้องนอนให้เป็นพื้นที่ 'No Mobile' และมีไว้สำหรับพักผ่อน 100%

 

👉🏼 ละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์ทุก ๆ 2 ชม. แล้วเปลี่ยนไปอ่านหนังสือแทน

 

👉🏼 ตั้งเป้าทำ Social Detox เริ่มต้นงดจากรายชั่วโมง แล้วค่อย ๆ ขยับไปเป็นวันหรือเดือน

 


 

นอกจากอาการ 'FOMO' ที่มากับการเสพติดโซเชี่ยลมีเดียมากจนรบกวนการดำเนินชีวิตแล้ว ชาวโซเชี่ยลมีเดียทั้งหลายอาจสุ่มเสี่ยงต่อ 'Headline Stress Disorder' หรือภาวะเครียดและวิตกกังวลจากการเสพข่าว หรือดราม่าผ่านสื่อต่าง ๆ มากเกินไป หรือจะเรียกง่าย ๆ ว่า ชอบเผือกเรื่องชาวบ้านมากนั่นเอง ซึ่งภาวะนี้สามารถส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ จนนำไปสู่อาการไม่พึงประสงค์ เช่น ใจสั่น แน่นหน้าอก นอนไม่หลับ วิตกกังวล ซึมเศร้า หรือโกรธได้ เพราะฉะนั้นควรตามเผือกแต่พอดี 🍠 

 

แต่ถ้าลองทำตามคำแนะนำแล้วยังเครียดมาก เปย์เป้ขอแนะนำว่า ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ อย่างสายด่วนสุขภาพจิต 1323 หรือ chatbot 1323 หรือ ปรึกษานักจิตวิทยา หรือจิตแพทย์ ด้วยรักและห่วงใยนะแม๊ !!! 

 

ที่มา: สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์, RAMA Channel, กรุงเทพธุรกิจ 

แสดงความคิดเห็น