แชร์ทริค ขับรถในช่วงหน้าฝน ทำอย่างไรให้เซฟทั้งตัวเราและผู้อื่น

avatar writer
โดย : ncp
avatar writer25 มิ.ย. 2563 avatar writer1.2 K
แชร์ทริค ขับรถในช่วงหน้าฝน ทำอย่างไรให้เซฟทั้งตัวเราและผู้อื่น

ปลอดภัยหายห่วงกับทริคดีๆ
ในการขับรถช่วงหน้าฝน
เซฟตัวเรา และ เพื่อนร่วมทาง


ในช่วงหน้าฝนแบบนี้ เชื่อได้ว่าอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่ทุกคนคงจะรู้สึกเบื่อไม่ใช้น้อยนั่นก็คือ "การเดินทาง" ที่ไม่ว่าจะออกเร็วออกช้าแต่ถ้าเกิดฝนตกขึ้นมา อย่างน้อยที่สุดก็คงหนีไม่พ้น 1-2 ชั่วโมง และยิ่งสำหรับใครที่มีรถขับก็คงจะยิ่งรู้สึกเซ็งเข้าไปใหญ่ เพราะนอกจากจะต้องประสบปัญหากับเรื่องรถติดแล้ว เรายังจะต้องระมัดระวังในเรื่องของการขับขี่ให้มากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิมอีกด้วย ดังนั้นเพื่อเป็นการช่วยอุบัติเหตุต่างๆ ที่จะตามมา ปันโปรเลยขอหยิบคำแนะนำดีๆ มาแชร์ให้ทุกคนกัน


 

เช็กก่อนออกเดินทาง

ก่อนออกเดินทางไม่ว่าจะใกล้หรือไกลแค่ไหน เราควรตรวจเช็กส่วนต่างๆ อยู่เสมอๆ ว่าแต่ละส่วนโอเคไหม, ประสิทธิภาพในการใช้งานทำได้เหมือนหรือเปล่า หรือมีส่วนไหนที่สึกหรอและชำรุดไหม เพื่อให้ขณะเดินทางทุกอย่างพร้อมมากที่สุด และสิ่งที่เราควรเช็กมีดังนี้เลยจ้า

  • ยางรถยนต์ สำหรับตัวยางรถ เพื่อนๆ ควรตรวจเช็กดูว่าดอกยางมีความลึกไหม สามารถที่จะยึดติดกับพื้นถนนหรือรีดน้ำได้ดีหรือเปล่า รวมไปถึงในเรื่องของลมด้านในเช็กดูก่อนว่ามีลมไหม ยางแบนหรือเปล่า เพื่อที่จะได้ไม่เกิดปัญหาขณะใช้งาน
  • ใบปัดน้ำฝน ตรวจเช็กว่าใบปัดอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานไหม ไม่ว่าจะเป็น เวลาปัดแล้วมีเสียงดังหรือเปล่า, สภาพยางของที่ปัดเป็นยังไง ใช้งานได้อยู่ไหมหรือควรที่จะต้องเปลี่ยนแล้ว รวมไปถึงขณะปัดกระจกนั้นกระจกรถมีรอยหรือเปล่า เป็นต้น
  • หม้อน้ำฉีดกระจก ก่อนออกจากบ้านอย่าลืมเช็กสิ่งนี้กันด้วยนะว่าในหม้อมีน้ำเพียงพอหรือเปล่า โดยเพื่อนๆ ควรเติมให้เต็มอย่างสม่ำเสมอ เพราะขณะขับรถหากมีคราบดิน คราบโคลนกระเด็นขึ้นมา เราจะได้มีตัวช่วยในการทำความสะอาดได้จ้า
  • ระบบสัญญาณไฟ สัญญาณไฟตามจุดต่างๆ ของตัวรถ ไม่ว่าจะเป็น ไฟหน้ารถ, ไฟท้ายรถและระบบไฟภายในตัวรถ ควรเช็กให้ครบทุกจุดว่าใช้งานได้ตามปกติไหม เพราะหากมีตัวไหนที่ไม่ติดหรือมีปัญหาขึ้นมาเราจะได้เรียกช่างมาดูได้อย่างทันท่วงที
  • ระบบเบรก จุดนี้สำคัญมากๆ ตรวจเช็กระบบเบรกอยู่เสมอๆ ว่าพร้อมใช้งานไหม ถือเป็นการเตรียมความพร้อมและช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุต่างๆ ที่จะตามมาได้

 

การขับขี่

  • เปิดไฟหน้ารถ/ไฟท้ายรถ ข้อนี้ห้ามมองข้ามกันไปเด็ดขาดกันเลยนะทุกคน ในช่วงที่ฝนกำลังตกอาจส่งผลให้กระจกมัวเป็นฝ้าๆ มองอะไรไม่ชัดได้ บวกกับยิ่งถ้าฝนตกในช่วงเวลาใกล้ค่ำหรือช่วงกลางคืนอีกล่ะก็ โอ้ยความชัดของทุกอย่างจะเหลือเพียงแค่ 50 % ฉะนั้นการเปิดไฟหน้าและไฟท้ายรถจึงถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยทำให้เรามองเส้นทางได้ดียิ่งขึ้น
  • ความเร็ว เพราะในช่วงหน้าฝนเรื่องของความเร็วถือได้ว่าเป็นสิ่งที่เราต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ซึ่งเมื่อฝนเริ่มตกในช่วงแรกรถจะมีโอกาสลื่นได้มากเพราะฝนที่ตกลงมาปะทะกับคราบดินและคราบฝุ่นละอองก็จะทำให้เกิดเป็นน้ำโคลนเหลวๆ และส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่บนท้องถนนทุกคน เราควรลดใช้ความเร็ว ซึ่งระดับในการขับขี่ควรใช้อยู่ที่ประมาณ 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง
  • การเว้นระยะ ช่วงนี้นอกจากเราจะต้องเว้นระยะห่างทางสังคมแล้ว ในการขับรถช่วงหน้าฝนก็ต้องเว้นระยะเป็นพิเศษด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนแบบนี้เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ควรเว้นระยะกับรถคันหน้าที่อยู่ประมาณ 10 เมตร (หากมีอะไรด่วนหรือฉุกเฉินเราจะได้เบรครถได้อย่างทันท่วงที)
  • กรณีขับรถแล้วเกิดลื่นไถล หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ควรถอนคันเร่งเป็นอันดับแรก แล้วจับพวงมาลัยให้ดีบวกกับการลดความเร็วในการขับขี่โดยการใช้เกียร์ต่ำจนกระทั่งทุกอย่างเริ่มนิ่ง แล้วจึงค่อยๆ เหยียบเบรกเพื่อทำการหยุดรถ
  • กรณีต้องลุยขับบริเวณแอ่งน้ำ หากเพื่อนๆ จำเป็นต้องขับผ่านบริเวณที่เป็นแอ่งน้ำ ควรหลีกเลี่ยงการขับรถด้วยความเร็วสูง แต่ทางที่ดีควรชะลอความเร็ว บวกกับขณะขับผ่านห้ามเหยียบคันเร่งและเบรค เพราะพฤติกรรมดังกล่าวอาจส่งผลให้รถของเราเสียการควบคุมได้ แต่หากขับมาเรื่อยๆ จนกระทั่งพ้นบริเวณแอ่งน้ำแล้วก็สามารถเหยียบคันเร่งได้ตามปกติเลยจ้า

 

หากเกิดเหตุฉุกเฉิน ควรทำอย่างไร?

สำหรับในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน อันดับแรกเราต้องตั้งสติให้ได้ก่อน จากนั้นให้เพื่อนๆ เคลื่อนรถของตนเองให้พ้นจากทางเดินรถบนถนน โดยจอดในลักษณะชิดไหล่ทางเพื่อที่จะได้ไม่กีดขวางทางกับรถคันอื่นๆ จากนั้นเปิดไฟฉุกเฉินเพื่อเป็นการส่งสัญญาณ แล้วจึงโทรเรียกเจ้าหน้าที่เพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือ โดยในขณะที่เรารอ หากในรถมีผ้าที่เห็นเด่นชัดเพื่อนๆ ก็สามารถนำมาผูกไว้บริเวณด้านหลังรถได้เช่นกัน เพื่อเป็นเครื่องหมายให้รถยนต์คันอื่นๆได้เห็นชัดยิ่งขึ้นและเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดอุบัตเหตุซ้ำซ้อนได้

 

รวมเบอร์โทรฉุกเฉิน

  • 191 แจ้งเหตุด่วน, เหตุร้าย, เหตุฉุกเฉินต่างๆ ซึ่งเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
  • 1543 อุบัติเหตุบนทางด่วน, รถเสียบนทางด่วน สามารถโทรแจ้งขอความช่วยเหลือได้จากเบอร์นี้เลย 
  • 1137 จส.100 แจ้งข่าวและรายงานสภาพทางจราจรในแต่ละวัน และยังติดต่อเพื่อขอความช่วยเหลือกรณีเกิดอุบัติเหตุและเหตุฉุกเฉินอื่นๆ บนท้องถนนได้อีกด้วย 
  • 1192 ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ / รถจักรยานยนต์ ไม่ว่าจะเป็นในกรณีรถหายหรือรถถูกขโมย สามารถโทรไปแจ้งข้อมูลได้
  • 1197 สายด่วนจราจร รับแจ้งข้อมูลการจราจรจากทุกพื้นที่ เพื่อแก้ปัญหาและให้บริการแก่ประชาชน
  • 1677  ร่วมด้วยช่วยกัน เบอร์นี้สามารถแจ้งเหตุร้าย, เรื่องร้องเรียน, ร้องทุกข์ รวมไปถึงขอความช่วยเหลือต่างๆ ด้วยได้เช่นกัน

🌈 ปันโปรสรุปให้ 🌈

 • หากมีเหตุการณ์ฉุกเฉินเกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็น รถเสีย, รถชน หรืออะไรอื่นๆ ก็แล้วแต่ สิ่งแรกที่เราควรทำเลยก็คือ ตั้งสติ จากนั้นค่อยๆ ทำตามขั้นตอนในข้างต้น เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้เหตุการณ์ฉุกเฉินนี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีแล้วจ้า

 • ไม่ว่าจะใกล้หรือไกลก่อนออกเดินทางควรตรวจเช็กสภาพรถให้ดีก่อน เพราะหากมีส่วนไหนพังหรือชำรุดเราจะได้ซ่อมแซมได้อย่างทันท่วงที

 • สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่ยังไม่ชินเส้นทาง สามารถเข้าไปดูแอปนำทางได้ที่นี่เลยจ้า >> คลิก รับรองมีติดไว้อุ่นใจไม่หลงแน่นอน ^^

 

แหล่งที่มาจาก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย และ กรมการขนส่งทางบก

แสดงความคิดเห็น