หมดวัยกินบุฟเฟต์ ! เพราะแก่ลง เลยกินได้น้อยลงจริงหรอ ?
โดย : waranggg
ว่าด้วยเรื่องของการกินบุฟเฟต์ ถ้าพูดถึงอาหารประเภทนี้ ภาพจำของทุกคน คือ การจ่ายราคาเดียว แต่สามารถเลือกทานได้ไม่อั้น ไม่อั้นทั้งในแง่ของปริมาณ และไม่อั้นในแง่ของเมนู ที่เราสามารถกินได้ทั้งหมดเท่าที่ร้านมี
ซึ่งบุฟเฟต์เป็นอาหารประเภทที่ถูกใจสายกินมากๆ เพราะไอความกินได้ไม่อั้นเนี่ยแหละ ทำให้รู้สึกว่า เห้ย! เรามันเจ๋งว่ะ จ่ายแค่นี้แต่สามารถกินได้ทุกอย่างเลยนะเว้ย โคตรจะคุ้ม แต่แล้ววันนึงก็ต้องพบกับเรื่องน่าเศร้า ในวันที่เพื่อนชวนไปกินบุฟเฟต์ แล้วรู้สึกว่ากินได้น้อยลงกว่าแต่ก่อน อิ่มคืออิ่ม ไม่สามารถยัดอะไรลงไปได้อีกแล้ว ม่ายยยยย~
ถ้าพักหลังๆ มานี้ คุณกำลังเจอเหตุการณ์นี้บ่อยๆ เมื่อไปกินบุฟเฟต์ บอกเลยว่าเราคือเพื่อนกัน !
เพราะอะไร ? เราถึงแฮปปี้กับการเป็น Buffet Lover
ก่อนที่จะไปหาคำตอบกันว่า ทำไมเราถึงกินบุฟเฟต์ได้น้อยลง เรามารู้จักการกินบุฟเฟต์ให้มากขึ้นกว่านี้อีกหน่อยดีกว่า...
การกินบุฟเฟต์มีที่มาจากประเทศฝั่งยุโรปนู่นเลย ชาวยุโรปมักจะกินบุฟเฟต์กันเมื่อมีงานเลี้ยงสังสรรค์หรือโอกาสพิเศษ และวัฒนธรรมการกินของบ้านเขาก็เน้นการเดินชมเมนูทั้งหมดก่อน แล้วเลือกชิมเมนูที่สนใจจริงๆ โดยจะค่อยๆ กินทีละนิด ชิมอย่างละหน่อย ถ้าหากว่าถูกปากและติดใจ จึงจะเดินกลับไปตักเมนูนั้นซ้ำ แต่สำหรับพี่ไทยเรานั้นเน้นความคุ้มมาก่อน เสียเงินทั้งทีต้องเอาให้สุด
นอกเหนือจากเหตุผลเรื่องความหลากหลายของเมนู และความคุ้มค่า คุ้มราคาแล้ว มีปัจจัยอะไรอีก ที่ทำให้เราเป็น Buffet Lover กันนะ ?
🤤 กินบุฟเฟต์แล้วรู้สึกเหมือนมีอิสรภาพ
ฟังดูยิ่งใหญ่ แต่ไม่เกินจริงนะ ไม่รู้ทุกคนสังเกตตัวเองกันไหม ว่า เราจะรู้สึกแฮปปี้มากจริงๆ กับการที่เรามีอิสระที่จะเลือกของที่อยากกิน กินอะไรเท่าไหร่ก็ได้ แล้วแต่ใจเราต้องการ เพราะสำหรับเปย์เป้แล้ว เรื่องกินเรื่องใหญ่ !
🤤 บุฟเฟต์ไม่สามารถกินที่บ้านได้
เห็นด้วยกับข้อนี้แบบล้านเปอร์เซ็นต์ ช่วงล็อกดาวน์เมื่อช่วงกลางปี 2019 ที่ผ่านมา คิดว่าหลายคนน่าจะโหยหาบุฟเฟต์กันมาก ถึงขนาดประกาศปลดมาตรการล็อกดาวน์ปุ๊บ ร้านอาหารแรกๆ ที่ทุกคนเลือกที่จะไปกิน คือ ร้านอาหารประเภทบุฟเฟ่ต์ก่อนเลย จะเห็นได้จากผลโหวตจากโพลตามสื่อโซเชียลต่างๆ ร้านบุฟเฟต์คะแนนนำโด่งมาเลยทีเดียว และถึงแม้ว่าบางร้านจะปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ มีจัดเซ็ทสำหรับสั่งกลับไปกินที่บ้าน แต่ยังไง๊ยังไง ก็ไม่ได้บรรยากาศเหมือนตอนไปนั่งกินที่ร้านอยู่ดี
🤤 กินบุฟเฟ่ต์ทำให้สนุกกับการครีเอทเมนูใหม่ๆ ด้วยตัวเอง
ตัวอย่างเช่น สูตรไข่ดองโมโม่ที่ฮิตมาก ไม่ว่าจะมองไปโต๊ะไหนจะต้องมีการทำไข่ดองซีอิ๊วอย่างน้อย 1 ฟอง เอาจริงๆ แล้วโมโม่ก็ไม่ได้เป็นร้านที่มีวัตถุดิบเยอะแยะอะไรเลยนะ แต่ก็ยังมีคนครีเอทเมนูใหม่ๆ ได้ เปย์เป้ขอซูฮก !
🤤 กินบุฟเฟต์แล้วไม่ต้องกังวลว่างบประมาณจะบานปลาย
เพราะการกินบุฟเฟต์เรารู้ราคาตั้งแต่ก่อนจะก้าวเท้าเข้าร้านแล้วว่าเบ็ดเสร็จมื้อนี้เราจะต้องจ่ายเท่าไหร่ หรือในบางกรณีที่เราเลือกกินบุฟเฟต์ เพราะทางร้านมีวัตถุดิบบางอย่างที่เราอยากกินแต่ราคาสูงรวมอยู่ในไลน์อาหารด้วย ถ้าไปสั่งตามร้านอาหาร A La Carte ทั่วไป ราคารุนแรงจนงบบานปลายแน่นอน แต่ถ้าเป็นบุฟเฟต์เรากินได้ไม่อั้น ไม่จำกัด ยังไงก็คุ้มกว่าเห็นๆ
ทำไมอายุเยอะขึ้น แล้วกินบุฟเฟต์ได้น้อยลง ?
อดีตเคยสู้ไม่ถอย ไม่หมดเวลาไม่กลับ แต่ตอนนี้จอดตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรก
หรือเพราะเรากำลังจะหมดวัยกินบุฟเฟต์...
ประเด็นนี้เกิดขึ้นจากการที่เปย์เป้ได้พูดคุยกับก๊วนเพื่อนว่า ช่วงนี้รู้สึกกินบุฟเฟ่ต์ไม่คุ้มเลย อิ่มเร็วมาก ถ้าเป็นเมื่อก่อนแม้จะอิ่มแล้วก็ไม่แคร์ ยัดได้ยัด ต้องเอาให้คุ้มที่สุด! จะหนักท้องขนาดไหนก็บ่หยั่น กินจนครบเวลา นั่งจนวินาทีสุดท้ายจริงๆ ตัดภาพมาที่ตอนนี้ อิ่มแค่ไหนพอแค่นั้น จะไม่ฝืนยัดอีกต่อไป ถกเถียงกันพักใหญ่ๆ จนอดไม่ได้ที่จะต้องหาคำตอบ และจากการลองค้นหาข้อมูลดู มีข้อมูลน่าสนใจหลายอย่างเลย เปย์เป้จะเล่าให้ฟังเอง!
🤤 ร่างกายเราแก่ลง นี่แหละเหตุผลที่ชัดเจนที่สุด !
เริ่มข้อแรกที่แบบใกล้ตัวและชัดเจนมากที่สุด คือ เรื่องของกายภาพ หรือร่างกายของเราเนี่ยแหละ แน่นอนว่าอายุมากขึ้น ระบบย่อยอาหาร ระบบเผาผลาญก็เสื่อมถอยลงไปตามกาลเวลาเหมือนกับอวัยวะอื่นๆ และที่เรากินบุฟเฟต์แล้วรู้สึกว่าอิ่มไว นั่นก็เป็นเพราะ กระเพาะอาหารของเราผลิตน้ำย่อยสำหรับย่อยอาหารได้น้อยลง และจะเห็นได้ว่าถ้าอายุแตะเข้าที่ 30 ปุ๊ป อัตราการผลิตน้ำย่อยในกระเพาะอาหารคือลดลงอย่างชัดเจนเลย
นอกจากเรื่องระบบย่อยอาหารแล้ว การเผาเผลาญของเราก็ยังทำงานช้าลงด้วย! และถ้ายิ่งก้าวเข้าสู่วัย 30 มวลกล้ามเนื้อก็จะยิ่งลดลงไปด้วย อาจจะทำให้ร่างกายของเราสะสมพวกไขมันต่างๆ และทำให้อ้วนง่ายกว่าเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้หญิงจะเห็นได้ชัดเจนกว่าผู้ชาย แค่กินอะไรนิดๆ หน่อยๆ น้ำหนักจะเพิ่มขึ้นอย่างง่ายดายเลย
ถามว่าจะเห็นผลชัดเจนขนาดไหนว่าระบบย่อยอาหารและการเผาผลาญของเราทำงานได้ช้าลงแล้ว สำหรับเปย์เป้แล้วเห็นชัดเจนที่สุดเมื่อกินบุฟเฟ่ต์แล้วแน่นท้องมาก จนต้องกินยาช่วยย่อยตามนั่นแหละ ถึงเริ่มรู้ว่าตัว เอ๊ะ! หรือว่าเราเร่ิมจะหมดวัยกินบุฟเฟต์แล้วจริงๆ นะ
🤤 เรื่องเงินก็มีส่วนอยู่บ้าง
หลายคนอาจสงสัยว่ามันจะเกี่ยวข้องกันได้ยังไงก่อน! ให้ลองนึกย้อนกลับไปตอนที่เรายังไม่ได้ทำงานหาเงินด้วยตัวเอง การจะกินบุฟเฟต์มื้อนึงต้องอ้อนพ่ออ้อนแม่ ขอเงินแล้วขอเงินอีกกว่าจะได้เงินไปกินบุฟเฟต์กับเพื่อน นานๆ ทีจะได้กิน ยิ่งกินได้เยอะเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกว่ามันคุ้ม เพราะไม่ว่าจะกินมากกินน้อย ยังไงก็ต้องจ่ายราคาเท่าเดิมอยู่ดี
แต่เมื่อเราโตขึ้น มีเงินเยอะมากขึ้น อาจทำให้เราคิดว่าเราไม่เห็นจำเป็นต้องกินจนแน่นท้อง ขนาดที่ว่าต้องปลดกระดุมกางเกงกลางร้านก็ได้ บุฟเฟต์มื้อนึงราคาไม่ได้แพงมาก จะมากินอีกเมื่อไหร่ก็ได้ เอาแค่อิ่มท้องแบบพอดี ได้กินเมนูที่อยากกินแบบจุใจแล้วก็น่าจะเพียงพอ
🤤 กลยุทธ์ของร้านบุฟเฟต์ กำลังหลอกล่อให้เรากินน้อยลง
อีกปัจจัยที่เปย์เป้คิดว่าน่าสนใจ คือ เรื่องของ การจัดร้าน หรือการจัดวางสเตชั่นวางอาหารของร้าน ก็มีผลอยู่บ้างเหมือนกัน ซึ่งอาจจะออกไปในทางจิตวิทยาและกลยุทย์นิดหน่อย
เพื่อนๆ ลองสังเกตกันดู ถ้าเป็นบุฟเฟต์ตามโรงแรมหรือร้านบุฟเฟต์ที่พรีเมียม การจัดวางสเตชั่นของร้านจะวางเมนูคาร์โบไฮเดรตอย่าง ข้าว ก๋วยเตี๋ยว พาสต้า ขนมปัง ไว้ในที่ๆ สามารถมองเห็นได้ง่าย เดินไปตักได้สะดวก ซึ่ง เมนูเหล่านี้นับว่าเป็นเมนูตัดกำลังเบอร์หนึ่งเลย แถมต้นทุนไม่ได้สูงมาก ส่วนเมนูที่วัตถุดิบต้นทุนสูงขึ้นมาหน่อย อย่างเนื้อหรืออาหารทะเล จะถูกจัดไว้ด้านในของร้านแทน
และสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเราหิวมากๆ ล้างท้องเพื่อรอมากินบุฟเฟต์แบบจัดหนักจนหิวโซ สิ่งแรกที่เราทำคือเดินไปหาเมนูข้าวหรือเมนูเส้นก่อนตามสัญชาตญานของคนหิว ยิ่งเมื่อเราอิ่มไวมากเท่าไหร่ ร้านก็จะสามารถประหยัดต้นทุนของวัตถุดิบที่พรีเมียมได้เท่านั้น ซึ่งก็อาจจะไม่ได้เป็นกันทุกคนนะ ถ้าหากว่าใครที่มีของที่อยากกินมากๆ อยู่ในหัวอยู่แล้ว ก็อาจจะพุ่งตัวไปหาสเตชั่นนั้นก่อนก็ย่อมได้
นอกจากนี้ การเลือกใช้ แก้วน้ำใบใหญ่ของร้านบุฟเฟต์ ก็เป็นอีกหนึ่งทางตัดกำลังให้เราอิ่มเร็วขึ้นได้เช่นกัน แก้วยิ่งใหญ่เราก็ยิ่งกินน้ำได้เยอะ และถ้าหากใครที่ชอบกินน้ำอัดลมด้วย แก๊สจากน้ำอัดลมเนี่ยแหละ ตัวตัดกำลังเวลากินบุฟเฟต์ชั้นดีเลย จึงไม่แปลกใจเลยที่ร้านบุฟเฟต์ส่วนใหญ่จะเลือกใช้แก้วน้ำขนาดใหญ่ เพื่อให้เรากินน้ำเยอะๆ จนพุงเราเต็มไปด้วยน้ำนั่นเอง
ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องน่าเศร้าที่เรากินได้น้อยลง เพราะสังขารไม่อาจเอื้ออำนวยอีกต่อไป แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่ง เปย์เป้ว่าการกินบุฟเฟต์แล้วต้องกินให้ได้เยอะๆ เพื่อเอาให้คุ้มก็เป็นเรื่องที่ไม่ได้ดีต่อสุขภาพของเราเท่าไหร่ ยิ่งกินเยอะ ยิ่งลำบากท้อง แถมยังทำให้น้ำหนักขึ้นได้ง่ายๆ ด้วย
แต่ก็ไม่ได้หมายความเราจะต้องเลิกกินบุฟเฟต์ตลอดไปหรอกนะ เพราะถึงจะกินได้น้อยลงยังไง สายกินแบบเปย์เป้ก็ยังเอนจอยกับการได้เห็นเมนูอาหารละลานตา ได้เลือกกินสิ่งที่ตัวเองอยากกิน สั่งเมนูที่ชอบมากินได้แบบหนำใจอยู่ดี เพียงแค่ ทานแบบพอดี ไม่อิ่มจนแน่น หัวใจแฮปปี้ พุงน้อยๆ แฮปปี้ ก็ถือว่าโอเคแล้วล่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : psychologytoday.com, healthyeatingandliving.ca, mgronline.com, Mission to The Moon
โดย waranggg
thaitealism