Smart Band 10 รุ่นน่าใช้ ราคาไม่เกิน 1,500 บาท วัดชีพจร, วัดออกซิเจน, ใส่ว่ายน้ำได้

ตอนนี้อุปกรณ์สำหรับสายสุขภาพอย่าง Smart Band มีออกมาให้เลือกใช้กันหลากหลายรุ่นไปหมด มีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่นกันเลย แต่สำหรับสายสุขภาพที่ต้องการฟีเจอร์พื้นฐานแค่การวัดชีพจร, นับก้าว, วัดออกซิเจนในเลือด, มีโหมดออกกำลังกายให้ใช้อะไรแบบนี้ พวกสมาร์ทแบนด์ระดับเริ่มต้นก็เรียกว่าเพียงพอแล้ว เราก็เลยรวมเอาเหล่าสมาร์ทแบนด์ราคาไม่เกิน 1,500 บาท มาแนะนำกันครับ ว่ามีรุ่นไหนบ้าง และแต่ละรุ่นมีฟีเจอร์อะไรให้มาบ้าง

---

 

Smart Band น่าใช้ 10 รุ่น 

Smart Band ที่เราเอามาแนะนำกันทั้ง 10 รุ่นนี้ อย่างที่บอกคือจะมากับฟีเจอร์พื้นฐานอย่างการวัดชีพจร, วัดออกซิเจนในเลือด (SpO2), นับก้าว, โหมดออกกำลังกาย และกันน้ำในระดับที่ใส่ว่ายน้ำได้ด้วย (5ATM) ส่วนบางรุ่นก็จะมีฟีเจอร์พิเศษเพิ่มเข้ามา อย่าง GPS ในตัว (ไม่ต้องพกมือถือก็วัดระยะทางวิ่งได้), หน้าจอแบบ AMOLED มองกลางแจ้งได้ชัดเจน, ใช้รับและคุยโทรศัพท์ได้จากตัวสมาร์ทแบนด์ อะไรแบบนี้ด้วย

 

โดยแต่ละรุ่นเราก็จะใส่ราคากลางเอาไว้ให้ด้วย แต่ราคาขายจริงอาจจะแตกต่างไปตามร้านตัวแทนจำหน่ายนะครับ อาจจะถูกกว่านี้หรือมีโปรมีโค้ดลดราคาได้ถูกลงไปอีก

 

---

 

1. Amazfit Bip 3 (1,250.-)

Smart Band รุ่นนี้น่าใช้เพราะ...

• จอ LCD ขนาด 1.69 นิ้ว
• น้ำหนัก 33 กรัม (รวมสาย)
• วัดอัตราการเต้นหัวใจ
• SpO2 วัดออกซิเจนในเลือด
• กันน้ำ 5ATM
• โหมดออกกำลังกาย 60 แบบ
• แบตเตอรี่ใช้งานสูงสุด 14 วัน

 

สมาร์ทแบนด์จอใหญ่เต็มตา 1.69 นิ้ว น้ำหนักเบาหวิวแค่ 33 กรัม ใส่ออกกำลังแล้วไม่ถ่วงข้อมือให้เมื่อย มาพร้อมฟีเจอร์สุขภาพพื้นฐานแบบครบ ๆ พร้อมโหมดออกกำลัง 60 แบบ และแบตเตอรี่อึดใช้งานสูงสุด 14 วันกันไปเลย ตัวเรือนมีให้เลือกทั้งหมด 3 สี คือสีดำคลาสสิค และสีแบบละมุน ๆ อีก 2 สี คือ สีฟ้ากับสีชมพู

 

---

 

2. Amazfit Bip U Pro (1,449.-)

Smart Band รุ่นนี้น่าใช้เพราะ...

• จอ LCD ขนาด 1.43 นิ้ว
• น้ำหนัก 31 กรัม (รวมสาย)
• วัดอัตราการเต้นหัวใจ
• SpO2 วัดออกซิเจนในเลือด
• กันน้ำ 5ATM
• มี GPS ในตัว
• โหมดออกกำลังกาย 60+ แบบ
• แบตเตอรี่ใช้งานสูงสุด 9 วัน

 

ยี่ห้อเดียวกับรุ่นบนแต่ได้ฟีเจอร์พิเศษอย่าง GPS ในตัวมาด้วย เหมาะสุด ๆ กับสายวิ่ง เพราะไม่ต้องพกมือถือไปด้วยก็สามารถตรวจจับได้ว่าเราวิ่งเป็นระยะทางไกลเท่าไหร่ ส่วนฟีเจอร์สุขภาพมาตรฐานก็ให้มาครบถ้วน ตัวเรือนมีให้เลือก 3 สี คือ สีดำ สีเขียว และสีชมพู

 

---

 

3. Amazfit Band 7 (1,390.-)

Smart Band รุ่นนี้น่าใช้เพราะ...

• จอ AMOLED ขนาด 1.43 นิ้ว
• น้ำหนัก 28 กรัม (รวมสาย)
• วัดอัตราการเต้นหัวใจ
• SpO2 วัดออกซิเจนในเลือด
• กันน้ำ 5ATM
• โหมดออกกำลังกาย 120 แบบ
• ตรวจจับออกกำลังอัตโนมัติ
• แบตเตอรี่ใช้งานสูงสุด 18 วัน

 

ใครไม่อยากได้สมาร์ทแบนด์จอใหญ่ ก็หันมาดูรุ่นนี้ได้ เพราะมีหน้าจอสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 1.43 นิ้ว ไม่เล็กไปไม่ใหญ่ไป ใช้ดูเวลา + สถานะอื่น ๆ ได้แบบไม่ต้องเพ่งเยอะ แถมยังมีจุดเด่นตรงพาเนลหน้าจอแบบ AMOLED สีสันสวยสดสู้แดดอีกต่างหาก ใช้งานกลางแจ้งได้แบบสบาย ๆ ไม่ต้องเอามือป้อง 

ส่วนฟีเจอร์สุขภาพมาตรฐานอื่น ๆ ก็มาครบครัน พร้อมโหมดออกกำลังกายเพียบถึง 120 แบบ และแบตเตอรี่อึด ๆ ใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 18 วัน 

 

---

 

4. HUAWEI Band 8 (1,399.-)

Smart Band รุ่นนี้น่าใช้เพราะ...

• จอ AMOLED ขนาด 1.47 นิ้ว
• น้ำหนัก 24 กรัม (รวมสาย)
• วัดอัตราการเต้นหัวใจ
• SpO2 วัดออกซิเจนในเลือด
• กันน้ำ 5ATM
• โหมดออกกำลังกาย 100+ แบบ
• แบตเตอรี่ใช้งานสูงสุด 14 วัน
• รองรับชาร์จเร็ว 5 นาที ใช้ต่อได้ 2 วัน

 

อีกหนึ่งสมาร์ทแบนด์ขนาดล็กกะทัดรัดน้ำหนักเบาหวิวจนใส่บนข้อมือแล้วแทบจะลืมไปเลย มากับจุดเด่นที่หน้าจอแบบ AMOLED สว่างสู้แดด และระบบชาร์จไวที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็ม 100% ในเวลาแค่ 45 นาที หรือถ้ารีบจัด ๆ ชาร์จแค่ 5 นาที ก็ใช้ต่อได้ถึง 2 วันไปเลย ส่วนฟีเจอร์มาตรฐานอื่น ๆ ใส่มาให้ครบ พร้อมโหมดออกกำลังกายกว่า 100 แบบ

 

---

 

5. OPPO Band (1,199.-)

Smart Band รุ่นนี้น่าใช้เพราะ...

• จอ AMOLED ขนาด 1.1 นิ้ว
• น้ำหนัก 23 กรัม (รวมสาย)
• วัดอัตราการเต้นหัวใจ
• SpO2 วัดออกซิเจนในเลือด
• กันน้ำ 5ATM
• โหมดออกกำลังกาย 12 แบบ
• แบตเตอรี่ใช้งานสูงสุด 12 วัน

 

รุ่นนี้ถือว่าราคาดีเลย เพราะเป็นสมาร์ทแบนด์จอ AMOLED ราคาเบาที่สุดในลิสท์แล้ว แม้ว่าขนาดจอจะเล็กไปนิด แต่ก็พอเหมาะกับการดูเวลารวมถึงพวกข้อมูลต่าง ๆ ได้แบบไม่ต้องเพ่งเยอะ แถมยังมีข้อดีตรงที่มีน้ำหนักเบามากอีกด้วย โหมดออกกำลังกายอาจจะดูน้อยไปหน่อย แต่ก็ครอบคลุมการออกกำลังกายมาตรฐานไว้แบบครบ ๆ เช่น เดิน, วิ่ง, ปั่นจักรยาน, ว่ายน้ำ, พายเรือ, แบดมินตัน ฯลฯ 

 

---

 

6. Redmi Band 2 (799.-)

Smart Band รุ่นนี้น่าใช้เพราะ...

• จอ LCD ขนาด 1.47 นิ้ว
• น้ำหนัก 14.9 กรัม (ไม่รวมสาย)
• วัดอัตราการเต้นหัวใจ
• SpO2 วัดออกซิเจนในเลือด
• กันน้ำ 5ATM
• โหมดออกกำลังกาย 30+ แบบ
• แบตเตอรี่ใช้งานสูงสุด 14 วัน

Smart Band รุ่นเริ่มต้นราคาไม่ถึงพันบาท แต่ฟีเจอร์ทั้งหลายบอกเลยว่ามาครบทั้งโหมดออกกำลังกาย 30 กว่าแบบ, วัดออกซิเจนในเลือด, ใส่ว่ายน้ำได้ ฯลฯ พร้อมแบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 14 วัน

 

---

 

7. Redmi Watch 2 Lite (1,490.-)

Smart Band รุ่นนี้น่าใช้เพราะ...

• จอ LCD ขนาด 1.55 นิ้ว
• น้ำหนัก 35 กรัม (รวมสาย)
• วัดอัตราการเต้นหัวใจ
• SpO2 วัดออกซิเจนในเลือด
• กันน้ำ 5ATM
• มี GPS ในตัว
• โหมดออกกำลังกาย 100+ แบบ
• แบตเตอรี่ใช้งานสูงสุด 10 วัน

 

สมาร์ทแบนด์จอใหญ่ที่มากับฟีเจอร์เด่น GPS ในตัว พร้อมโหมดออกกำลังกายกว่า 100 แบบ มีแบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 10 วัน และถ้าใช้แบบหนัก ๆ ก็ยังอยู่ได้ถึง 5 วันเลยนะ ส่วนฟีเจอร์อื่น ๆ ก็มาแบบครบครันจบในเรือนเดียว สีตัวเรือนมีให้เลือกทั้งหมด 3 สี คือ สีดำ สีขาว และสีน้ำเงิน

 

---

 

8. Redmi Watch 3 Active (1,190.-)

Smart Band รุ่นนี้น่าใช้เพราะ...

• จอ LCD ขนาด 1.83 นิ้ว
• น้ำหนัก 41.67 กรัม (รวมสาย)
• วัดอัตราการเต้นหัวใจ
• SpO2 วัดออกซิเจนในเลือด
• กันน้ำ 5ATM
• โหมดออกกำลังกาย 100+ แบบ
• คุยโทรศัพท์ผ่านสมาร์ทวอทช์ได้
• แบตเตอรี่ใช้งานสูงสุด 12 วัน

รุ่นนี้มีหน้าจอใหญ่ถึง 1.83 นิ้ว สะใจสุดแล้วในลิสท์นี้ ดูข้อมูลดูเวลาได้แบบชัดเจน ส่วนจุดเด่นอีกอย่างก็คือเมื่อเชื่อมกับสมาร์ทโฟนแล้วสามารถรับสายและคุยผ่านไมโครโฟนที่ตัวสมาร์ทแบนด์ได้เลย (คุยแบบในหนังสายลับ) นอกจากนี้ยังมีโหมดออกกำลังเยอะกว่า 100 แบบด้วย ตัวเรือนมีให้เลือกสีดำและสีเทาอ่อน

---

 

9. Xiaomi Band 8 (1,190.-)

Smart Band รุ่นนี้น่าใช้เพราะ...

• จอ AMOLED ขนาด 1.62 นิ้ว
• น้ำหนัก 27 กรัม (รวมสาย)
• แปลงเป็นจี้ห้อยคอได้
• วัดอัตราการเต้นหัวใจ
• SpO2 วัดออกซิเจนในเลือด
• ฟีเจอร์เอามาติดรองเท้าเพื่อเก็บข้อมูลเชิงลึกในการวิ่ง / ปั่นจักรยาน
• กันน้ำ 5ATM
• โหมดออกกำลังกาย 150+ แบบ
• มีเกมให้เล่นบนหน้าจอได้
• แบตเตอรี่ใช้งานสูงสุด 16 วัน
• รองรับชาร์จไว

 

สมาร์ทแบนด์รุ่นใหม่ที่พึ่งเปิดตัวไปไม่นานนี้ มากับฟีเจอร์เด็ด ๆ เพียบ ที่ต้องบอกเลยว่าจัดหนักกว่ารุ่นอื่น ๆ ในราคาระดับนี้ ทั้งหน้าจอ AMOLED รูปร่างแบบแคปซูล ที่นอกจากจะใส่สายรัดข้อมือปกติแล้ว ยังเอามาห้อยขอเป็นจี้เกร๋ ๆ ได้ด้วย (ตอนเป็นจี้ใช้ได้เฉพาะฟีเจอร์นับก้าวนะ), อีกจุดเด่นนึงคือเอามาติดที่รองเท้าเพื่อเก็บข้อมูลเชิงลึกเวลาวิ่ง หรือปั่นจักรยานอย่างเช่น ความถี่ในการก้าวเท้า, ระยะก้าว, แรงกระแทกแต่ละก้าว อะไรประมาณนี้

 

ยังมีฟีเจอร์เล่นเกมขำ ๆ แก้เบื่อบนจอสมาร์ทวอทช์ได้ด้วยนะ ส่วนแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาว ๆ สูงสุดถึง 16 วัน และรองรับชาร์จไวด้วย สามารถชาร์จเต็มได้ในเวลาแค่ 1 ชม. เท่านั้น  

 

---

 

10. Xiaomi Band 8 Active (799.-)

Smart Band รุ่นนี้น่าใช้เพราะ...

• จอ LCD ขนาด 1.47 นิ้ว
• น้ำหนัก 41.67 กรัม (รวมสาย)
• วัดอัตราการเต้นหัวใจ
• SpO2 วัดออกซิเจนในเลือด
• กันน้ำ 5ATM
• โหมดออกกำลังกาย 50+ แบบ
• แบตเตอรี่ใช้งานสูงสุด 14 วัน

สมาร์ทแบนด์ค่าตัวเบา ๆ แต่ฟีเจอร์พื้นฐานครบถ้วน มากับโหมดออกกำลังกว่า 50 แบบ และแบตเตอรี่อึด ๆ ใช้งานได้สูงสุดถึง 14 วัน เป็นรุ่นที่เปิดใหม่มาพร้อมกับรุ่นบนเลย แต่ลดสเปคลงให้มีราคาเอื้อมถึงง่ายขึ้น ตัวเรือนมีสีเดียวแต่สายมีให้เลือก 5 สี คือ ชมพู เขียว ฟ้า ดำ ขาว

 

---

 

ใครสนใจรุ่นไหนเตรียมรอเลย เพราะใกล้ช่วงเทศกาลแบบนี้น่าจะมีโปรเด็ด ๆ มาล่อตาล่อใจกันแน่นอนจ้า...