5 แบรนด์เครื่องสำอางตัวมัม พี่อยู่กับคนไทยมาทุกเจน!💖

avatar writer
โดย : JINFEB
avatar writer1 ก.ย. 2568 avatar writer32
5 แบรนด์เครื่องสำอางตัวมัม พี่อยู่กับคนไทยมาทุกเจน!💖

แบรนด์บิวตี้ตัวมัม สวยตั้งแต่รุ่นแม่ ยันรุ่นลูก!

 

รู้ปะว่าเคล็ดลับความสวยสมัยรุ่นแม่ ไม่ได้มีแค่ใช้สมุนไพรพอกหน้านะ แต่มีแบรนด์สกินแคร์-บิวตี้หลายแบรนด์เลย ที่เรียกว่าเป็น Must-have item ของสาว ๆ สมัยนั้น เพราะงั้นมาดู ว่ารุ่นแม่เค้าอินและเคยใช้เครื่องสำอางอะไรกันบ้าง บอกเลยว่าแต่ละแบรนด์อยู่มานานหลายสิบปี ฮิตข้ามเจนเลยทีเดียว!

 


 

แบรนด์บิวตี้ตัวมัม มาเริ่มกันที่แบรนด์แรกเลย...

 

1.Bennett (เบนเนท)

 

 

“Bennett” สบู่สมุนไพรแบรนด์ไทยแท้แบรนด์แรก ๆ ที่มีขายในไทย เจ้าของคือ ‘คุณชายและคุณสุภาภักดิ์’ ที่เปิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 มี ‘คุณบุ๋ม ปนัดดา’ เป็นพรีเซนเตอร์ กับสโลแกนฮิตติดหูที่ว่า ‘อะไรดี บุ๋มก็ว่าดี’ ทำให้หลายคนจำแบรนด์ได้ไม่ยาก และเค้ามีจุดเริ่มต้นมาจาก อยากสานต่อวิธีผสมสบู่ด้วยมือ เป็นวิธีแบบโบราณที่มีมานานจากรุ่นสู่รุ่น ขยายแบรด์มาเรื่อย ๆ จนมีโรงงานผลิตใหญ่ขึ้นแบบทุกวันนี้ และทางแบรนด์อยากให้สบู่ก้อน ยังคงคอนเซ็ปต์ความออริจินัล ที่ใช้สมุนไพรต่าง ๆ ของไทย เข้ามาเป็นส่วนผสมในสบู่ ที่จะแตกต่างจากสบู่ทั่วไปที่ขายตามท้องตลาด 

 

นี่แหละเลยไม่แปลกใจถ้ารายได้ปี 67 ปาไป 2,025 กว่าล้านบาท มีกำไรมากถึง 140 กว่าล้านบาท

 

จุดเด่นของ Bennett : ตัวตึงเรื่องสมุนไพรหลายชนิด สบู่ของแบรนด์จะเน้นใช้การสกัดและกลั่นสมุนไพรออกมาเป็นเมนหลักในการทำสบู่ และพัฒนาสูตรโดยเภสัชกรแผนไทยด้วย

 

 

โปรดักต์รุ่นฮิตระดับตัวแม่ : สบู่ส้ม Vitamin C & E ใช้ล้างได้ทั้งหน้าและตัว แล้วเวลาไปบ้านญาติทีไรชอบเห็นก้อนส้ม ๆ วางอยู่ในห้องน้ำบ่อย ๆ มันคือสบู่ก้อนสูตรนี้ของ Bennett นี่แหละ

 

ราคา : 48.-

 


 

2.Olay (โอเลย์)

 

 

“Olay” สกินแคร์แบรนด์ดังจากสหรัฐอเมริกา เข้าไทยมาตอนปี พ.ศ. 2548 โดย ‘บริษัท Procter & Gamble (P&G)’ ตอนแรกใช้ชื่อแบรนด์ว่า ‘Oil of Ulan’ แต่มาเปลี่ยนชื่อเป็น ‘Olay’ เพราะแต่ก่อน แต่ละประเทศที่มีแบรนด์นี้ขาย เค้าใช้ชื่อแบรนด์ไม่เหมือนกัน มีทั้ง ‘Oil of Ulan’ และ ‘Olaz’ ทีนี้คนก็เลยสับสน สรุปชื่อแบรนด์อะไรกันแน่ เป็นแบรนด์เดียวกันมั้ย ? ทางแบรนด์ก็เลยแก้ปัญหาใช้ชื่อเดียวกันให้หมด จนมาเป็น ‘Olay’ ถึงทุกวันนี้นั่นเอง สำหรับจุดเริ่มต้นแบรนด์มาจากนักเคมีอยากทำครีมให้แฟนใช้ แบบบำรุงขั้นสุดแต่ก็ต้องเบาสบายต่อผิวด้วย ทีนี้แหละพอแฟนเค้าได้ใช้แล้วมันเริ่ด เลยพัฒนาสูตรต่าง ๆ มาเรื่อย ๆ จนมีหลายไอเทมและเป็นแบรนด์ใหญ่อย่างที่เราเห็นกัน ส่วนรายได้ก็เยอะมากดูอย่างปี 67 ปาไป 2,400 กว่าล้านบาท ได้กำไรไปสูงถึง 356 กว่าล้านบาท

 

จุดเด่นของ Olay : สกินแคร์ของเค้าเน้นใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ มาผสานเข้ากับนวัตกรรม ที่คิดค้นและวิจัยมาเฉพาะแบรนด์ ไหนจะมีงานวิจัยเข้ามารองรับเพิ่มอีกด้วย

 

 

โปรดักต์รุ่นฮิตระดับตัวแม่ : ครีมทาหน้า Total Effects มีทั้งสูตรทาตอนกลางวันและตอนกลางคืน เห็นแม่ ๆ หลายคนก็ใช้ตัวนี้กันมาตั้งแต่สมัยสาว ๆ ยันทุกวันนี้ก็ยังทากันอยู่ นี่สินะ...ไม้เด็ดงานผิวของตัวมัม~

 

ราคา : 599.-

 


 

3.Tellme (เท็ลมี)

 

 

“Tellme” เมคอัพ + สกินแคร์แบรนด์ไทยแท้ เจ้าของคือ ‘บริษัท ยูนีเวอร์สบิวตี้ จำกัด’ ที่เปิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2509 เค้ามีจุดเริ่มต้นมาจากอยากให้สาวไทยได้ใช้เครื่องสำอางที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานและนึกถึงความต้องการของผู้หญิงเป็นหลักในการพัฒนา + คิดค้นสินค้าไปพร้อมกัน ส่วนรายได้ปี 67 อยู่ที่ 570 ล้านบาท มีกำไรมากถึง 223 ล้านบาท

 

จุดเด่นของ Tellme : เป็นแบรนด์เมคอัพ + สกินแคร์ ที่ทำแต่ละโปรดักต์ออกมา เน้นตอบโจทย์คนที่อยู่สภาพอากาศร้อนชื้น เหมาะกับทุกสภาพผิวของคนไทย

 

 

โปรดักต์รุ่นฮิตระดับตัวแม่ : แป้งอัดแข็ง Sports Sun Control เป็นแป้งผสมรองพื้นและกันแดด กันน้ำ-กันเหงื่อได้ คิดค้นโดยกลุ่มเภสัชกร R&D Lab มีให้เลือกหลายเฉดสี ตามโทนผิวของแต่ละคนเลย

 

ราคา : 385.-

 


 

4.Pond’s (พอนด์ส)

 

 

“Pond’s” อีกหนึ่งเมคอัพ + สกินแคร์จากสหรัฐอเมริกา เข้าไทยมาเมื่อตอนปี พ.ศ.  2511 โดย ‘บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด’ เค้ามีจุดเริ่มต้นมาจากที่เภสัชกร ไปค้นคว้าและเจอสรรพคุณของ Witch Hazel ที่ช่วยบำรุงและเสริมความแข็งแรงให้กับผิว จนพัฒนาและวิจัยมาเรื่อย ๆ นี่แหละเลยเป็นที่มา ของแบรนด์ดูแลผิวเจ้าแรกของโลกอย่าง Pond’s มาดูกันที่รายได้ปี 67 พุ่งไปสูงถึง 47,000 กว่าล้านบาท และมีกำไรมากถึง 4,835 กว่าล้านบาท คือเยอะมาก!

 

จุดเด่นของ Pond’s : เมคอัพ + สกินแคร์ คือนวัตกรรมเฉพาะตัวของสถาบันวิจัยพอนด์ส ที่ช่วยตอบโจทย์ปัญหาผิวต่าง ๆ ของลูกค้าในทุกเจน หรือทุกสภาพผิว

 

 

โปรดักต์รุ่นฮิตระดับตัวแม่ : ครีมทาหน้า Age Miracle หรือที่เรียกว่าครีมพอนด์สกระปุกแดงในตำนาน มีทั้งสูตรกลางวันและกลางคืน เน้นเรื่องริ้วรอย, ผิวกระชับเนียนนุ่ม จากที่ถามมาสมัยแม่ ๆ เค้าใช้กันเยอะมาก นี่ถ้าให้นับกันก็ไม่รู้ใช้กันมากี่กระปุก เอ๊ะ...หรือนี่คือทริคหน้าเด็กของคนรุ่นแม่

 

ราคา : 599.-

 


 

5.Garnier (การ์นิเย่)

 

 

“Garnier” สกินแคร์แบรนด์ฮิตจากฝรั่งเศส เข้าไทยมาเมื่อตอนปี พ.ศ. 2542 โดย ‘บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด’ ในตอนแรกมีจุดเริ่มต้นมาจากโลชั่นบำรุงผมแล้วค่อย ๆ พัฒนาผันตัวมาขายสกินแคร์ ซึ่งเค้าอยากใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ มาดูแลผิวของแต่ละคน และทำรายได้ปี 67 ไปเยอะถึง 15,000 กว่าล้านบาท มีกำไรมากถึง 1,179 ล้านบาท

 

จุดเด่นของ Garnier : แบรนด์นี้เน้นใช้ส่วนผสมหลายชนิดจากธรรมชาติ ผสมเข้ากับเทคโนโลยีเฉพาะแบรนด์ ออกมาเป็นสกินแคร์สูตรต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์ทุกวัยและทุกสภาพผิว และมีโปรดักต์หลายอย่างมาก

 

 

โปรดักต์รุ่นฮิตระดับตัวแม่ : ครีมทาหน้า Bright Complete ตัวนี้เป็นเนื้อแบบเซรั่มครีม บางเบาซึมไว มีส่วนผสมจากยูซุเลมอนและวิตามิน C และมีกันแดดในตัวด้วย

 

ราคา : 329.-

 


 

มาสรุปกันหน่อย

 

เห็นมั้ยละว่าแบรนด์บิวตี้ตัวมัมที่เราได้เล่าไปแต่ละแบรนด์ มีจุดเด่นและโปรดักต์รุ่นฮิตของรุ่นแม่ที่น่าสนใจแตกต่างกัน แล้วทุกแบรนด์ยังมีขายยันทุกวันนี้ สำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากลองตามรอยเหล่าตัวมัม แนะนำให้ค่อย ๆ ดูรีวิวแต่ละไอเทมก่อน ส่วนใครอยากลองโปรดักต์สูตรอื่น ๆ ในแบรนด์ ก็ลองดูได้น้า เผื่อมีอะไรที่ตอบโจทย์เราเพิ่มด้วย จะได้เลือกสูตรที่ใช่ที่สุดกัน

 


 

👇🏻อ่านบทความที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ได้ที่นี่👇🏻

 

แสดงความคิดเห็น