รีวิวการทำ Femto Lasik ที่รพ. สมิติเวช ธนบุรีแบบละเอียดทุกขั้นตอน เตรียมโบกมือลาแว่นสายตาได้เลย!

รีวิวการทำเลสิกที่ รพ.สมิติเวช ธนบุรี
แบบละเอียดยิบทุกขั้นตอน
โลก 4K ใน 15 นาทีมีอยู่จริง!

---

ใส่แว่นมานานเริ่มจะเบื่อๆ กันบ้างใช้มั้ย เพราะคนใส่แว่นต้องเจอกับปัญหาหยุมหยิมมากมาย เช่นเวลาออกจากรถไฟฟ้าแล้วแว่นเป็นฝ้า พอไม่มีแว่นตาภาพทุกอย่างเบลอเหมือนดูวิดิโอแบบ 144p ไหนจะยังต้องหมั่นทำความสะอาดและเช็ดแว่นบ่อยๆ จะไปส่องผู้แต่งตัวซะแซ่บแต่ใส่แว่นด้วยก็จะขัดลุคไปหน่อย แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เพราะการทำเลสิกสามารถช่วยเราได้! แถมยังสามารถแก้ไขปัญหาสายตาได้ทั้งสายตาสั้น สายตายาวและสายตาเอียงเลย 

อย่างเราที่มีปัญหาสายตาทั้งสั้นทั้งเอียง ตอนนี้ก็ได้โยนแว่นทิ้งเป็นที่เรียบร้อย  เพราะเราได้ไปทำ Femto Lasik ที่ รพ. สมิติเวช ธนบุรี กับคุณหมอไรนา จินดาศักดิ์มา เพราะสะดวก ใกล้บ้าน และราคาเป็นที่น่าพอใจ เรามีรีวิวมาฝากทุกคนด้วยนะ บอกเลยว่าทำเสร็จแล้วเหมือนได้โลกใหม่จริงๆรับรองว่าอ่านจบคนที่ยังกล้าๆ กลัวๆ ต้องมีเปลี่ยนใจกันแน่นอน

---

การทำเลสิกที่ สมิติเวช ธนบุรี มีแบบไหนบ้างนะ 

---

• โปรแกรมผ่าตัด โดยวิธีขูดผิวกระจกตา  (PRK) ราคา 33,000 บาท 2 ข้าง

วิธีรักษาโดยใช้วิธีการลอกผิวชั้นนอกสุดของกระจกตาออก และใช้เลเซอร์ฉายลงไปที่ชั้นกลางของกระจกตาเลยโดยไม่แยกชั้นกระจกตาออกมานั่นเอง เป็นวิธีการแก้ไขปัญหาสายตาที่มีมานานมากๆ แล้ว และยังคงใช้รักษาจนถึงปัจจุบัน

• โปรแกรมผ่าตัดเลสิกแบบใช้ใบมีด  LASIK  ราคา 36,000 บาท 2 ข้าง

เป็นวิธีการรักษาโดยใช้เครื่องมือแยกชั้นกระจกตา มีลักษณะเป็นใบมีดเล็กๆ แยกชั้นกระจกตาก่อน และใช้เลเซอร์ "เอ็กไซเมอร์เลเซอร์" (Excimer Laser) ปรับแต่งผิวกระจกตาให้ได้ค่าตามที่คำนวณไว้ 

• โปรแกรมผ่าตัดเลสิกแบบไร้ใบมีด  Femto Lasik  ราคา 55,000 บาท 2 ข้าง

คือการใช้เลเซอร์ในขั้นตอนการรักษาทั้งหมด รวมไปถึงการใช้เลเซอร์ในการผ่าตัดชั้นกระจกด้วย แตกต่างจากการทำเลสิกแบบดั้งเดิมที่จะใช้ใบมีดในการแยกชั้นกระจกตา ซึ่งจะทำให้แยกชั้นกระจกตาได้แม่นยำมากกว่า 

ซึ่งเราทำแบบ Femto Lasik โดยคุณหมอไรนา จินดาศักดิ์ คุณหมอเชี่ยวชาญด้าน Femto Lasik โดยตรง และที่สำคัญคุณหมอเป็นผู้ตรวจและวัดสายตาให้เราเอง คุณหมอใจดีและมือเบามาก ซึ่งข้อดีของการที่คุณหมอตรวจตาเอง จะสามารถวิเคราะห์ได้ว่าตาของเรามีสภาพเป็นอย่างไร เหมาะกับการทำเลสิกประเภทใด

---

ก่อนทำเลสิกต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?

หลังจากที่ตัดสินใจเลือกทำเลสิกที่นี่จะมีพยาบาลโทรมาเพื่อแจ้งนัดวันเวลากับเราและบอกถึงขั้นตอนการเตรียมก่อนการทำเลสิก คืองดใส่คอนแทคเลนส์และหยอดน้ำตาเทียมแบบไม่มีสารกันเสียก่อนเข้ารับการผ่าตัด 7 วัน 

น้ำตาเทียมที่เราเลือกใช้คือยี่ห้อ Syntance Ultra สามารถหาซื้อได้ที่ร้านขายยาทั่วไป,วัตสันหรือบูทส์ได้เลย สำหรับตัวนี้เราได้จากวัตสันราคาประมาณ 490-500 บาท ไม่เกินนี้

ก่อนการวันผ่าตัด 1 วัน พยาบาลจะโทรมาคอนเฟิร์มนัดอีกครั้ง รวมถึงย้ำเรื่องการใส่เสื้อผ่าหน้า งดฉีดน้ำหอมหรือของใช้ที่มีส่วนผสมของน้ำหอมทุกชนิด เพราะเครื่องเลเซอร์ไวต่อกลิ่น

รวมไปถึงย้ำให้เราสระผมให้เรียบร้อยด้วย เพราะเราอาจจะอดสระผมไปอีกหลายวัน ถ้าใครเป็นคนผมมันง่ายเตรียมดรายแชมพูไว้ใช้แก้ขัดก่อนก็ได้น้า 

---

และแล้ววันผ่าตัดก็มาถึง!

สำหรับการเดินทางก็ง่ายเพราะโรงพยาบาลติดกับถนนใหญ่เลย และด้วยความที่เราบ้านใกล้ก็ขับรถมาแแปปเดียว แต่ก็ต้องตื่นเช้ามากเพราะเราได้คิว 8 โมงเช้า เป็นคิวแรกๆ เลย อ๋อ! ใครมีแพลนว่าจะตรวจสภาพตาและผ่าตัดในวันเดียวกันเลย ต้องพาเพื่อนหรือญาติมาด้วยนะ ห้ามขับรถมาคนเดียวเด็ดขาด เพราะเราต้องอยู่ในสภาพครอบตาเป็นไอมดแดงและหลังผ่าตัดตาจะมีอาการพร่ามัว ทำให้การมองเห็นหลังผ่าตัดจะยังไม่เต็ม 100%

เมื่อมาถึงโรงพยาบาลก็ยื่นบัตรประชนเพื่อทำประวัติที่เคาน์เตอร์เวชระเบียนชั้น 1 จากนั้นขึ้นมานั่งรอที่ศูนย์จักษุกรรมและเลสิกที่ชั้น 2 ได้เลย และรอพยาบาลเรียกเพื่อตรวจสภาพตาก่อนทำการผ่าตัดต่อไป

---

ขั้นตรวจการตรวจสภาพตา 

 

1.วัดสายตาเบื้องต้นและวัดความดันลูกตา

เมื่อพยาบาลเรียกชื่อก็คือเริ่มตื่นเต้นขึ้นมาหน่อยๆ แล้ว เริ่มจากการการวัดความดัน วัดค่าสายตาและวัดความดันตา ซึ่งเจ้าเครื่องวัดความดันตาจะมีลมเบาๆ เป่าที่ดวงตาด้วยนะ แต่พยาบาลจะบอกก่อนว่าจะมีลมเป่าเบาๆ นะคะไม่ต้องตกใจ ถึงแม้ว่าคุณพยาบาลจะเตือนยังไงก็ยังไม่วายสะดุ้งกันอยู่ดี 😂

2. วัดขนาดรูม่านตาและวัดความหนากระจกตา

สำหรับการตรวจตายังไม่จบแค่นั่นค่าคุณผู้ชม เรายังต้องมาตรวจขนาดรูม่านตาและวัดความหนากระจกตากันต่อที่อีกห้องหนึ่ง ซึ่งขั้นตอนนี้แหละที่จะเป็นตัวชี้เป็นชี้ตายว่าวันนี้เราสามารถทำเลสิกได้หรือไม่? ซึ่งในการทำเลสิกคุณหมอจะให้ความสำคัญกับเรื่องกระจกตาเป็นอย่างมาก เพราะในการทำเลสิกคือการใช้เลเซอร์ขัดกระจกตา ทำให้กระจกตาบางลง 

ขนาดความหนาของกระจกตาที่สามารถทำเลสิกได้คือตั้งแต่ 500 ไมครอนขึ้นไป หากต่ำกว่า 490 ไมครอนคือไม่สามารถทำได้ เพราะกระจกตาบางเกินไปจะอันตรายมากๆ สำหรับคนทั่วไปความหนากระจกตาจะอยู่ประมาณ 520-540 ไมครอน ส่วนเราความหนาของเราอยู่ที่ 560 ไมครอน เย้! ชั้นรอด~

 

3. เข้าพบคุณหมอ และหาค่าสายตาที่เหมาะสมเพื่อเซ็ตเครื่องเลเซอร์

เป็นอันจบเรื่องของการตรวจสภาพตา จากนั้นเราก็ได้พบคุณหมอ ซึ่งคุณหมอจะสอบถามเกี่ยวกับการใช้สายตาของเราว่าใช้คอมหรือมือถือหนักแค่ไหน ใส่แว่นหรือคอนแทคเลนส์มานานแค่ไหน? อย่างเราที่ใส่แว่นคุณหมอจะถามแว่นอันที่ใส่ล่าสุดคือตัดตั้งแต่เมื่อไหร่ เปลี่ยนแว่นบ่อยไหม? จากนั้นคุณหมอก็จะทำการตรวจตาของเรา และทำการหาค่าสายตาที่แท้จริงของเรา เพื่อใช้เซ็ตเครื่องเลเซอร์ที่จะทำเลสิกนั่นเอง

4. วัดระดับน้ำตาและหยอดยาขยายรูม่านตา

เมื่อพบคุณหมอเรียบร้อยแล้ว พยาบาลจะพาเรามาที่ห้องขยายม่านตา เพื่อวัดระดับน้ำตาในดวงตาเรา โดยจะหยอดยาชาให้ก่อนและใช้กระดาษสอดที่ปลายตาเราทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที จะรู้ลึกเคืองนิดๆ แต่ไม่เจ็บเลย จากนั้นพยาบาลจะหยอดยาขยายม่านตาให้เรา ซึ่งผลของยาขยายม่านตาจะให้ฟีลเหมือนคนสายตายาว คือจะมองใกล้ๆ ไม่ได้ยิ่งใกล้ยิ่งเบลอ และจะสู้แสงไม่ได้ เพราะม่านตาจะไม่หุบตามธรรมชาติเมื่อเจอแสง 

5. วัดค่าสายตาอีกครั้งเพื่อความชัวร์

เมื่อม่านตาขยายแล้วก็ต้องไปวัดค่าสายตากันอีกครั้ง เพราะยาขยายรูม่านตาจะช่วยลดการเพ่ง และทำให้ตรวจค่าสายตาของเราได้แม่นยำยิ่งขึ้น อย่างเคสเราคุณหมอบอกว่าเพ่งเก่งมาก ทำให้ค่าสายตาที่อ่านได้ในครั้งแรกๆ ยังไม่ใช่ค่าสายตาที่แท้จริง การเพ่งที่ว่าคุณหมอบอกว่าเป็นการเพ่งโดยสัญชาติญาณ เป็นเรื่องที่พบได้ปกติโดยเฉพาะคนที่ทำงานหน้าคอมเป็นประจำ 

หลังจากเดินเข้าห้องนั้น เดินออกห้องนี่พบว่าหมดไปครึ่งวันแล้ว เข้าใจแล้วว่าทำไมคุณหมอนัดเช้ามากกกก เพราะการทำเลสิกต้องตรวจตาอย่างละเอียดมากๆ และไม่ใช่ทุกคนที่ทำได้ พอตรวจเสร็จและคุยกับคุณหมออย่างละเอียดแล้ว พอได้ยินคำว่า "สภาพตาดีมาก ทำได้เลยไม่มีปัญหา" ก็เป็นอันโล่งใจ 

สำหรับการผ่าตัดจะเริ่มในตอนบ่ายเนื่องจากต้องรอให้รูม่านตาหุบก่อน ช่วงนี้จะมีพยาบาลเดินมาเช็คตลอดว่าม่านตาเราหุบแล้วหรือยัง และในระหว่างนี้คุณหมอแนะนำให้หยอดน้ำตาเทียมบ่อยๆ และงดเล่นมือถือเพื่อไม่ให้ตาแห้งก่อนเข้าผ่าตัดนั่นเอง 

6. เตรียมตัวที่ห้องรับรอง

เมื่อถึงเวลาม่านตาหุบจะมีพยาบาลมาเรียกให้เราไปที่ห้องรับรอง เพื่อเตรียมตัวโดยต้องทำความสะอาดหน้าและรอบดวงตา โดยทาง รพ.จะมีโฟมสำหรับทำความรอบดวงตาเฉพาะเตรียมไว้ให้ จากนั้นก็สวมชุดคลุม สวมหมวกอนามัย และพยาบาลจะหยอดยาให้ประมาณ 3 ตัว คือ ยาหุบม่านตา ยาหดเส้นเลือดในตาและปิดท้ายด้วยยาชา ห่างกันตัวละประมาณ 5-10 นาที

เมื่อหยอดยาครบแล้วขั้นตอนสุดท้ายก่อนเข้าห้องผ่าตัด คุณหมอจะทำการมาร์กจุดในดวงตาเราเพื่อเวลาทำจะได้เห็นตำแหน่งของตาได้ชัดเจน จากนั้นก็ขึ้นเตียงโลดจ้า 

ปล.พาร์ทในห้องผ่าตัดทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจริงๆ ค่ะทุกคน

จะพยายามรีวิวเท่าที่จำได้น้า

เมื่อล้มตัวลงนอนปุ๊ป คุณหมอจะจัดหัวเราให้ตรงบล็อกและพยาบาลผู้ช่วยจะนำลูกบอลมาไว้ให้เราสำหรับบีบเพื่อให้ผ่อนคลายและไม่เกร็งจนเกินไป จากนั้นทำความสะอาดตาและหยอดยาชาอีกครั้ง ใครที่กลัวว่าทำๆ อยู่สายตาจะล่อกแล่ก กลัวกระพริบตา ไม่ต้องกังวลเลย คุณหมอจะใส่เครื่องมือสำหรับถ่างตาเอาไว้ มันจะรู้สึกตึงๆ นิดหน่อย ซึ่งคุณหมอจะถามตลอดว่าเจ็บไหม ถ้ายังเจ็บคุณหมอจะหยุดและหยอดยาชาเพิ่มให้ทันที

เมื่อถ่างตาเรียบร้อยคุณหมอจะเริ่มเปิดชั้นกระจกตาก่อน โดยคุณหมอจะบอกว่าจะเริ่มแล้วนะคะ อย่ากรอกตาไปมานะ มองที่จุดโฟกัสไว้นะคะ จากนั้นมันเหมือนมีเครื่องอะไรซักอย่างมาดูดตรงลูกตาเบาๆ หลังจากนั้นมันเกิดอาการภาพตัด มันวาร์ป แบบมองไม่เห็นอะไรเลย แต่ไม่ต้องตกใจนะ นั่นถูกต้องแล้ว ให้ค้างตาไว้ที่เดิมอย่ากรอกตาเด็ดขาดเลย

เมื่อเปิดชั้นกระจกตาเรียบร้อย ขั้นตอนต่อไปคือการยิงเลเซอร์เพื่อขัดกระจกตา ตรงนี้คุณหมอจะย้ำหนักมากว่าให้มองจุดเขียวไว้นะคะ ทางเราก็จ้องเขม็งเลยจ้า กลัวตาหลุดโฟกัสจริงๆ จากนั้นคุณหมอก็จะเริ่มยิงเลเซอร์ จนได้ยินเสียงพยาบาลพูดว่า Laser Complete ค่ะ โอโหจุดนั้นคือโล่งอกมาก ถอนหายใจเฮือกใหญ่เลย

ความรู้สึกขณะทำ สำหรับความเจ็บขณะทำให้ 1/10 หัก 1 คะแนน ตรงเครื่องถ่างตาที่ทำให้ตาตึงนิดหน่อย

ระยะเวลาในการเปิดชั้นกระจกตารวมยิงเลเซอร์ทั้ง 2 ข้างคือใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจริงๆ ในระหว่างที่ทำอยู่จะมีเสียงคุณหมอและพยาบาลคอยพูดอยู่ตลอดว่าทำถึงขั้นตอนไหนแล้ว และยังคอยเชียร์อัพเราอยู่ตลอดด้วย เช่น ถูกต้องค่ะ อย่างนั้นแหละมองค้างไว้แบบนั้นเลย ใกล้เสร็จแล้วน้า อีกนิดเดียวน้า ทำให้บรรยากาศในห้องผ่าตัดไม่ตึงเครียด เราเองก็ไม่เครียดไปด้วย แต่บอกเลยว่าถึงแบบนั้นเราก็นอนกำลูกบอลแน่นมากอยู่ดี 

และในแต่ละขั้นตอนไม่มีอาการเจ็บเลยแม้แต่นิดเดียว ยกเว้นตอนคุณหมอใส่เครื่องมือถ่างตาให้ จะมีแค่อาการตึงๆ ที่ตานิดหน่อยแค่นั้นเลย ที่เหลือคือสบายมาก ส่วนตอนเกิดอาการวาร์ปก็ตกใจนิดหน่อย แต่พอได้ยินเสียงคุณหมอบอกว่าถูกต้องแล้วค่ะ ก็สบายใจ นั่นแปลว่าทุกอย่างปกติดี

ความรู้สึกหลังทำ ความเจ็บหลังทำให้ 0/10 ไม่มีอาการใดๆ เลย 

เมื่อลุกจากเตียงปุ๊ปด้วยความอยากรู้ว่ามันมองเห็นได้ชัดเลยจริงๆ ไหม ก็เลยพยายามมองไปรอบห้องก็พบว่า ภาพทุกอย่างชัดขึ้นมากๆ แม้ว่าจะมีอาการตามัวๆ คลายหมอกบังตาอยู่ แต่รู้สึกได้เลยว่ามันเห็นชัดขึ้นมากจริงๆ ในระหว่างนี้ก็ยังไม่มีอาการเจ็บตา เคืองตาหรือแสบตาเพิ่มเลย สามารถเดินจากห้องผ่าตัดมานั่งให้หมอตรวจได้สบายๆ

เมื่อคุณหมอจะตรวจตาอีกครั้งหลังทำว่าเรียบร้อยดีแล้ว จึงให้พยาบาลใส่ที่ครอบตาและแปะเทปให้อย่างหนาแน่น  และเราต้องครอบตาทิ้งไว้จนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นเลย จากนั้นก็จ่ายเงิน รับยาและกลับบ้านได้เล้ยยย 

สำหรับยาที่ได้รับกลับบ้านรวมอยู่ในราคาค่าทำเลสิกแล้วนะ ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม โดยในถุงประกอบไปด้วย ยาฆ่าเชื้อ, ยาพาราเซตามอล,น้ำตาเทียมแบบกระเปราะ, น้ำเกลือสำหรับเช็ดความสะอาด, สำลีแบบก้อน, เทป 3M ไว้สำหรับแปะที่ครอบตา

เมื่อกลับถึงบ้านสิ่งที่คุณหมอแนะนำให้ทำคือพักสายตาด้วยการนอนหลับไปเลย นอนยาวไปจนถึงเช้าเลยก็ดี เพราะเมื่อยาชาหมดฤทธิ์อาจจะมีอาการแสบตา เคืองตา แต่เมื่อได้นอนพักสายตาอาการเหล่านี้จะดีขึ้น รวมไปถึงอาการหมอกบังตาก็จะหายไป ทำให้สามารถมองเห็นได้ชัดขึ้น และคุณหมอจะนัดมาตรวจเพื่อ Follow Up อีกครั้งในเช้าวันถัดไป 

จากคนสายตาสั้นที่กลับมามีค่าสายตาเป็นศูนย์อีกครั้งบอกเลยว่าเหมือนได้โลกใหม่จริงๆ มันเห็นทุกอย่างชัดเจนขึ้นมากๆ เหมือนกับดูวิดิโอ 4k อยู่ตลอดเวลา  การทำเลสิกไม่น่ากลัวอย่างที่คิดเลยทุกคน ไม่เจ็บเลยแม้แต่ขั้นตอนเดียว เข้าไปในห้องผ่าตัดไม่ถึง 15 นาทีแต่ได้โลกใหม่แบบนี้บอกเลยว่ายังไงก็คุ้ม!

---

อาการข้างเคียงที่ต้องเจอหลังทำเลสิก 

อาการตาแห้ง

เป็นอาการที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเกิดจากการที่เส้นประสาทบริเวณกระจกตาถูกรบกวนทำให้ผลิตน้ำตาน้อยลง เราจะเจอกับปัญหาเหล่านี้ไม่เกิน 6 เดือนจะค่อยๆ ดีขึ้นเอง เพราะเส้นประสาทสามารถสร้างฟื้นตัวใหม่ได้  แต่คนที่ก่อนผ่าตัดมีปัญหาตาแห้งจากการใส่คอนเทคเลนส์มาอยู่แล้วอาจจะฟื้นตัวได้ช้ากว่าปกติ 

วิธีแก้ไขคือหยอดน้ำตาเทียมทุกๆ ชั่วโมง ประมาณ 2-3 เดือน ถ้าอาการดีขึ้นอาจจะเปลี่ยนจากทุกชั่วโมงเปน 2-3 ชั่วโมง หรือแล้วแต่คุณหมอสั่งด้วย

อาการแสงจ้า / แสงกระเจิง

อาการดังกล่าวคือถ้ามองดวงไฟจะเห็นว่ารอบๆ ดวงไฟเหมือนมีรัศมีหรือออร่าอยู่ และจะเห็นชัดในช่วงกลางคืน ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายไปใน 1-2 อาทิตย์หลังจากทำเลสิก และจะค่อยๆ เห็นน้อยลงจนหายไปไหนที่สุด เพราะฉะนั้นช่วงแรกๆ ของการทำเลสิกถ้างดขับรถตอนกลางคืนได้ก็ควรงดก่อนน้า 

วิธีดูแลตัวเองหลังจากทำเลสิก

• ห้ามล้างหน้าหรือห้ามน้ำเข้าตา 1-2 อาทิตย์ สามารถสระผมได้แต่ควรไปสระที่ร้านทำผมและควรหาทิชชู่หรือผ้าปิดตาป้องกันน้ำกระเด็นเข้าตา

• ต้องครอบตานอนและห้ามนอนตะแคงอย่างน้อย 1 อาทิตย์ เพื่อป้องกันการขยี้ตาโดยไม่รู้ตัวในตอนกลางคืน 

• หยอดยาฆ่าเชื้อตามแพทย์สั่งและควรมาตามแพทย์นัดทุกครั้ง

• หยอดน้ำตาเทียมบ่อยๆ ทุก 1-2 ชั่วโมง เพื่อป้องกันอาการตาแห้ง 

• งดแต่งหน้าโดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตาหลังจากการผ่าตัด 1-2 อาทิตย์ 

• หลีกเลี่ยงแสงแดดในตอนกลางวัน ถ้ามีความจำเป็นให้สวมแว่นกันแดด 

---

FAQ  เกี่ยวกับการทำเลสิก 

ใครบ้างที่ทำเลสิกไม่ได้?

• อายุต่ำกว่า 18 ปี เพราะอาจยังค่าสายตายังไม่คงที่ ทำแล้วอาจจะมีโอกาสกลับมาสั้นได้อีก 

• คนที่ค่าสายตาเกิน 1,000 ขึ้นไป อาจจะต้องรักษาด้วยวิธิอื่นๆ 

• คนที่มีกระจกบาง หรือความหนากระจกตาต่ำกว่า 500 ไมครอน 

• คนที่เป็นต้อหิน ต้อกระจก การทำเลสิกจะไม่ช่วยให้การมองเห็นดีขึ้น ต้องใช้การรักษาด้วยวิธีอื่นๆ 

ถ้าค่าสายตาเกิน 1,000 ขึ้นไป ต้องใช้การรักษาวิธีไหน? 

• คุณหมอแนะนำวิธีการใส่เลนส์เสริม (ICL) คือผ่าตัดเพื่อใส่เลนส์เสริมเข้าไปในช่องระหว่างม่านตาและเลนส์ธรรมชาติ สามารถแก้ปัญหาสายตาสั้น, สายตาเอียงและสายตายาวได้เช่นกัน  อารมณ์เหมือนใส่คอนแทคเลนส์ไว้ตลอดเวลา 

ทำเลสิกแล้ว สามารถกลับมาทำได้อีกไหม? 

• คุณหมอบอกว่าสามารถทำได้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับว่าความหนากระจกที่เหลือยังคงเพียงพอหรือไม่ ถ้าตรวจแล้วพบว่าเหลือต่ำกว่า 500 ไมครอนจะไม่สามารถทำได้ 

ถ้าจะทำเลสิกซ้ำ ต้องรอระยะเวลาเท่าไหร่ ? 

• ต้องดูว่าค่าสายตาคงที่แล้วหรือยัง ถ้าคงที่แล้วสเต็ปต่อมาคือดูที่ความหนากระจกตา ถ้าหนาไม่พอก็ไม่สามารถทำได้ เพราะฉะนั้นระยะเวลาไม่ค่อยมีผลอยู่ที่ความหนากระจกล้วนๆ เลย 

ทำเลสิกแล้วยังสามารถใส่คอนแทคเลนส์แฟชั่นได้ไหม? 

• สามารถใส่ได้ แต่ต้องเว้นระยะหลังผ่าตัดประมาณ 3-6 เดือน หรือจนกว่าคุณหมอจะอนุญาต

---

โปรโมชั่นทำเลสิก ที่ รพ. สมิติเวช ธนบุรี

---

สำหรับโปรแกรมเลสิกทั้ง PRK, Lasik และ Femto Lasik ที่ รพ. สมิติเวช ธนบุรี มีโปรโมชั่นสามารถผ่อนผ่านบัตรเครดิตได้ บัตรที่ร่วมรายการได้ ตามนี้เลย

• บัตรเครดิต ธ. กรุงศรี และ ธ.กรุงเทพ ผ่อน 0% นาน 10 เดือน

• บัตรเครดิต ธ. กสิกรไทย ผ่อน 0% นาน 4 เดือน 

***พิเศษสำหรับชาวปันโปร*** ที่เข้ารับบริการทำเลสิกที่ รพ. สมิติเวช ธนบุรี เพียงบอกว่าเห็นรีวิวจากปันโปรและแคปเจอร์หน้าบทความนี้ จะได้รับ Voucher เข้ารับการตรวจสุขภาพที่ดี 5 ใบ ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย 

Voucher ทั้ง 5 ใบจะประกอบไปด้วย

• ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านชะลอวัย มูลค่า 800 บาท

• ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้ มูลค่า 1,000 บาท

• โปรแกรมตรวจสุขภาพจอประสาทตา มูลค่า 2,000 บาท

• โปรแกรมตรวจวัดองค์ประกอบของร่างกาย มูลค่า 1,800 บาท

• โปรแกรมวิเคราะห์สภาพผิวด้วยเครื่อง Visia  มูลค่า 500 บาท 

ปล. Voucher มีจำนวนจำกัด ต้องรีบกันหน่อยน้า ถ้าหากได้ไปแล้วตอนนำมาใช้ อย่าลืมพก Voucher มากันด้วย

รายละเอียดเพิ่มเติม : ศุนย์จักษุกรรมและเลสิก รพ. สมิติเวช ธนบุรี โทร. 02-408-0113 
สอบถามข้อมูลโปรโมชั่นเพิ่มเติม ได้ที่ Line@ : @samitivejthonburi หรือจะสแกน QR Code ด้านล่างก็ได้ 
สามารถสอบถามได้ทุกวันตั้งแต่ 8.00 - 18.00 น.

พิกัดโรงพยาบาล >> https://goo.gl/maps/nRK87e4L4NDzz6rE7

 

---

🌈 ปันโปรสรุปให้ 🌈

---

• ใครที่กำลังคิดๆ ว่าจะทำ เราเชียร์ให้มากๆ เลยนะ เป็นการลงทุนที่แสนจะคุ้มค่ามากๆ มันเหมือนได้โลกใหม่ ภาพทุกอย่างชัดขึ้นแบบ Full HD ภายใน 15 นาที มันเริ่ดนะ! 

• คุณหมอและพยาบาลที่ศูนย์จักษุกรรมมและเลสิก รพ. สมิติเวช ธนบุรี ดูแลเราดีมากๆ และคอนเฟิร์มว่าทุกท่านมือเบามากจริงๆ ไม่ว่าขั้นตอนไหนๆ ก็ไม่เจ็บเลย

• ใครที่สนใจทำกับคุณหมอไรนา จินดาศักดิ์ผ่านรีวิวของปันโปร อย่าลืมแคปเจอร์หน้าจอบทความนี้ไปด้วยนะ จะได้รับ Voucher ตรวจสุขภาพเพิ่มด้วย

via GIPHY