โรงแรม ธุรกิจที่เติบโตโดยมีจุดเริ่มต้นมาจาก "การหยิบยื่นน้ำใจให้นักเดินทาง"

avatar writer
โดย : Ying
avatar writer2 มิ.ย. 2566 avatar writer420
โรงแรม ธุรกิจที่เติบโตโดยมีจุดเริ่มต้นมาจาก "การหยิบยื่นน้ำใจให้นักเดินทาง"

 

ณ เย็นวันศุกร์ในวงเมาท์มอยของกลุ่มเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนาน นอกจากจะแชร์ความเหนื่อยล้า และอัปเดตชีวิตกันสนุกสนานแล้ว เรายังได้คุยกันในหัวข้อที่ว่า อยากจะเปลี่ยนที่นอนจากห้องนอนตัวเองไปนอนโรงแรม 

 

🏨

 

การที่เรายอมเสียเงินเพื่อไปนอนโรงแรมเฉยๆ ถึงแม้ว่าโรงแรมนั้นจะใกล้บ้านมาก แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่เลยในสมัยนี้ ด้วยเหตุผลหลักๆ ก็คงเพราะ โรงแรมมีบรรยากาศที่เหมาะกับการพักผ่อน พอเข้าปุ๊บก็สงบปั๊บ บางโรงแรมมีการบริการที่ดีมากชนิดที่ว่าทำให้การพักผ่อนของเราเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ มีทั้งสปา นวดตัว บริการอาหารส่งถึงห้อง และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งการบริการเหล่านี้ได้ทำให้โรงแรมเป็นเหมือนหมุดหมายของการพักผ่อน ที่ถึงแม้ราคาจะสูงแต่หลายคนก็ยินดีจะควักเงินจ่าย  เลยทำให้แต่ละโรงแรมยิ่งนำเสนอการบริการแบบทุ่มสุดตัวเข้าไปใหญ่ 

 

แต่กว่าธุรกิจด้านโรงแรมจะใหญ่โตแตกเครือข่ายกันไปทั่วโลกแบบทุกวันนี้ และกว่าที่การบริการจะมัดใจลูกค้าได้ก็ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ กว่าการบริการจะเข้าที่เข้าทางได้ ก็ได้ผ่านการเดินทางและประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานด้วยเช่นกัน เดี๋ยวบทความนี้เราจะพาไปดูกันว่า ก่อนจะมาเป็นโรงแรมและการบริการชั้นยอดในทุกวันนี้ โรงแรมมีจุดเริ่มต้นอย่างไรบ้าง ?

 

Marriott International  จัดเป็นเครือโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2022

 


 

จุดเริ่มต้นของธุรกิจโรงแรม 
มาจากการหยิบยื่นไมตรีจิตให้นักเดินทาง
🏢

 

คําว่า "โรงแรม" ( Hotel ) เป็นคําที่มาจากภาษาฝรั่งเศสหมายถึง อาคารชุด และคฤหาสน์ของผู้มีอันจะกิน ที่มีไว้เพื่อให้ญาติมาพักค้างเป็นระยะเวลานานๆ  อาคารชุดหรือคฤหาสน์เหล่านี้ อาจจะตั้งอยู่นอกเมืองแถบชนบท หรือใจกลางเมืองย่านชุมชน คําว่า โรงแรม หรือ Hotel เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 18 เป็นต้นมา มีการค้นพบหลักฐานระบุถึงการมีอยู่ของโรงแรมมาตั้งแต่สมัยพระคัมภีร์ไบเบิล เลยนะ

 

 

ต้นกำเนิดของโรงแรมนั้นเกิดขึ้นมาจากศาสนา การเมือง การค้า การผจญภัย และสุขภาพ

 

  • เริ่มกันตั้งแต่ก่อนช่วง ค.ศ. 376  ในยุคแรกนี้ชาวกรีกเป็นชาติแรกๆ ที่มีการเดินทางระหว่างเมืองบ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการค้าขาย ติดต่อราชการ หรือการผจญภัย ในตอนนั้นนักเดินทางทั้งหลายมักจะนอนกันตามท้องถนน โบสถ์ หรือบ้านของชาวบ้านทั่วไป ไม่เสียเงิน แต่หากินกันตามอัตภาพ วัฒนธรรมนี้สืบสานต่อกันมาเรื่อยๆ อีกทั้งยังมีการค้นพบว่าชาวกรีกสร้างห้องอาบน้ำร้อนในหมู่บ้าน เพื่อการพักผ่อนและพักฟื้น ทางฝั่งโรมันเองก็ได้สร้างคฤหาสน์เพื่อเป็นที่พักสำหรับผู้เดินทางมาราชการอีกด้วย 

 

อย่างไรก็ตามในสมัยนั้นยังไม่มีหลักฐานปรากฏเรื่องการเรียกเก็บเงินทั้งนั้น จักรวรรดิชาร์ลเลอมาญได้มีการออกกฎหมายระบุไว้ว่า " ชาวคริสต์ทุกคนมีหน้าที่ในการจัดหาที่พักและให้บริการอาหารแก่ผู้เดินทาง โดยกําหนดเกณฑ์เอาไว้ว่า ให้พักได้ มีอาหารและเครื่องดื่มให้ ไม่เสียเงินเพื่อเป็นการทำกุศล "  ถึงแม้จะฟรีแต่ก็ เข้าพักได้ไม่เกินคนละ 3 คืนเท่านั้น

 

ลักษณะที่พักของบรรดากองคาราวาน นักเดินทาง พ่อค้าต่างๆ  : รูปจาก aratta

 

  • ค.ศ. 705 โรงแรมแห่งแรกถือกำเนิดในประเทศญี่ปุ่น ถึงแม้ธุรกิจด้านโรงแรมจะดูมาจากทางฝั่งยุโรป แต่ทางฝั่งเอเชียเราก็มีโรงแรมที่ถือว่าเก่าแก่ที่สุดแอบซ่อนอยู่ด้วย โดยโรงแรมนั้นนั่นก็คือ Nishiyama Onsen Keiunkan หรือ นิชิยามา ออนเซ็น เคอุนคัง ตั้งอยู่บนภูเขาในเมืองฮายากาวะ จังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น มีอายุมากถึง 1,300 ปี ความเก่าแก่นี้ได้รับการรับรองจาก Guinness World Records ด้วยนะ 

 

ในปัจจุบันโรงแรมแห่งนี้ยังคงเปิดทำการปกติ ใครอยากสัมผัสกับธรรมชาติก็กดจองเข้าพักกันโลด หรือถ้าอยากจะชื่นชมตัวโรงแรมกก่อน ก็ไปชมรีวิวจากช่อง Go Went Go ได้เลย

 

 

ในขณะที่โรงแรมแห่งแรกที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นก่อตัวขึ้นมาแบบเงียบๆ ตัดภาพมาที่ทางฝั่งยุโรป ธุรกิจโรงแรมเพิ่งจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบ จากไมตรีจิตก็ได้กลายเป็นธุรกิจเต็มรูปแบบ โดยธุรกิจโรงแรมมีจุดเปลี่ยนสำคัญๆ ในแต่ละช่วงปีดังนี้

 

  • ช่วง ค.ศ. 1282   ธุรกิจโรงแรมของทางฝั่งยุโรป เริ่มต้นที่เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี  เริ่มมีการขายไวน์และอาหารง่ายๆ มีการใช้ระบบลงทะเบียนผู้เข้าพัก จากนั้นไม่นานธุรกิจนี้จึงถือกำเนิดขึ้นและเริ่มแพร่หลายไปยังประเทศเยอรมนี ฝรั่งเศส ไปจนถึงสหราชอาณาจักร ภายหลังก็มีโรงแรมลักษณะนี้ผุดขึ้นมาเรื่อยๆ จนมีสมาคมโรงแรมเกิดขึ้นตามมาด้วย  

 

ฟลอเรนซ์ เมืองสุดโรแมนติกของอิตาลี ศูนย์รวมงานศิลปะระดับโลก

 

  • ช่วง ค.ศ. 1834  Astor House เป็นผู้ริเริ่มนำระบบท่อประปามาใช้ในอาคาร ทำให้ห้องพักสามารถสร้างห้องน้ำไว้ได้ในตัวห้อง จากเดิมที่ต้องไปใช้ห้องน้ำรวม ซึ่งช่วยให้ผู้เข้าพักมีความเป็นส่วนตัวและสะดวกสบายขึ้น 

 

  • ช่วง ค.ศ. 1857  มีการใช้ลิฟต์พลังงานไอน้ำเป็นครั้งแรก โดยเริ่มจากการติดตั้งในห้างสรรพสินค้าสุดหรูในนิวยอร์ก ก่อนที่จะนำมาติดในโรงแรม ซึ่งทำให้โรงแรมดูหรูหราแปลกตามากขึ้น ช่วยเรียกบรรดาแขกคนดังมาเข้าพักได้มากมาย 

 

  • ต่อมาใน ค.ศ. 1875 โรงแรมพาเลซ ซานฟรานซิสโก ได้ถือกำเนิดขึ้น โดยสร้างขึ้นด้วยเงิน 5 ล้านเหรียญสหรัฐ มีห้องพัก 800 ห้อง ถือเป็นโรงแรมที่มีขนาดใหญ่มากในตอนนั้น และแน่นอนว่าใครที่ได้เข้าพักก็ดูโก้มากในวงสังคม  

 

  • ถัดมาอีก 5 ปี โรงแรมที่มีชื่อเสียงเรื่องความหรูหราจากฝั่งสหราชอาณาจักรฯ อย่าง โรงแรมซาวอย (Savoy Hotel) ก็เป็นโรงแรมเดียวที่มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้า แถมยังมีโบสถ์ โรงละคร ตั้งอยู่ภายในโรงแรมด้วย

 

  • ค.ศ. 1894 เนเธอร์แลนด์โฮเทล ที่นครนิวยอร์กถือเป็น โรงแรมแห่งแรกที่มีโทรศัพท์ใช้ในห้องพัก

 

  • ถัดมาอีกเพียง 4 ปี นายเซซาร์ ริทซ์ (Ce'Sar Ritz) ชาวสวิสเซอร์แลนด์ได้ เปิดตัวโรงแรม Ritz Paris หนึ่งในโรงแรมที่เป็นจุดเปลี่ยนของธุรกิจโรงแรม ด้วยประสบการณ์ด้านโรงแรมที่เก็บเกี่ยวมาหลายปีของนายเซซาร์ ริทซ์ จึงทำให้ที่นี่เป็นที่ชื่นชอบของเหล่าบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก และมีห้องชุดหรูหรา อย่างบางห้องถึงขั้นตั้งชื่อตามแขกที่มีชื่อเสียงกันเลย 

 

 


และอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้การเปิดตัว Ritz Paris เป็นจุดเปลี่ยนของวงการโรงแรม นั่นก็เพราะ นายเซซาร์ ริทซ์ ผู้ซึ่งเป็นบิดาของการโรงแรม ได้บุกเบิกวิชาการโรงแรมและการบริการ แถมยังเป็นเจ้าของประโยคยอดฮิตอย่าง "The Customer is Always Right. "  ที่แปลเป็นไทยได้ว่า ลูกค้าถูกต้องเสมอ

 

แน่นอนว่าหลังจากนั้น ธุรกิจโรงแรมก็มีการแข่งขันกันอย่างจริงจังในเรื่องของความหรูหรา แต่ก็เป็นเช่นนั้นได้ไม่นาน เพราะในปัจจุบันความหรูหราไม่ถือว่าเป็นที่สุดของห่วงโซ่ นั่นหมายความว่า ถ้าโรงแรมมีเพียงแค่การตกแต่งที่หรูหราเพียงอย่างเดียวก็ไม่สามารถมัดใจลูกค้าได้นานสักเท่าไหร่ แล้วอะไรล่ะที่จะเข้ามามัดใจลูกค้าได้มากขึ้น ? 

 

 

  • การบริการคือหัวใจสำคัญ

หัวใจสำคัญของธุรกิจโรงแรมนั่นก็คือ การบริการ เราจะเห็นว่าพนักงานโรงแรมแทบจะทุกตำแหน่ง ยิ้มแย้มให้กับแขกเสมอ เมื่ออยู่ในโรงแรมแขกคืออันดับ 1 ถ้าใครเคยได้พักโรงแรม 4 ดาวขึ้นไปจะพบว่า พนักงานไม่เคยปล่อยให้เรายืนงงนาน แต่จะเข้ามาถามไถ่พร้อมเสนอความช่วยเหลือในทันที  ซึ่งการบริการที่ดี ก็จะช่วยให้โรงแรมนั้นๆ มีเสน่ห์มากขึ้นเป็นเท่าตัว

 

  • บรรยากาศ และความสบายก็สำคัญไม่แพ้กัน

ข้อนี้เชื่อว่าเป็นข้อสำคัญที่ผู้คนจะพิจารณาให้ดีก่อนจะกดจอง การจะเสียเงินไปพักผ่อนหย่อนใจทั้งทีก็ต้องได้สิ่งที่ดีที่สุด  ถ้าวันหยุดยาวนี้เป็นวันครบรอบงานแต่งงาน คู่รักก็อยากได้โรงแรมที่มีบรรยากาศโรแมนติก อยู่แล้วสบายใจ และต้องมีความเป็นส่วนตัวสูง หากเป็นนักธุรกิจผู้เหนื่อยล้าอยากจะพักผ่อนให้เต็มตื่น บรรยากาศที่เงียบสงบไร้เสียงรบกวนคือสวรรค์

 

ยิ่งมีบริการนวดสปายิ่งเป็นเรื่องที่ดีมาก  บรรยากาศมักจะทำให้เราเกิดความรู้สึกคล้อยตามได้เสมอ ยิ่งบรรยากาศโรงแรมดี แขกก็จะเกิดความรู้สึกดีตามไปด้วย อ่อ! สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือความสบาย ที่นอนสบายไหม หมอนนุ่มพอหรือป่าว เรื่องการนอนถือเป็นเรื่องสำคัญนะ  เพราะยังไงซะจองโรงแรมมาก็ต้องมานอนพักผ่อนสิ !

 

  • อาหารแสนอร่อย และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

เคยเลือกโรงแรมเพียงเพราะอาหารเช้าไหม ปากท้องถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญนะ ไปเที่ยวที่ไหนนอกจากสุขกาย สุขใจแล้ว พุงก็ต้องมีความสุขด้วย  ไม่ใช่แค่เรื่องอาหารเช้าเท่านั้น  เพราะถ้าพ่อครัวของโรงแรมทำอาหารกลางวันและเย็นอร่อย  เชื่อได้เลยว่าแขกจะกลับมาซ้ำแน่นอน 100%

 

นอกจากนี้โรงแรมที่มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ มีฟิตเนสแบบอัดแน่น มีห้องซาวน่า และบริการนวด ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการเลือกโรงแรมเช่นกัน ลองคิดดูสิว่า ไปนอนโรงแรม 1 ครั้งแต่ได้ครบทุกอย่าง มีหรอที่แขกจะไม่จอง

 

 

 


 

โรงแรมมีกี่ประเภท แล้วแต่ละประเภทต่างกันอย่างไร
🏢

 


ตามกฎหมายแล้ว โรงแรม หมายถึง สถานที่พักที่จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ในทางธุรกิจเพื่อให้บริการที่พักชั่วคราวสำหรับคนเดินทางหรือบุคคลอื่นใดโดยมีค่าตอบแทน และบุคคลหรือผู้มาพักจะเรียกว่า "แขก" (guest)  ในความเป็นจริงแล้วโรงแรมจะแบ่งแยกย่อยไปอีกหลากหลายแบบแล้วแต่ว่าจะใช้หลักเกณฑ์อะไร แต่เราขอสรุปมาให้โดยแยกตามประเภทที่เราอาจจะเคยได้ยินกันบ่อยๆ 

 

  • โรงแรม 1 ดาว  ⭐ 

เน้นนอน ไม่เน้นสะดวกมาก  บ้างเข้ามาพักแค่ 2- 3 ชั่วโมงก็มี โรงแรมในกลุ่มนี้ส่วนมากจะมีห้องขนาดเล็ก มีสิ่งอำนวยความสะดวกเท่าที่จำเป็นอย่าง ห้องน้ำ โต๊ะ/เก้าอี้ ผ้าเช็ดตัว เป็นต้น  

 

  • โรงแรม 2 ดาว ⭐ ⭐ 

ในกลุ่มนี้ ขนาดห้องจะกว้างขึ้น  ส่วนที่เหลือยังคงคล้ายๆ กับโรงแรม 1 ดาว แต่กลุ่มนี้ทางโรงแรมจะมีการดูแลรักษาความสะอาดมากขึ้น 

 

  • โรงแรม 3 ดาว ⭐ ⭐ ⭐ 

กลุ่มนี้นอกจากห้องจะกว้างขึ้นมาแล้ว ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากขึ้นตามไปด้วย  บางโรงแรมมี TV รวมถึงของใช้อย่างไดร์เป่าผม ตู้เซฟเล็กๆ ตู้เสื้อผ้า ภายในโรงแรมก็จะมีห้องอาหารรวมเพิ่มมา จากประสบการณ์โรงแรมระดับ 3 ดาวบางแห่งจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกเล็กน้อยอย่าง Snack bar  บริการส่งอาหารถึงหน้าห้อง และอาจมีสระว่ายน้ำขนาดเล็กๆ ให้พอได้ลอยตัวเล่นด้วยนะ

 

  • โรงแรม 4 ดาว ⭐ ⭐ ⭐ ⭐ 

มาถึงกลุ่มนี้แน่นอนว่านอกจากห้องขนาดใหญ่ขึ้น เตียงใหญ่นุ่มสบายต้องมา TV จอบิ๊กเบิ้มต้องมี  อ่างอาบน้ำก็พลาดไม่ได้ แถมมาตรฐานด้านบริการก็สูงขึ้นมาก  ความสะดวกสบายอื่นๆ ก็มีมากขึ้น เช่น สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ มีห้องอาหารมากกว่า 1 ห้อง มีภัตตาคารที่เปิดให้บุคคลภายนอกเข้ามาใช้บริการได้  พ่อครัวก็คือมีชื่อเสียงระดับหนึ่งเลย

 

  • โรงแรม 5 ดาว ⭐ ⭐ ⭐ ⭐ ⭐ 

เป็นโรงแรมที่มีมาตรฐานสากลระดับสูงสุด  ทั้งห้องพักอาหาร ทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ของบางอย่างเราอาจจะไม่ได้ใช้ในชีวิตประจำวันด้วยซ้ำ 

มีเกณฑ์อยู่ข้อหนึ่งที่ทำให้โรงแรมหรูบางแห่งที่ต่อให้จะอลังการแค่ไหน คะแนนการบริการน่าประทับใจเพียงใด แต่ก็ไม่ได้ 5 ดาว เพราะไม่มีฝ่ายซักทำความสะอาดบรรดาผ้าปูเตียงและผ้าเช็ดตัวเป็นของตนเอง เลยทำให้โรงแรมนั้นยังคงได้ 4 ดาวต่อไป

 

 

โรงแรม Burj Al Arab สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ในโรงแรมหรูติดอันดับต้นๆ ของโลก พร้อมวิวห้องอาหารของโรงแรม

 

 

ปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่ามีธุรกิจที่พักตั้งอยู่ทุกพื้นที่ ต่อให้ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว ไม่มีวิวพันล้านให้ดู แต่ก็ยังมีที่พักทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ยึดพื้นที่รอให้แขกมาใช้บริการกันเต็มไปหมด แล้วทุกคนเคยสังเกตไหมว่า ที่พักแต่ละแห่งมีนามสกุลพ่วงต่อท้ายที่ต่างกัน เช่น อารียาโฮเทล  ลุงชัยรีสอร์ท  บังกะโลน้องจอย หรืออมราเกสต์เฮาส์ แล้วมันยังไงกันนะ?  เดี๋ยวเราจะมาพูดถึงความแตกต่างของที่พักอื่นๆ ที่เรามักจะพบเจอและมีโอกาสได้ใช้บริการกันบ่อยๆ บ้างดีกว่า 

 

 

  🏩   รีสอร์ท (Resort)

 

จริงๆ แล้วรีสอร์ทจัดเป็นโรงแรมประเภทหนึ่ง แต่จะต่างกันตรงที่ มักจะตั้งอยู่ในเมืองท่องเที่ยวและมีวิวธรรมชาติ แถมบางแห่งยังจุคนได้จำนวนมากอีกด้วยนะ แบบ 1 ห้อง นอนได้ 10 คนเรียงกันไปยาวๆ แบบนี้ก็มี ความน่ารักของรีสอร์ทคงไม่พ้นเรื่องของธรรมชาติ  มันคงดีไม่น้อยเลยที่เราตื่นเช้ามา มีสวนให้เดิน มีดอกไม้ให้ชม หรือได้ก่อปราสาททรายหน้าที่พักเลย 

 

 

Reef resort  เกาะกระดาน รีสอร์ทบนหาดที่สวยที่สุดในโลก ตามโพลของ World Beach Guide 

 

 

 

  🏩  บังกะโล ( Bungalow )

 

อีก 1 บ้านพักตากอากาศที่มาเป็นบ้านจริงๆ แต่จะมีลักษณะแบบหลังเล็ก หลังคามุงจาก มีระเบียงหน้าบ้านนิดหน่อย บ้างก็เป็นพัดลม บ้างก็มีติดแอร์ ส่วนมากเราจะเห็นที่พักลักษณะนี้ตามทะเลและภูเขาบ้าง ที่พักแบบนี้มักจะถูกใจนักเดินทางสายไพรเวท เพราะมีความเป็นส่วนตัวแต่ราคาไม่แพงมากนัก ในปัจจุบันบังกะโลมีหลายแบบ ไม่ใช่แค่บ้านไม้หลังคามุงจากอีกต่อไปแล้วนะ  แบบเป็นบ้านปูนสีสันสดใสก็มี

 

 

บังกะโลมุงจาก บนเกาะพยาม จังหวัดระนอง

 

 

🏩  เกสต์เฮ้าส์ ( Great House )

 

เกสต์เฮ้าส์จะเริ่มต้นการที่เจ้าของบ้านได้ทำการปรับปรุง ดัดแปลง หรือสร้างขึ้นมาใหม่ เพื่อให้บริการเป็นที่พักแรม อารมณ์แบบเจ้าของบ้านแบ่งห้องในบ้านให้กับ Backpacker หรือนักท่องเที่ยว เพื่อหารายได้พิเศษเข้ากระเป๋า โดยบางที่อาจจะมีข้อกำหนดยิบย่อยเช่น ห้ามเสียงดังหลัง 3 ทุ่ม ห้ามใช้ครัว ห้ามปาร์ตี้ บลาๆ ส่วนใหญ่จะใช้ห้องน้ำรวม อาจจะดูเล็กและดูเหมือนไปนอนบ้านคนอื่น แต่รับรองว่าช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้แน่นอน

  

 

 รูปภาพจาก Napshot Guesthouse อีก 1 เกสต์เฮ้าส์น่ารักๆ ในกรุงเทพ

 

 

 

🏩  โมเทล ( Motel )

 

สิงห์นักขับจะรู้จักที่พักแบบนี้กันดี Motel เกิดมาจาก Motor + Hotel ได้ออกมาเป็น Motel โรงแรมขนาดเล็กที่อยู่ติดกับถนน มักจะเป็นโรงแรมที่คนขับรถไกลๆ อย่างเช่น ขับรถข้ามเมืองเข้าพักกัน และมักจะสามารถจอดรถที่หน้าห้องพักได้เลย สิ่งอำนวยความสะดวกจะมีเท่าที่จำเป็น มีห้องน้ำในตัว บางแห่งอาจจะมีให้สั่งอาหารได้ด้วย 

 

 

เราจะพบเห็น Motel ได้บ่อยครั้งในหนังต่างประเทศแต่ในประเทศไทยจะค่อนข้างน้อย

 

 

  🏩  โฮสเทล ( Hostel )

 

ที่พักราคาประหยัดที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบทั่วไป เช่น ที่นอน ตู้ล็อกเกอร์ ห้องอาบน้ำ เป็นต้น เมื่อเราเข้าพักในโฮสเทลเราจะพบว่า เรามีรูมเมทมากหน้าหลายตามานอนเตียงข้างๆ  บางโฮสเทลจะแยกหญิงชาย แต่บางที่คือนอนรวมกันไปเลยจ้า นอกจากนี้ยังใช้พื้นที่ส่วนรวมอย่าง ห้องครัว ห้องน้ำ ห้องรับแขก ร่วมกันทั้งหมด  

 

 

เมื่อครั้งเที่ยวจังหวัดระนอง ก็ได้เจอ XENT HOSTEL นอนรวมกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ คุยกันสนุกมาก

 

 

  🏩  โฮมสเตย์ ( Homestay )

 

โฮมสเตย์จัดเป็นที่พักสุดจะน่ารัก มีความได้ใกล้ชิดชุมชน ได้อยู่ท่ามกลางวิถีของชุมชน มีอาหารให้อย่างน้อยก็ 2 มื้อเลย  ลักษณะก็จะคล้ายๆ เกสต์เฮ้าส์แต่มีความแตกต่างขึ้นมาหน่อย บ้านแขกก็คือบ้านแขก สิ่งที่น่ารักก็คือความได้ใกล้ชิดชุมชนนี่แหละ อาหารที่อยู่ในแพ็กเกจก็จะเป็นอาหารพื้นบ้านนี่แหละ ถ้าเราจองแถวๆ ทะเลก็จะได้ทานอาหารทะเล ถ้าจองโซนภูเขาทางเหลือก็อาจจะได้ทานอาหารเหนือ อีกทั้งบางแห่งเราสามารถเดินดู เดินสำรวจชุมชนได้ด้วยนะ ก็ถือว่าได้บรรยากาศไปอีกแบบ

 

 

ความน่ารักของโฮมสเตย์คือ อาหาร และชุมชน ซึ่งแต่ละภาคก็จะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

 

 

  🏩  พูลวิลล่า ( Pool Villa )

 

นับเป็นที่พักขวัญใจครอบครัวใหญ่ๆ หรือชาวแก๊งเลยทีเดียวเพราะ ได้บ้านทั้งหลังอย่างต่ำก็ 2 ห้องนอนไปเลย มีครัว เครื่องครัว ให้ใช้กันเต็มที่ และที่สำคัญคือมีสระว่ายน้ำอยู่ในรั่วบ้านเลยจ้า ด้วยความครบครันแบบนี้แหละ พูลวิลล่าจึงบูมขึ้นมาอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ถือเป็นที่พักที่ส่งเสริมให้เกิดการใช้เวลาร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ และพอหารเฉลี่ยกันแล้วก็ถือว่าไม่แพงเลย 

 

 

ไปเที่ยวระนองพร้อมเพื่อนเลยจอง นัดดาพูลวิลล่า จอง 1 หลังได้ครบทุกฟังชันไปเลย

 


 

โรงแรมหรือที่พักมักจะเป็นเรื่องใหญ่ในการตัดสินใจเสมอ บรรยากาศดีไหม เตียงนอนสบายไหมนะ  ได้คะแนนรีวิวเป็นยังไง แล้วการบริการของพนักงานเหมาะสมกับเซอร์วิสชาร์จที่เรายอมเสียหรือป่าว แต่ด้วยความที่เมืองไทยมักเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยว ธุรกิจที่พักจึงผุดขึ้นมาเยอะมาก ไม่แน่นะการจะไปหัวหิน หรือนครนายก หรือในตัวเมืองนั่นก็อาจจะทำให้เราได้พบเห็นที่พักทุกรูปแบบเลยก็เป็นได้

 

แต่เอาเป็นว่าเวลาเราจะเลือกโรงแรมหรือที่พักสัก 1 แห่ง ให้คำนึงถึงจุดประสงค์ของการจองเสมอ สมมติเราไปเที่ยวทะเล เราก็อาจจะเลือกจองที่พักให้ใกล้ทะเล จะได้รับลมเย็นๆ ส่วนจะเลือกเป็นบังกะโล หรือรีสอร์ท หรือโรงแรม อันนี้คงขึ้นกับว่าเราอยากจะเสพอะไร การบริการที่ดี อาหารเช้ารสเด็ด ความสงบ หรือหาเพื่อนคุย  เมื่อเรารู้ใจตัวเองแล้ว เราก็จะเลือกที่พักประเภทที่เราชื่นชอบ และตรงใจได้ในที่สุด

 

 

⭐ ⭐ ⭐ ⭐ ⭐ 

 


 

 

💙 อ่านบทความที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ได้ที่นี่ 


แหล่งข้อมูลอ้างอิง : habitatgroup / springnews / marketeeronline / hospitalitynet / historichotelsthenandnow / wikipedia  / keiunkan

  • avatar writer
    โดย Ying
    ฺ𝘉𝘰𝘰𝘬 • 𝘊𝘰𝘧𝘧𝘦𝘦 • 𝘞𝘢𝘭𝘬𝘪𝘯𝘨 • 𝘍𝘳𝘦𝘦𝘥𝘪𝘷𝘪𝘯𝘨
แสดงความคิดเห็น