MICHELIN Guide จากยางรถยนต์...มาทำรางวัลร้านอาหารได้ยังไง ?
โดย : monosunday🐢
นาทีนี้คงไม่มีใคร ไม่รู้จักรางวัล “MICHELIN Guide” ที่ร้านอาหารไหนมีแขวนหรือแปะติดไว้แล้วล่ะก็ มั่นใจในระดับนึงได้เลย ว่าร้านนี้จะต้องมีคุณภาพวัตถุดิบ+รสชาติที่ดีแน่ ๆ คือกลายเป็นรางวัลการันตรี วงการอาหารเป็นอันดับต้น ๆ ที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก ว่าแต่ MICHELIN Guide นี้ เค้าคือ MICHELIN เดียวกันกับที่เป็นแบรนด์ยางรถยนต์รึเปล่านะ? ถ้าใช่…แล้วขายยางรถอยู่ดี ๆ มาโลดแล่นวงการรีวิวร้านอาหารได้ยังไง? เราจะพาไปหาคำตอบกัน
ยางรถยนต์ สู่การเป็นกูรูร้านอาหาร Michelin Guide
จริง ๆ เรื่องนี้น่าสนใจมากนะ เพราะจากแบรนด์ผลิตยางรถยนต์ แต่อยู่ ๆ ก็กระโดดข้ามมารีวิวอาหารได้ยังไง? มันคนละวงการเลยด้วยซ้ำ! ขอเล่าย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 1889 ที่ประเทศฝรั่งเศส สองพี่น้อง André และ Edouard Michelin คือผู้สร้างอาณาจักรมิชลินขึ้นมา เกิดเป็นโรงงานผลิตยางรถยนต์ที่มีชื่อเสียงยาวนานกว่า 100 ปีได้แล้ว ซึ่งฝรั่งเศสในเวลานั้น ยังไม่ได้มีคนใช้รถยนต์เยอะมาก ทำให้ยอดขายยางไม่ดีเท่าไหร่ พวกเค้าก็เลยคิดกันว่าจะทำยังไงให้คนใช้รถเยอะ ๆ ล่ะ ?
สองพี่น้องเลยเกิดไอเดียทำหนังสือคู่มือแนะนำสำหรับนักเดินทางที่ขับรถยนต์ ไว้นำทางไปสถานที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ปั๊มน้ำมัน ร้านซ่อมรถ รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยว โรงแรม และร้านอาหารด้วย นี่เลยเป็นจุดเริ่มต้นของหนังสือเล่มเล็ก ๆ สีแดง ที่มีชื่อว่า “Michelin Guide” นั่นเอง
กำเนิดรางวัล Michelin Star
หลังจากนั้นมา ทั้งยางรถยนต์และหนังสือเล่มแดง “Michelin Guide” ก็ค่อย ๆ ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องร้านอาหาร ทำให้ในปี 1926 พวกเค้าได้ปรับปรุงหนังสือให้มีคุณภาพมากขึ้น คือให้ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารจริง ๆ ลองไปกินร้านต่าง ๆ ดูโดยที่ห้ามให้ใครรู้เด็ดขาดว่ามาจากทางมิชลิน! (คนใกล้ตัวก็รู้ไม่ได้นะ) ซึ่งถ้าร้านไหนเข้าเกณฑ์ก็จะได้รับดาวจากมิชลินไป 1 ดาว แต่ในเวลาต่อมา ได้มีการแบ่งให้ชัดเจนมากขึ้นเป็น 3 ระดับ คือ
1 ดาว : ร้านอาหารคุณภาพสูง ที่ควรค่าแก่การหยุดแวะชิม
2 ดาว : ร้านอาหารยอดเยี่ยม ที่ควรค่าแก่การขับรถออกนอกเส้นทางเพื่อแวะชิม
3 ดาว : สุดยอดร้านอาหาร ที่ควรค่าแก่การเดินทางไกลเพื่อไปชิมสักครั้ง
สำหรับเกณฑ์ที่ใช้ในการประเมินของทาง “Michelin Guide” ที่จะทำให้ได้ “Michelin Star” มานั้น จะมีอยู่ 5 ข้อด้วยกันคือ
1. คุณภาพของวัตถุดิบที่ใช้
2. ความโดดเด่นของรสชาติและเทคนิคการรังสรรค์อาหาร
3. เอกลักษณ์เฉพาะตัวของเชฟที่นำเสนอผ่านมื้ออาหาร
4. ความคุ้มค่าสมราคา
5. ความคงที่ของประสบการณ์ในการทานต่างวาระ
และนี่ก็คือที่มาของรางวัล “Michelin Star” ซึ่งยังมีมาถึงทุกวันนี้ โดยในทุก ๆ ปี จะมีการประกาศร้านอาหารที่ได้รางวัล ผ่านหนังสือ Michelin Guide แล้วปฏิเสธไม่ได้เลย ว่ารางวัลมิชลินเป็นเครื่องการันตีชั้นดี ให้กับเชฟและร้านอาหารต่าง ๆ จนร้านไหน ๆ ก็อยากได้มาครอบครองเพื่อให้ร้านดูดีมีมาตรฐานสูง เพราะเป็นรางวัลที่ไม่ได้ให้กันง่าย ๆ ด้วย
รางวัล “บิบ กูร์มองด์” คืออะไร
นอกจากรางวัล Michelin Star แล้ว ก็ยังมีอีกรางวัลอื่น ๆ อีกด้วย สำหรับบางร้านแม้จะไม่ได้รับดาวมิชลินไป แต่ก็ยังได้รางวัลการันตี จากทาง Michelin Guide มาประดับเพื่อเพิ่มดีกรีได้เหมือนกัน นั่นก็คือรางวัล “บิบ กูร์มองด์” (Bib Gourmand) ที่มีตั้งแต่ปี 1995 สำหรับร้านที่จะได้รางวัลนี้ไป จะต้องเป็นร้านอาหารที่มีคุณภาพดี รสชาติดีเข้าถึงง่าย ราคาสมเหตุสมผลไม่แพง อันนี้สำคัญมาก ๆ เพราะส่วนใหญ่ร้านที่ได้รางวัลจะเป็นร้านอาหารประเภทร้านทั่ว ๆ ไป หรือร้านแบบสตรีทฟู้ด ไม่ใช่ร้านแนวหรูหราไฟน์ไดนิ่งอะไรแบบนี้
ล่าสุดทาง Michelin Guide ประเทศไทย ก็ได้ประกาศรายชื่อร้านอาหาร ที่ได้รางวัล Bib Gourmand ปี 2024 ไปแล้วด้วย มีทั้งหมด 196 ร้าน มีร้านใหม่ที่เพิ่งได้ครั้งแรก 32 ร้าน ถ้าอยากดูว่ามีร้านอะไรบ้าง ลองเข้าไปดูได้ที่นี่เลย >> https://ppro.pro/3NFoLQX ส่วนร้านอาหารที่ได้รางวัลนี้ติดต่อกัน 5-6 ปีซ้อน ก็อย่างเช่นร้าน ลิ้มเหล่าโหงว (สาขาเยาวราช), ร้านเจ๊โอว, ร้านบ้านผัดไทย ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นร้านที่เราคุ้นเคยกันดี นี่แสดงให้เห็นเลยนะว่า ร้านเหล่านี้สามารถรักษามาตรฐานได้ดี
และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวของ “MICHELIN Guide” ที่เป็นตำนานความอร่อยมากว่า 100 ปี สำหรับใครที่รอรางวัล Michelin Star ปี 2024 อยู่ ก็รอเค้าประกาศในวันพุธที่ 13 ธันวาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 10.30 น. เป็นต้นไป สามารถดูได้ทางยูทูบของ MICHELIN Guide Asia! ได้เลย
👉🏻 อ้างอิงข้อมูล : https://ppro.pro/3NhCwoA , https://ppro.pro/3t7Qv9D , https://ppro.pro/3Ni0rnR
โดย monosunday🐢
ชอบกิน รักการเขียน เลิฟเฟื่องฟ้า อยากดูหนังสืบสวน ดูอนิเมะทั้งวัน อิอิ
บทความ ที่คุณอาจจะสนใจ