Muji ทำยังไงถึงแมสทั่วโลก ทำรายได้เพิ่มทุกปีมา 5 ปีติด ?

 

💬 เวลาพูดถึง ‘Muji’ สิ่งที่ทุกคนนึกถึงก็คงไม่พ้น ความมินิมอล ความเรียบง่าย เสื้อผ้าสีออกโทนครีม ดำ น้ำตาล กันใช่ป่ะ แล้วเคยสงสัยกันไหม Muji ทำโฆษณาออกมาน้อยมาก สินค้าทุกชิ้นไม่มีโลโก้ติดอยู่เลย แต่เค้าทำยังไงถึงแมสไปทั่วโลก ? มา ๆ เดี๋ยววันนี้เราจะเล่าให้ฟัง

 

---

Muji = สินค้าคุณภาพดีที่ไม่มีตราสินค้า ☺️

 

“Muji” มาจากชื่อเต็ม ๆ ว่า Mujirushi Ryohin ที่แปลว่า "สินค้าคุณภาพดีที่ไม่มีตราสินค้า" เป็นแบรนด์ญี่ปุ่นเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 1980 ตอนนี้มีสาขาทั่วโลกกว่า 1,000 สาขาใน 35 ประเทศ และมีโปรดักต์มากถึง 7,000 อย่าง ทั้งของกิน เสื้อผ้า ของใช้ในชีวิตประจำวัน เฟอร์นิเจอร์ ไปจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า และ Muji มาเปิดสาขาแรกในไทยปี 2006 ตอนนี้มีทั้งหมด 39 สาขาแล้ว

 

ส่วนรายได้รวมในไทย ปี 2567 ปาไปกว่า 2,600 ล้านบาท มากกว่าปีที่แล้ว ที่ทำไว้ประมาณ 2,400 ล้านบาท แต่เอาจริงนะ เค้าทำรายได้มากขึ้นทุกปีมา 5 ปีติดแล้วด้วย 

 

---

ผ้าเช็ดแว่น Muji 👓

 

นอกจากเสื้อผ้า สมุด ปากกา ที่เป็นสินค้าฮิตของเค้าแล้ว ก็ยังมี ‘ผ้าเช็ดแว่น’ ที่เป็นไอเทมเด็ดที่หลายคนบอกว่า “ทำถึงจริง” เพราะเช็ดแค่รอบเดียว ก็ชัดแจ๋วใสกริ๊งขึ้นมาเลย แต่ ๆ ไม่ได้เช็ดแค่แว่นนะ ยังเอาไว้เช็ดทั้งจอคอมและมือถือ ส่วนราคาก็ไม่ได้แรงเลยนะ อยู่ที่ห่อละ 35.- (มี 14 แผ่น) คุ้มเลยละใช้ได้นานอยู่ แล้วถ้าใครอยากรู้ว่า มูจิมีของอะไรน่าใช้อีกบ้าง ไปดูได้ที่โพสต์นี้เลย >> https://ppro.pro/3TRowVB   

 

 

---

Muji ใช้กลยุทธ์อะไร ? ถึงมีรายได้หลักพันล้าน 🤔 

 

1. No Brand : สร้างแบรนด์ไม่มีโลโก้ ไม่ค่อยโปรโมทหรือทำโฆษณา แต่หันไปโฟกัสที่คุณภาพของโปรดักต์แทน ตรงนี้แหละที่ทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นในแบรนด์ จนมียอดขายจากทั่วโลกกว่า 110,000 ล้านบาท!
   
   
2. Brand Identity : Muji เป็นแบรนด์ที่มีความชัดเจนมาก ชนิดที่ว่าเมื่อไหร่ที่เราเห็นเฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้า ดีไซน์เรียบ ๆ สีเอิร์ธโทน ก็จะเหมาเรียกว่า ‘สไตล์ Muji’ แบบอัตโนมัติ ขนาดการแต่งบ้านก็ยังถูกเรียกว่าเป็นสไตล์ Muji เลย เพราะด้วยสาเหตุพวกนี้แหละ ที่สร้างคาแรกเตอร์ให้แบรนด์มาตั้งแต่แรก จนคนจำมาตลอดและกลายเป็นภาพจำมาถึงทุกวันนี้
   
   
3. Customer Experience : การตกแต่งไวบ์ในร้านเค้าดูเรียบง่ายสบายตา ที่สำคัญไม่ Hard Sale เลย ทำให้หลาย ๆ คน เข้าร้านนี้ทีไร เดินเพลินจนลืมเวลาทุกที ทำให้ดึงดูดลูกค้าอยู่ตลอด
   
   
4. Sustainable Marketing : Muji หันมาใช้วัสดุธรรมชาติในการผลิตสินค้ามากขึ้น อย่างเส้นใยกัญชงที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ แล้วในร้านเค้ายังมีจุดรีฟิลพวกสกินแคร์ น้ำยาต่าง ๆ ด้วย  นี่ทำให้เห็นว่าเค้าใส่ใจเรื่อง Sustain จริง ๆ
   
   
5. ขายเกือบทุกอย่าง : เค้ามีตั้งแต่ขนม เสื้อผ้า เฟอร์นิเจอ ไปจนเครื่องใช้ไฟฟ้า บางสาขามีเบเกอรี กับข้าวกล่องด้วยนะ เรียกว่ามีครบจบในที่เดียวเลย
   
   

 

---

คาเฟ่ Muji ใช้กาแฟเมล็ดไทย ☕

 

หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า Muji มีคาเฟ่เป็นของตัวเองด้วย ซึ่งเมนูก็มีทั้งชา กาแฟ และขนมหวาน มีที่นั่งให้อ่านหนังสือ / ทำงานได้ แล้วเค้ายังใช้กาแฟแบรนด์ไทยแท้ ๆ อย่าง ‘ดอยตุง’ ที่มาจากเชียงรายด้วย ถึงมูจิจะเป็นแบรนด์จากตปท. แต่เค้าก็ยังนึกถึงสินค้าในไทยเหมือนกัน ตรงนี้เราว่าดีมาก ๆ และตอนนี้คาเฟ่มี 17 สาขานะ ลองไปนั่งกันได้ นอกจากนี้เค้ายังมีโรงแรมด้วยนะ แต่น่าเสียดายที่ ไม่มีสาขาที่ไทย ไม่งั้นคนไทยน่าจะได้ไปลองพักกัน

 

Muji คาเฟ่ สาขาสามย่านมิตรทาวน์

 

---

 

ใครจะไปคิดว่าแบรนด์ที่เน้นขายสินค้าแบบเรียบง่าย ไม่โปรโมทอยู่แบบเงียบ ๆ ไม่มีโลโก้บนสินค้าด้วยซ้ำ แต่กลับเป็นความเงียบที่ดังที่สุด เพราะทุกคนรู้จักแบรนด์นี้ และเป็นแบรนด์ที่แมสไปทั่วโลก และส่วนตัวใช้สินค้าของเค้าหลายอย่าง ชอบในคุณภาพที่สุด ยิ่งสมุดและปากกานี่คือเดอะเบส กระดาษสีสบายตา ปากกาก็เขียนลื่นมาก เป็น 1 ในของที่ใช้บ่อยมาก ทีนี้ถามทุกคนบ้างดีกว่า มีไอเทมไหนใน Muji ที่เลิฟสุด ๆ บ้าง ?

 

---

📌อ้างอิงข้อมูล : https://ppro.pro/4kVkztO /https://ppro.pro/4o42VXx /https://ppro.pro/4malkjL /https://ppro.pro/4mcN2MX /https://ppro.pro/3J10iFW