10 สัญลักษณ์ประจำเทศกาลคริสต์มาส นอกจากแม่มารายห์ ยังมีอะไรอีก !

avatar writer
โดย : imnat
avatar writer24 ธ.ค. 2564 avatar writer2.2 K
10 สัญลักษณ์ประจำเทศกาลคริสต์มาส นอกจากแม่มารายห์ ยังมีอะไรอีก !

 

เข้าสู่ช่วงปลายปีแบบนี้ อากาศหนาว ๆ ลมเย็น ๆ นอกจากจะเป็นการเดินทางเข้าสู่เทศกาลปีใหม่กันแล้ว ยังมีอีกหนึ่งเทศกาลที่ถึงแม้ว่าจะดูเหมือนไม่สำคัญอะไรกับคนไทย แต่คนไทยไม่ใช่น้อยเลยนะที่อินและมองว่า เทศกาลวันคริสต์มาส  เป็นเทศกาลแห่งความสุขอีกหนึ่งวันที่พวกเค้าต่างเฝ้ารอ

 


 

 

| ของดีวันคริสต์มาส ไม่ได้มีแค่ " แม่มารายห์ "

แต่ยัง " มีดี " อีกหลายอย่าง ! 

 

จริงอยู่ที่เพลง All I Want for Christmas Is You ของแม่มารายห์ จะกลายเป็นสัญลักษณ์ของวันคริสต์มาสไปแล้วโดยปริยาย แต่ถ้าเราไม่นับแม่มารายห์ ยังมีอะไรอีกนะ ที่เมื่อเอ่ยถึง เชื่อว่าภาพในหัวของทุกคนก็คงจะหนีไม่พ้นเทศกาลนี้ 🤔 

 

 

🎄 วันคริสต์มาส ก็ต้องมี " ต้นคริสต์มาส "

 

จริง ๆ แล้วที่มาที่ไปของสัญลักษณ์ต่าง ๆ มีข้อมูลอยู่เยอะมาก อย่างต้นคริสต์มาสนี้เองก็เช่นกัน ย้อนกลับไปในสมัยอียิปต์โบราณ ต้นคริสต์มาสเคยเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ในช่วงหน้าหนาวกันมาก่อน เพราะในช่วงหน้าหนาวนี้ ต้นไม้ส่วนใหญ่ก็มักจะล้มตาย ไม่ผลิดอกออกใบ เขียวสดใสเหมือนที่พวกเราเข้าใจกันอยู่แล้ว แต่ทว่ามีอยู่ต้นหนึ่งที่ถึงแม้ว่าจะเป็นหน้าหนาวก็จริง แต่ก็ยังคงให้สีสันสดใสตลอดเวลา จนกลายเป็นตัวแทนของความมีชีวิตชีวาและความศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา

 

 

ขอขยายความคำว่า " ศักดิ์สิทธิ์ " กันนิดนึง ด้วยความที่ต้นคริสต์มาสสามารถเติบโตได้ดีแม้ว่าจะเป็นในช่วงที่มีอากาศหนาว รวมไปถึงหิมะตก คนเลยยกย่องและให้ชื่อเรียกมันว่า ต้นไม้สวรรค์ คือเหมือนเป็นอภินิหาร จนทำให้คนบางกลุ่มลามไปจนถึงขั้นนำกิ่งของมันไปแขวนไว้ตามประตู และหน้าต่างของบ้าน เพราะเชื่อกันว่าจะสามารถขับไล่ภูติผีปีศาจ โรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ  อะไรเทือกนั้นได้ ซึ่งนี่ไม่ใช่แค่ความเชื่อของคนแค่กลุ่มเดียวนะ แต่ความเชื่อนี้ยังถูกปลูกฝังในหลาย ๆ ประเทศเลยด้วยซ้ำ

 

และเพราะความพิเศษของต้นไม้ชนิดนี้

เลยทำให้ต้นคริสต์มาสกลายเป็น "สัญลักษณ์ของฤดูหนาว"

และเทศกาลวันคริสต์มาสขึ้นมาทันที

 

 

🎄  " มิสเซิลโท " ตัวแทนของความโรแมนติกในช่วงเทศกาลคริสต์มาส

 

ขอยกตัวอย่างฉากนี้มาประกอบมันซะเลย เชื่อว่าแฟน ๆ Harry Potter ส่วนใหญ่น่าจะจำกันได้ เพราะฉากนี้เป็นฉากที่แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับโช แชง จูบกันเป็นครั้งแรก ใต้ช่อมิสเซิลโทภายในห้องต้องประสงค์ ซึ่งเจ้าช่อมิสเซิลโทนี้เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับวันคริสต์มาส ที่งานนี้เหล่าคนโสดที่ไม่สนใจความรักทั้งหลายอาจจะต้องยอมหลีกทางให้คนมีคู่เค้าไปก่อนนะ เพราะเจ้าช่อมิสเซิลโทนี้เกิดมาเพื่อคนที่กำลังมีความรัก และต้องการความรักเลยจ้า

 

 

ขอพูดถึงลักษณะของเจ้ามิสเซิลโทกันสักหน่อย เผื่อมีใครที่นึกภาพตามไม่ออก จุดเด่นของมิสเซิลโทจะอยู่ที่ " ใบ " ที่เป็นแฉกแหลมมีสีเขียวมาพร้อมกับผลสีแดง ถือว่าเป็นพืชอีกชนิดนึงที่เติบโตได้ดีในช่วงหน้าหนาว ซึ่งเมื่อก่อนเชื่อกันว่า มิสเซิลโท เป็นพืชที่มีความศักดิ์สิทธิ์ โดยผู้ที่จะตัดมันได้จะต้องเป็น ครูอิด (ผู้นำทางศาสนา) ที่จะต้องใช้เคียวสีทองในการตัดมันเท่านั้น

 

โดยความหมายของพืชชนิดนี้หมายถึง ความสงบ สันติภาพ เลยมักจะถูกนำมาตกแต่งที่ประตูหน้าบ้าน รวมถึงต้นคริสต์มาสเพื่อสื่อถึงความเป็นมิตร การปกป้องทุกคนที่เข้ามา กันสิ่งชั่วร้ายให้ออกไป หรืออีกนัยยะนึงก็จะหมายถึงความโรแมนติกด้วยเช่นกัน เชื่อกันว่าคู่รัก (ไม่ต้องถึงขั้นแต่งงาน เป็นแค่คนคุยเฉย ๆ ก็ได้) ที่ได้จูบกันใต้ช่อมิสเซิลโท จะนำพามาซึ่งความรักนิรันดร์ แต่ก็ไม่มีอะไรมาการันตีได้นะ เพราะขนาดแฮร์รี่ กับโช แชง สุดท้ายแล้วก็ยังไม่ได้ลงเอยกันเลย แหะ ๆ  😅 

 

 

🎄  " Christmas Crackers " ลูกกวาดขนาดใหญ่ สีสันในช่วงคริสต์มาสดินเนอร์

 

อันนี้คนไทยอาจจะไม่คุ้นกันสักเท่าไหร่ เพราะมันจะเกิดขึ้นในช่วงมื้ออาหารเย็นในคืนวันคริสต์มาสเท่านั้น (ซึ่งปกติในบ้านเราก็ไม่มีกันอยู่แล้ว) แต่ทางเราเห็นว่ามันน่าสนใจดี เลยขอหยิบมาพูดถึงกันสักนิดสักหน่อยก็แล้วกัน

 

จริง ๆ แล้ว Christmas Crackers เป็นเหมือนสีสันเล็ก ๆ ที่มีไว้เพื่อแกล้งกันเท่านั้น โดยมันจะมีลักษณะเหมือนห่อลูกกวาดขนาดใหญ่ เอาดี ๆ รูปร่างแอบคล้ายพลุ หรือประทัดอะไรทำนองนั้นอยู่เหมือนกัน 🤣  ซึ่งไฮไลต์ของมันจะอยู่ที่เวลาดึง ที่พอดึงปุ๊บจะมีเสียงดัง ปัง ! ออกมา ส่วนของที่อยู่ด้านในก็จะเป็นพวกของขวัญ, คำคม ซึ่งก็มีทั้งเวอร์ชั่นที่จริงจังไปเลย กับเวอร์ชั่นที่ฮา ๆ เลยก็มี

 

ไม่รู้ว่ามีคนคุ้นกับรูปร่างหน้าตาของมันเหมือนกับเรากันไหม ว่ามันมีลักษณะเหมือน Bon Bon ขนมช็อคโกแลตอยู่เหมือนกัน ซึ่งจะบอกว่าจริง ๆ แล้วต้นกำเนิดของเจ้า Christmas Crackers นี้ได้ไอเดียมาจากขนม Bon Bon นั่นแหละ เพราะฉะนั้นใครที่รู้สึกคุ้น ๆ เหมือนกัน คุณได้คิดถูกแล้ว

 

 

🎄  " Plum Pudding " ขนม (?) ของดีวันคริสต์มาส

 

เห็นหน้าตาพี่เป็นแบบนี้ แต่จริง ๆ พี่นี่ของดีวันคริสต์มาสเชียวนะ !  Plum Pudding หรือ Christmas Pudding ก้อนนี้เป็นของกินที่ได้รับความนิยมมาก ๆ ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส โดยมันทำมาจากเนื้อลูกวัวที่นำมาตุ๋นกับผลไม้แห้ง (พลัม) , เครื่องเทศ, น้ำตาล, น้ำมะนาว และเหล้าองุ่น ผสมผสานกันจนกลายเป็นพุดดิ้ง ที่เนื้ออาจจะไม่ใสไม่เด้งเหมือนพุดดิ้งที่พวกเรารู้จักกัน เห็นแบบนี้ แต่เมนูนี้เค้าได้รับความนิยมมาตั้งแต่ยุคกลางได้แล้วนะ โดยเฉพาะในประเทศอังกฤษ และไอร์แลนด์ รวมถึงในบางประเทศที่มีชาวอังกฤษกับไอริชอาศัยอยู่

 

และถึงแม้เวลาจะผ่านไปนาน แต่เมนูนี้ก็ยังคงถูกนำมาเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลนี้กันอยู่ นี่ก็แอบอยากลองชิมดูเหมือนกันว่ารสชาติของเค้าจะเป็นยังไง เราถึงใส่ ? หลังคำว่าขนมไว้ในหัวข้อ เพราะจินตนาการรสชาติไม่ออกจริง ๆ ว่าพี่เค้าจะคาว หรือจะหวานกันแน่ 😅 

 

 

🎄  คริสต์มาสที่ไม่มีการแขวนถุงเท้า " นั้นไม่ใช่ " วันคริสต์มาสอีกต่อไป

 

เรียกได้ว่าเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่แม้แต่คนไทยอย่างเราก็รู้จัก  โดยการแขวนถุงเท้าไว้ที่หน้าเตาผิงหรือต้นคริสต์มาสที่ว่านี้ มักจะทำกันในวันคริสต์มาสอีฟ หรือก่อนวันคริสต์มาส 1 วัน เชื่อกันว่าซานต้าจะนำเอาของขวัญมาใส่ไว้ในถุงเท้าของเราตอนกลางคืน ซึ่งจริง ๆ แล้วที่มา-ที่ไปของการแขวนถุงเท้าไว้ที่หน้าเตาผิงแบบนี้ ว่ากันว่ามาจากชายหม้ายคนหนึ่งที่กำลังตกอยู่ในความทุกข์ที่ไม่สามารถเลี้ยงดูลูกสาวทั้ง 3 คนของตนเองให้มีความสุขได้ นักบุญเซนต์นิโคลัส (หรือซานตาครอสคนแรก) เกิดไปได้ยินข่าวเกี่ยวกับความทุกข์ยากของครอบครัวนี้เลยแอบนำเหรียญทองจำนวนหนึ่งไปใส่ในถุงน่องของลูกสาวที่ถูกตากไว้อยู่ที่หน้าเตาผิงเพื่อเป็นการช่วยเหลือ

 

หรือบางตำนานก็ว่า จุดเริ่มต้นของการแขวนถุงเท้านั้นมาจากการที่คนนำเอาหญ้าแห้งไปใส่ไว้ในถุงเท้า เพื่อที่ว่าเมื่อไหร่ที่นักบุญนิโคลัสผ่านมา เค้าจะได้นำหญ้าแห้งไปเป็นอาหารให้ลา โดยนักบุญนิโคลัสจะทำการแลกเปลี่ยนหญ้าแห้งกับเหรียญเงินที่ถูกยัดใส่ในถุงเท้าเป็นการตอบแทน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วจุดเริ่มต้นของการแขวนถุงเท้านี้มาจากอะไรกันแน่ แต่การแขวนถุงเท้าก็ได้กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ไม่ใช่เฉพาะเด็กอย่างเดียว แต่ผู้ใหญ่อย่างเราก็ชอบมากเช่นเดียวกัน

 

 

🎄  นอกจากของขวัญแล้ว วันคริสต์มาสก็ต้องมาคู่กันกับ " คำอวยพร "

 

ปกติแล้วเวลามอบของขวัญในช่วงเทศกาลนี้ มักจะมาคู่กันกับ " การ์ดอวยพร " ซึ่งมักจะเป็นคำอวยพรจากคนในครอบครัว เพื่อนฝูง และญาติพี่น้องทั้งหลายของเรา ฟีลเดียวกับ ส.ค.ส. ปีใหม่บ้านเรานั่นแหละ แล้วเห็นแบบนี้แต่การ์ดอวยพรของเค้าก็มีที่มาที่ไปเหมือนกันนะ เริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ. 1843 เซอร์เฮนรี โคล ข้าราชการและนักประดิษฐ์ชาวอังกฤษท่านหนึ่งตัดสินใจจะส่งคำอวยพรให้กับบรรดาเพื่อน ๆ ของเค้า แต่เค้าไม่ต้องการจะนั่งหลังขดหลังแข็งเขียนจดหมายทีละฉบับ เลยตัดสินใจส่งคำทักทายและอวยพรผ่านนิตยสาร Smithsonian

 

ซึ่งเค้าเองก็ได้ออกแบบการ์ดอวยพรจำนวน 1,000 ใบ ที่มีข้อความอวยพรว่า " A Merry Christmas and A Happy New Year To You " พร้อมพื้นที่ในการเขียนข้อความลงไปบางส่วน ออกวางจำหน่าย ซึ่งนี่ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการ์ดอวยพรคริสต์มาสและปีใหม่ ผ่านการสร้างสรรค์โดยเฮนรี โคลนั่นเอง

 

 

🎄  การเฉลิมฉลองเทศกาลด้วยการร้องเพลง

 

เพลงของแม่มารายห์ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสีสันของวันคริสต์มาสเช่นเดียวกันกับเพลงอื่น ๆ ที่ได้รับความนิยม อาทิ Last Christmas, Jingle Bell Rock, A Holly Jolly Christmas และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ถือว่าเป็นการส่งมอบความสุขให้กับผู้คน โดยธรรมเนียมปฏิบัติก็จะเป็นการรวมกลุ่มของนักร้องประสานเสียง (ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่คือได้หมด) แล้วทำการเคาะประตูไปตามบ้าน เมื่อเจ้าของบ้านเปิดประตูออก กลุ่มนักร้องประสานเสียงก็จะทำการร้องเพลงเพื่อเป็นการ อวยพร ให้กับคนในบ้านนั้น ๆ โดยสิ่งที่พวกเค้าจะได้รับตอบแทนนอกจากคำขอบคุณแล้ว ก็จะเป็นบรรดาขนม, อาหาร รวมถึงของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อเป็นการตอบแทนนั่นเอง

 

 

🎄  สีของวันคริสต์มาส ทำไมต้องเขียว - แดง ?

 

ไม่รู้ว่ามีใครเคยสงสัยกันไหม ว่าทำไมเทศกาลคริสต์มาสตีมหลักถึงต้องเป็นสีเขียว แดง ง่าย ๆ เลยก็คือ ทั้งสองสีนี้เป็นตัวแทนของสัญลักษณ์ของวันคริสต์มาสที่สำคัญ ซึ่งประกอบไปด้วย

  • สีเขียว - ตัวแทนของ ความอุดมสมบูรณ์ ที่มาจากสีของต้นคริสต์มาส ต้นไม้ที่สามารถเติบโตได้ดีในช่วงฤดูหนาว
  • สีแดง - แทนสีของ เลือดพระเยซู ที่หลั่งออกมาระหว่างการถูกตรึงกางเขน

 

ดังนั้นทั้งหมดทั้งมวลเลยเป็น ที่มาของสีเขียวแดง  ประจำเทศกาลคริสต์มาส ที่ถ่ายทอดออกมาให้เห็นทั้งในแง่ของความอุดมสมบูรณ์ รวมถึงการอุทิศตนของพระเยซูที่แสดงออกถึงความบริสุทธิ์นั่นเอง

 

 

🎄  นอนดูหนังเพลิน ๆ กิจกรรมยอดฮิตในช่วงวันคริสต์มาส !

 

ก็อย่างที่ย้ำนักย้ำหนาว่าคริสต์มาสถือว่าเป็นเทศกาลแห่งความสุขที่คนส่วนใหญ่จะใช้เวลาอยู่กับครอบครัวและคนที่เรารัก ซึ่งนอกจากการเฉลิมฉลองด้วยการมอบของขวัญ และคำอวยพรกันแล้ว กิจกรรมความบันเทิงที่มักจะได้รับความนิยมก็ได้แก่ การนอนดูหนัง ดูรายการโทรทัศน์  ในช่วงเทศกาลแห่งความสุขนี้

 

และอย่างที่ทุกคนพอจะรู้กันดีว่าเดี๋ยวนี้มีหนัง รวมถึงซีรีส์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับคริสต์มาสให้เลือกดูกันเพียบ อย่างสถานีโทรทัศน์บางสถานีก็งดการทำรายการถ่ายทอดสด แต่หยิบเอาโปรแกรมหนังสนุก ๆ มาเปิดให้ดูตลอดทั้งวันเลยก็มี  หากใครที่ไม่รู้ว่าจะดูอะไรดี เราเคยป้ายยาไปแล้ว ไปส่องต่อที่นี่ได้เลยจ้า รวม 10 หนัง & ซีรีส์ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ "ของขวัญ"

 

 

🎄  รับบทเป็นกวางเรนเดียร์ผ่านเกม Rudolph Race

 

จริง ๆ แล้วกิจกรรมประเภทเกมที่ได้รับความนิยมในช่วงเทศกาลนี้มีให้เลือกเล่นกันเพียบ แต่เกมที่ทางเราคิดว่าน่าจะเห็นภาพ และน่าเอ็นดูที่สุดคงจะหนีไม่พ้นเกม Rudolph Race ที่จะให้เรารับบทเป็นกวางเรนเดียร์ ด้วยการนำจมูกไปแตะปอมปอมสีแดง (เหมือนจมูกของรูดอล์ฟ กวางเรนเดียร์ของซานต้า) แล้วนำมันออกมาจากถ้วยให้ได้มากที่สุด เกมนี้ก็คือต้องเล่นกับคนอื่นนะ เล่นคนเดียวมีหงอยแน่นอน สำหรับใครที่อยากดูวิธีการเล่นประกอบเพื่อความเข้าใจมากขึ้น สามารถตามไปดูได้ที่ > คลิก

 


 

 

สำหรับบางข้อในบ้านเราอาจจะไม่อินกัน เมื่อเทียบกับในต่างประเทศ แต่เราเชื่อว่าคนส่วนใหญ่นั้นมีภาพจำของเทศกาลคริสต์มาสเหมือน ๆ กัน นั่นก็คือ ภาพบรรยากาศของเทศกาลแห่งความสุขที่เชื่อมต่อไปยังวันปีใหม่  มีการมอบของขวัญ คำอวยพร การละเล่นต่าง ๆ พร้อมกับอีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือบรรดาเพลงยอดฮิตในช่วงเทศกาลคริสต์มาสทั้งหลาย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็ได้แก่เพลง All I Want for Christmas Is You เจ้าเดิม ที่กลับมาท็อปฟอร์มตามชาร์ตเพลงต่าง ๆ ได้อีกครั้ง ! สำหรับใครที่อยากฟังกันให้หายคิดถึง หรือบิวท์ตัวเองในวันคริสต์มาสนี้ ก็อย่าลืมไปปั่นวิวให้แม่กันนะ อิอิ

 

 

🎉 แหล่งข้อมูลอ้างอิง  : history.com, countryfile.com, southernliving.comwikipedia.org, nationaltrust.org.uk และ insider.com

  • avatar writer
    โดย imnat
    เสพติดการอ่าน & ดูหนัง ตอนนี้อยู่ในระหว่างการทำตามความฝันให้สำเร็จ :)
แสดงความคิดเห็น