เทคนิคการคิดโปรโมชั่น หยุดลูกค้าให้ซื้อ สร้างยอดขายพุ่งกระฉูด !

avatar writer
โดย : waranggg
avatar writer10 มี.ค. 2566 avatar writer7.2 K
เทคนิคการคิดโปรโมชั่น หยุดลูกค้าให้ซื้อ สร้างยอดขายพุ่งกระฉูด !

 

"ลด แลก แจก แถม"

โปรโมชั่นไหน ถึงจะโดนใจ และดึงดูดลูกค้ามากที่สุด ?


พ่อค้าแม่ค้าหลายคนคงจะเกิดคำถามนี้ขึ้นอยู่ในหัวบ่อยๆ เพราะลูกค้าแทบจะทุกคนชอบซื้อสินค้าที่มีโปรโมชั่น เพราะให้ความรู้สึกที่คุ้มค่ากว่า แต่ในมุมมองของพ่อค้าแม่ค้าก็ต้องการทำโปรโมชั่น แต่ก็ยังอยากขายของได้ในระยะยาวด้วย แล้วการทำโปรโมชั่นแบบไหนถึงจะช่วยกระตุ้นยอดขาย สร้างความตื่นเต้นให้ลูกค้า และยังทำให้ร้านค้าสามารถขายของได้ในระยะยาว ปันโปรรวมทริคมาให้แล้ว~ 

 


5 หลักเริ่มต้นในการคิดโปรโมชั่น เพื่อเพิ่มยอดขายให้พุ่งกระฉูด


 

การคิดโปรโมชั่น-2

 

🛒 1. ตั้งเป้าหมายในการทำโปรโมชั่น 

 

ก่อนที่จะคิดโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้า ก่อนอื่นต้องตั้งเป้าหมายก่อนว่า การทำโปรโมชั่นครั้งนี้เรามีจุดประสงค์เพื่ออะไร เช่น ต้องการกระตุ้นยอดขาย, ดึงดูดลูกค้าใหม่, การตอบแทนลูกค้าเดิม เป็นต้น เมื่อเรารู้เป้าหมายที่ชัดเจน จะทำให้เราทำโปรโมชั่นได้อย่างเหมาะสมและยังมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

 


 

🛒 2. กำหนดงบประมาณที่จ่ายไหว 

 

ในการจัดทำโปรโมชั่นแต่ละครั้ง ขอให้ทำใจไว้เลยว่า อาจจะมีการเข้าเนื้อตัวเองเล็กน้อย การกำหนดงบประมาณที่จะทำโปรโมชั่นจึงมีความสำคัญ เพราะจะช่วยให้เราเลือกทำโปรโมชั่นได้ตามงบประมาณที่เราไหว และ อย่าลืมตั้งงบประมาณให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของการทำโปรโมชั่นที่ตั้งไว้ด้วย

 

การคิดโปรโมชั่น-4

 

สำหรับการตั้งงบประมาณในการทำโปรโมชั่นต่างๆ ควรคำนึงถึงเรื่องต่อไปนี้ 

 

  • ต้นทุนของการทำโปรโมชั่น เช่น การทำส่วนลดสินค้า, การทำของแถมเพื่อตอบแทนลูกค้า, ต้นทุนค่าส่งของ กรณีทำโปรโมชั่นส่งฟรี เป็นต้น 
  • ค่าใช้จ่ายในการประชาสัมพันธ์โปรโมชั่น เช่น การลงโฆษณาหรือค่าบูสต์โฆษณาในโซเชียลมีเดียช่องทางต่างๆ 
  • ผลตอบแทนจากการทำโปรโมชั่นที่พอจะเป็นไปได้ เช่น ยอดขายหรือการมีส่วนร่วมของลูกค้า

 

ถ้าหากว่า มีงบประมาณน้อย  อาจจะเลือกเป็นการเสนอมอบของสมนาคุณเล็กๆ น้อยๆ หรือมอบส่วนลดสำหรับไว้ใช้ภายหลังเพื่อเป็นการตอบแทนลูกค้าแทนได้ แต่ถ้าหาก มีงบในกระเป๋าเยอะ อาจจะเลือกใช้เป็นโปรโมชั่นที่มีความครอบคลุมมากขึ้น เช่น การจัดดีลซื้อ 1 แถม 1 เป็นต้น 

 

สิ่งสำคัญ อย่าลืมว่าการตั้งงบประมาณควรคิดครอบคลุมไปถึงค่าใช้จ่ายในการประชาสัมพันธ์ให้ลูกค้ารับรู้ด้วย เช่น การทำสื่อประชาสัมพันธ์หน้าร้าน, การลงโฆษณาผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ เป็นต้น  

 


 

🛒 3. การเลือกประเภทโปรโมชั่น 

 

เมื่อกำหนดงบประมาณในใจได้แล้ว ขั้นตอนถัดมา คือ การเลือกใช้ประเภทโปรโมชั่นที่ต้องการ ในปัจจุบันก็มีโปรโมชั่นหลากหลายมากๆ และถ้าหากว่าเราตั้งเป้าหมายในการทำโปรโมชั่นที่ชัดเจน ก็จะยิ่งช่วยให้เราสามารถเลือกประเภทของโปรโมชั่นที่เหมาะสมและช่วยกระตุ้นยอดขาย เพิ่มฐานลูกค้าใหม่ได้มากขึ้น 

 

การคิดโปรโมชั่น-5

 

ประเภทของการทำโปรโมชั่น 

 

  • ซื้อ 1 แถม 1 : เป็นโปรโมชั่นที่ลูกค้าจะได้รับของแถม ของสมนาคุณ หรือบริการอื่นๆ เพิ่ม เมื่อมีการซื้อสินค้าหรือบริการเกิดขึ้น อาจจะได้ของแถมเป็นสินค้าหรือบริการแบบเดียวกัน ราคาเท่ากันหรือน้อยกว่าก็ได้  แต่ทั้งนี้ อย่าลืมแจ้งรายละเอียดโปรโมชันที่ชัดเจนกับลูกค้าเสมอว่าของแถมที่จะได้รับคืออะไร และแนะนำให้ทำโปรโมชั่นนี้นานๆ ครั้ง ไม่ควรทำบ่อยจนเกินไป เพราะอาจส่งผลกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้ 

  • คูปอง : การมอบคูปองส่วนลดให้กับลูกค้า อาจจะเป็นคูปองส่วนลดแบบเป็นใบๆ หรือคูปองส่วนลดออนไลน์ ในการแจกคูปองอาจจะมีการกำหนดเงื่อนไขเพื่อให้ลูกค้าได้รับคูปองส่วนลด เช่น ซื้อครบตามเงื่อนไข จึงจะได้คูปองส่วนลด 10% เป็นต้น

  • การจัดกิจกรรมให้ร่วมสนุก :  นับเป็นการจัดโปรโมชั่นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นยอดขายให้กับแบรนด์ได้ เช่น การจัดกิจกรรมชิงโชคที่ต้องมีการซื้อสินค้าหรือบริการก่อนจึงจะได้รับสิทธิ์ลุ้นรางวัล เป็นต้น คีย์สำคัญของการทำโปรโมชั่นนี้ คือ ของรางวัลอาจจะต้องมีมูลค่าสูง เพื่อดึงดูดให้ลูกค้ามาร่วมสนุก ตัวอย่างของรางวัล เช่น รถยนต์, ตั๋วเครื่องบิน, iPhone เป็นต้น

  • การแจกสินค้าทดลอง : โปรโมชั่นแจกผลิตภัณฑ์หรือให้ทดลองใช้บริการฟรี เหมาะมากสำหรับแบรนด์หรือร้านค้าที่ต้องการเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ หรือต้องการให้สินค้าเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น 

 

การคิดโปรโมชั่น-3

ตัวอย่างการทำโปรโมชั่นจับเซ็ตสินค้า

 

  • การจับเซ็ตสุดคุ้ม : โปรโมชั่นนี้คือจับคู่สินค้าหรือบริการ 2 อย่างขึ้นไป แล้วนำมาเสนอขายในราคาที่ คุ้มมากกว่าการซื้อสินค้า 2 ชิ้นในราคาปกติ  เช่น การจับเซ็ตสินค้าขายดีของแบรนด์มาขายคู่กัน, การจับเซ็ตสินค้า 2 ขนาดมาขายเป็นเซ็ต, การนำสินค้าขายดีและสินค้าที่ยอดขายน้อยมาขายในเซ็ตเดียวกัน เพื่อกระตุ้นยอดขายของสินค้าที่ยอดขายน้อยกว่าให้มากขึ้น เป็นต้น

  • การทำ Flash Sale : การขายสินค้าหรือบริการราคาพิเศษในช่วงเวลาที่จำกัด ซึ่งเวลาที่มีจำกัดจะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดการตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้น เช่น การทำ Flash Sale ใน Shopee, Lazada เป็นต้น

  • เพื่อนชวนเพื่อน : การมอบข้อเสนอให้กับลูกค้าเก่าที่แนะนำลูกค้าให้มาใช้สินค้าหรือบริการ และมอบส่วนลดพิเศษให้เป็นการตอบแทน 

  • การทำระบบสมาชิก (Loyalty Program) : การทำระบบสมาชิกหรือการทำบัตรสะสมแต้ม วิธีนี้จะช่วยทำให้ลูกค้าขาจรหรือลูกค้าหน้าใหม่ กลายมาเป็นลูกค้าประจำได้ และยังได้รักษาฐานลูกค้าเก่าๆ ได้อีกด้วย 

 


 

🛒 4. การตั้งเงื่อนไขโปรโมชั่น

 

การคิดโปรโมชั่น-1

 

สิ่งที่สำคัญที่สุดอีกอย่างหนึ่งในการจัดทำโปรโมชั่น คือ การตั้งกฏหรือเงื่อนไขของโปรโมชั่นจะต้องชัดเจน และมั่นใจว่าโปรโมชั่นส่งเสริมการขายนั้นเป็นไปอย่างโปร่งใสและถูกต้อง เป็นไปตามกฏหมายและมาตรฐานของการทำโฆษณา นอกจากนี้การตั้งรายละเอียดโปรโมชั่นยังเป็นการช่วยหลีกเลี่ยงและป้องกันการเกิดความสับสนและการเข้าใจผิดได้อีกด้วย

 

วิธีการตั้งเงื่อนไขและรายละเอียดโปรโมชั่น 

 

  • ระบุผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมโปรโมชั่น เช่น ลูกค้าที่ซื้อสินค้าในช่วงเวลาที่กำหนด, สาขาที่เข้าร่วมโปรโมชั่น, สินค้าที่เข้าร่วมโปรโมชั่น เป็นต้น 
  • กำหนดวันเริ่มต้นและวันสิ้นสุดโปรโมชั่นอย่างชัดเจน 
  • ระบุเงื่อนไขของโปรโมชั่นให้ชัดเจน เช่น สินค้ามีจำนวนจำกัด, จำกัดการซื้อสินค้า 2 ชิ้น ต่อ 1 ท่าน เป็นต้น 
  • ระบุวิธีการมีส่วนร่วมกับโปรโมชั่น เช่น วิธีการใช้คูปอง, การกรอกแบบฟอร์มก่อนเพื่อเข้าร่วมโปรโมชั่น เป็นต้น 
  • การระบุขั้นตอนการคัดเลือกผู้ชนะรางวัล ในกรณีที่จัดทำโปรโมชั่นร่วมสนุกชิงโชค ควรระบุกติกาการคัดเลือกผู้โชคดีอย่างชัดเจน รวมไปถึงวัน-เวลาและสถานที่ในการประกาศผลรางวัลอย่างละเอียดด้วย 

 


 

🛒  5. การวัดผล หรือประเมินผลการทำโปรโมชั่น 

 

การคิดโปรโมชั่น-6

 

เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการทำโปรโมชั่นแล้ว สิ่งสุดท้ายที่ต้องทำ คือ การวัดผลหรือการประเมินว่า โปรโมชั่นที่ทำไปนั้นประสบความสำเร็จหรือไม่  สำหรับใช้เป็นแนวทางในการทำโปรโมชั่นครั้งถัดไปนั่นเอง โดยสามารถวัดผลได้จากปัจจัยต่อไปนี้ เช่น 

 

  • ยอดขาย : สำหรับการติดตามยอดขายสามารถทำได้ระหว่างการทำโปรโมชั่นได้เลย ไม่จำเป็นต้องรอหลังจบโปรโมชั่น ก็ได้ และยอดขายนี่แหละคือสิ่งที่ดูง่ายที่สุดว่าโปรโมชั่นที่ทำประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่

  • การมีส่วนร่วมบนโซเชียลมีเดีย : การวัดผลผ่านโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะ การกดไลก์ กดแชร์ การคอมเมนต์  หรือแม้กระทั่งจำนวนการเข้าชมเว็บไซต์จะสามารถช่วยวัดได้ว่าการประชาสัมพันธ์โปรโมชั่นผ่านช่องทางออนไลน์ของเราได้ผลหรือไม่ โปรโมชั่นสามารถสร้างกระแสได้มากน้อยแค่ไหน 

  • จำนวนผู้ใช้คูปองหรือโค้ดส่วนลด : หากใช้การแจกคูปองหรือโค้ดส่วนลด จำนวนของผู้ใช้คูปองและโค้ดส่วนลด จะสามารถบอกเราข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้ใช้ว่า โดนโปรโมชั่นของเราตกให้เสียเงินไปมากน้อยแค่ไหน 

  • ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) : การวิเคราะห์ผลตอบแทนจากการลงทุน สามารถวัดได้ง่ายๆ จากการ เปรียบเทียบต้นทุนของโปรโมชั่นกับรายได้ที่ได้จากการทำโปรโมชั่น  จะช่วยวัดให้เห็นถึงประสิทธิภาพของโปรโมชั่นนั้นๆ ได้

 


 

กาดอกจันเอาไว้

การลดราคาแบบกระหน่ำซัมเมอร์เซล คือ สิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง !

ถ้ายังอยากขายได้ในระยะยาว

 

การคิดโปรโมชั่น-2

 

ถ้าหากพ่อค้าแม่ค้าคนไหน ที่กำลังคิดจะกระตุ้นยอดขายด้วยการลดราคาแรงๆ ลดเหมือนแจกฟรี ขอให้หยุดความคิดนั้นไว้ก่อน เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง ถ้าต้องการให้สินค้ายังขายอยู่ได้ในระยะยาว ! 

 

เหตุผลเพราะ การลดราคาสินค้าแบบเทกระจาดบ่อยครั้ง จะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ และไม่ใช่การกระตุ้นยอดขายที่ดีเท่าที่ควร  แถมยังทำให้เราได้ฐานลูกค้าที่ไม่ได้ดีอย่างลูกค้าที่เป็นนักล่าของถูกหรือนักล่าโปรโมชั่น ไม่ใช่ลูกค้าประจำที่ควรจะเป็นฐานลูกค้าที่แท้จริงของเรา 

 

ยิ่งเลือกใช้โปรโมชั่นลดราคาแรงๆ บ่อยมากเท่าไหร่ ลูกค้าก็ยิ่งหมดความตื่นเต้น และจะรอซื้อแต่ช่วงลดราคา เพราะลูกค้าจะคิดว่ายังไงเดี๋ยวก็มีช่วงลดราคาแบบที่เคยทำมากลับมาให้ได้ซื้ออีก ไม่จำเป็นต้องรีบซื้อก็ได้ นี่จึงเป็นเหตุผลให้มูลค่าสินค้าของเราลดลงและยังเป็นการทำลายภาพลักษณ์ของแบรนด์ไปอีกด้วย 

 

แต่ก็ไม่ใช่ว่าการลดราคาแบบเทกระจาดจะทำไม่ได้เลย ยังสามารถทำได้ แต่ทำนานๆ ครั้งจะส่งผลดีมากกว่า เช่น ต้องการเคลียร์สต็อกสินค้าคอลเลกชันเก่าๆ ที่มีเหลือจำนวนไม่มากแล้ว หรือลดราคามากกว่า 80% สำหรับสินค้าที่ไม่ผ่านมาตรฐานหรือของมีตำหนิ จึงค่อยเลือกใช้วิธีการทำโปรโมชั่นลดราคาสุดโหดจะเหมาะสมกว่านั่นเอง

 


 

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า โปรโมชั่น คือตัวช่วยสร้างความตื่นเต้นและช่วยกระตุ้นยอดขายได้เป็นอย่างดี ถ้าหากรู้ทริคกันแบบนี้แล้ว หวังว่าพ่อค้าแม่ค้า หรือเจ้าของแบรนด์มือใหม่ จะวางแผนการทำโปรโมชั่นกันได้ง่ายขึ้น เพียงตั้งเป้าหมาย งบประมาณในใจให้ชัดเจนก็จะทำให้การทำโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขายของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย  แต่ทั้งนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะอาศัยแค่การทำโปรโมชั่นอย่างเดียวนะ คุณภาพของสินค้าและการบริการ รวมไปถึงกลยุทธ์ต่างๆ ก็สำคัญ และมีผลกับยอดขายและการตัดสินใจซื้อของลูกค้าได้เช่นกันน้า  

 

💖 บทความที่เกี่ยวข้อง 

 

แหล่งอ้างอิงข้อมูล : sogoodweb.com, pnstoretailer.com

แสดงความคิดเห็น
KariKari Prediksi
KariKari Prediksi
เทริมากาซิห์ อินฟอนยา ซิตัส ปุนปุโร อินิ ข้อมูลข่าวสาร สังกัต เบอร์มานฟาต. https://prediksi.store/ https://prediksi.store/prediksi-jeeptoto/ https://prediksi.store/prediksi-togel-psco/
ตอบกลับ | 1 เดือนที่แล้ว 0