เมื่อความสวยงาม มาพร้อมกับราคาที่ต้องจ่าย "PANDORA ของขวัญจากเหล่าเทพ" ที่แลกด้วยความเจ็บปวดของมนุษยชาติ !

avatar writer
โดย : imnat
avatar writer1 พ.ย. 2565 avatar writer1.9 K
เมื่อความสวยงาม มาพร้อมกับราคาที่ต้องจ่าย "PANDORA ของขวัญจากเหล่าเทพ" ที่แลกด้วยความเจ็บปวดของมนุษยชาติ !

 

กว่าที่แบรนด์สินค้าสักแบรนด์จะมีเอกลักษณ์โดดเด่นเป็นที่น่าจดจำ นอกจากสินค้า บริการ รวมไปถึงการทำโปรโมชันส่งเสริมการขายแล้ว "ชื่อแบรนด์" ก็เป็นอีกองค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญมาก ๆ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วเวลาตั้งชื่อแบรนด์ เรามักจะเลือกตั้งชื่อที่มีความน่าสนใจ โดดเด่น มีความหมายดี อีกทั้งชื่อนั้นยังต้องแสดงให้เห็นถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับตัวสินค้า เพื่อให้ง่ายต่อการจดจำได้ยิ่งขึ้น

 

และเมื่อเอ่ยถึง PANDORA (แพนโดร่า) เชื่อว่าหลายคนคงจะรู้จักกับ PANDORA ในฐานะของแบรนด์เครื่องประดับสำหรับผู้หญิง ที่มีชื่อเสียงมาก ๆ ในปัจจุบัน ซึ่งจริง ๆ แล้วที่มาของคำว่า "แพนโดร่า" นี้ มาจากชื่อของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ว่ากันว่าเป็นต้นกำเนิดของเผ่าพันธุ์มนุษย์ ผู้หญิงคนแรกของโลก

 


 

คำนี้มีที่มา PANDORA ของขวัญจากเหล่าเทพ

ที่แลกด้วยความเจ็บปวดของมนุษยชาติ

 

ถ้าเราทำการค้นหาความหมายของคำว่า Pandora เชื่อว่าคำตอบที่ผุดขึ้นมาส่วนใหญ่ คงจะหนีไม่พ้นชื่อของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ปรากฎอยู่ในตำนานกรีกโบราณ โดยหญิงสาวคนนั้นว่ากันว่าเป็นมนุษย์ผู้หญิงคนแรกของโลก ที่ถูกสร้างขึ้นโดยมหาเทพและเทพีผู้ยิ่งใหญ่ที่อาศัยอยู่บนเทือกเขาโอลิมปัส

 

โดยชื่อ Pandora ของหญิงสาวคนนี้ นับว่าเป็นชื่อที่มีความหมายดีมาก ๆ โดย Pandora มีความหมายเท่ากับคำว่า Gift for All หรือของขวัญสำหรับทุกคน ซึ่งสื่อนัยยะถึงขั้นตอนในการสร้างเธอมา และถึงแม้ว่าจุดประสงค์ในการสร้างนั้นจะทำให้เราแอบสงสารต้นกำเนิดเผ่าพันธุ์มนุษย์ผู้หญิงของเราคนนี้กันไปบ้าง แต่ถ้าขาดเธอไป สังคมมนุษย์ที่หลงเหลืออยู่ก็คงจะมีแต่ผู้ชาย อาจจะไม่มีผู้หญิงปรากฎอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์เลยก็เป็นได้

 

Pandora-girl

 

สำหรับจุดเริ่มต้นของแพนโดร่านั้น เกิดมาจากความเคียดแค้นของเทพซูส ราชาแห่งเทพที่มีอำนาจมากที่สุดในโลก ที่ต้องการจะสั่งสอน โพรมีทีอูส ไททันตนหนึ่งที่ได้ทำการขโมยไฟไปจากเทือกเขาโอลิมปัส สถานที่อยู่อาศัยของเหล่าเทพ โดยโพรมีทีอูสได้นำไฟไปมอบให้กับเหล่ามนุษย์ (ที่ตอนนั้นมีแค่เพียงผู้ชาย) สำหรับการใช้เป็นอาวุธในการป้องกันตัวเองจากสัตว์ร้าย สร้างอาณาเขตที่อยู่อาศัย รวมไปถึงการป้องกันตัวเองจากภัยอันตรายต่าง ๆ

 

อีกทั้งบางตำนานยังบอกอีกด้วยว่า โพรมีทีอูส ได้สั่งสอนให้มนุษย์บูชาเทพเจ้าด้วยการมอบกระดูกสัตว์ แทนที่จะเป็นอาหารดี ๆ เทพซูสเลยโกรธมาก เพราะการกระทำแบบนี้ ไม่ต่างอะไรจากการโดนดูถูก เทพซูสเลยต้องการจะสั่งสอนโพรมีทีอูส ที่ได้ทำการลบหลู่เหล่าเทพด้วยการมอบหมายให้ลูกชายของเค้าอย่าง ฮิฟีสตัส หรือเทพแห่งไฟ สร้างมนุษย์ผู้หญิงนางหนึ่งขึ้นมา ก่อนที่จะนำนางไปส่งมอบเป็นของขวัญ (แห่งการแก้แค้น) ให้กับโพรมีทีอูสอีกที

 

แต่การจะลงทุนกับของขวัญชิ้นสำคัญ

เหล่าเทพทั้งหลายก็ยอมทุ่มหมดหน้าตักด้วยเช่นกัน !

 

ฮิฟีสตัสได้ทำการสร้างแพนโดร่าขึ้นมาจากดินและน้ำ  ก่อนจะจัดการปั้นนางให้สวยเหมือนเหล่าเทพีในสมัยนั้น จากคำบรรยายที่ระบุเอาไว้ในเอกสารของ เฮสิโอด หรือกวีที่อาศัยอยู่ในยุคกรีกโบราณ ที่ได้บรรยายถึงรูปร่างหน้าตาของแพนโดร่าเอาไว้ว่า a sweet, lovely maiden-shape, like to the immortal goddesses in face  ซึ่งแปลความหมายโดยรวมได้ว่า แพนโดร่าเป็นผู้หญิงที่มีกิริยาอ่อนหวาน น่ารัก  มีร่างกายและใบหน้าที่งดงามราวกับเทพธิดา

 

และไม่ใช่แค่นั้น นอกจากภาพลักษณ์ภายนอกของแพนโดร่าจะงดงามจากฝีมือการปั้นของฮิฟีสตัสแล้ว เธอยังมีคุณสมบัติที่พรั่งพร้อมจากบรรดาคำอวยพรของเหล่าเทพและเทพีที่ได้ร่วมกันประทานพรให้กับแพนโดร่ากันคนละข้อ 

 

 

  • เทพีอะธีนา (Athena) เทพีแห่งปัญญา งานฝีมือ และสงคราม ได้ประทานเครื่องแต่งกายในชุดเสื้อคลุมยาวสีเงิน พร้อมกับสอนทักษะการเย็บปักถักร้อย และการทอผ้าให้กับแพนโดร่า

  • เทพีอโฟรไดท์ (Aphrodite) เทพีแห่งความงามและความรัก ได้ประทานความสง่างาม ที่นำพามาด้วยปรารถนาอันแรงกล้าให้กับแพนโดร่า

  • เทพีเกรซ (The Grace) ไตรเทพีแห่งเสน่ห์ ความงาม และการเจริญพันธุ์ กับ ฮิฟีสตัส (Hephaetus) เทพแห่งไฟ ได้ประทานสร้อยคอทองคำ มงกุฏทองคำ อัญมณี และเส้นผมที่หนาและงดงาม

  • เทพีฮอเร (Horae) เทพีแห่งฤดูกาล 3 พระองค์ ได้มอบพวงมาลัยดอกไม้ประดับศีรษะที่ทำมาจากดอกไม้ตามฤดูกาลให้กับแพนโดร่า

  • เทพเฮอร์มีส (Hermes) เทพแห่งการสื่อสาร การเปลี่ยนผ่าน และเขตแดน ประทานเสียงของมนุษย์ บุคลิกเล่ห์เหลี่ยม จิตใจของสุนัข (ความอยากรู้อยากเห็น) รวมไปถึงการใส่คำโกหกและหลอกลวงลงไปในอกของแพนโดร่า

  • เทพซูส (Zeus) เทพเจ้าอันสูงสุดของเทือกเขาโอลิมปัส ได้มอบโหลขนาดใหญ่ ที่ภายในได้บรรจุความลับอะไรบางอย่าง โดยเทพซูสได้ทำการมอบมันให้กับแพนโดร่า พร้อมทั้งยังกำชับอีกด้วยว่า โหลนี้เป็นของขวัญจากเหล่าเทพ อยากให้นางพกติดตัวไว้ แต่มีข้อแม้ว่า ห้ามเปิดออกโดยเด็ดขาด

 

 

หลังจากเสร็จสิ้นการอวยพรระหว่างเหล่าเทพกับแพนโดร่าแล้ว แพนโดร่าก็ได้ถูกนำตัวไปยังโลกมนุษย์โดยความช่วยเหลือของเทพเฮอร์มีส เทพแห่งการสื่อสาร การเปลี่ยนผ่าน และเขตแดน ที่ได้มีการวางแผนล่วงหน้ากับซูส เพราะด้วยนิสัยเดิมของโพรมีทีอูส ที่มีความเฉลียวฉลาดนั้น อาจทำให้เค้าปฏิเสธการรับของขวัญชิ้นนี้จากซูสก็เป็นได้ ทางเฮอร์มีสและซูสเลยตัดสินใจว่าจะนำแพนโดร่าไปมอบให้กับ เอพิมีเทียส ไททันน้องชายฝาแฝดของโพรมีทีอูสแทน เพราะเอพิมีเทียส เป็นไททันที่มีนิสัยโง่เขลา ไม่ค่อยทันคนเหมือนอย่างพี่ชาย

 

ซึ่งก็เป็นไปตามคาด เพราะเอพิมีเทียสได้ตอบตกลงรับของขวัญชิ้นนี้จากซูสเข้าจนได้ ถึงแม้ว่าตัวของเอพิมีเทียสเอง จะเคยได้รับคำเตือนจากพี่ชายฝาแฝดอย่างโพรมิทีอูสไปก่อนหน้านี้แล้วว่า ห้ามรับของจากซูสโดยเด็ดขาด แต่ตัวเอพิมีเทียสเองกลับไม่ระวัง เพราะมัวแต่หลงเสน่ห์ในความงามของแพนโดร่า จนทั้ง 2 ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน แต่งงาน และมีลูกด้วยกัน ซึ่งลูก ๆ ของแพนโดร่ากับเอพิมีเทียส ถือได้ว่าเป็นต้นกำเนิดของเผ่าพันธุ์มนุษย์ชาย-หญิงคู่แรกที่สมบูรณ์แบบเลยก็ว่าได้

 

หลังจากเก็บความสงสัยมานาน

ในที่สุดฝันร้ายของมวลมนุษยชาติก็ได้ถูกเปิดออก

 

เหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ดำเนินต่อไป จนเราแทบไม่ได้ใส่ใจในของขวัญที่ซูสได้มอบให้กับแพนโดร่าเลยแม้แต่น้อย และไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าจากพรของเฮอร์มีสที่ได้มอบให้กับแพนโดร่าเมื่อครั้งที่เจอหน้ากันเป็นครั้งสุดท้าย ได้ส่งผลกับชีวิตของแพนโดร่าอย่างรุนแรงมากในตอนนี้ เพราะความอยากรู้อยากเห็นที่ถูกเก็บซ่อนมานาน ในที่สุดแพนโดร่าจึงตัดสินใจเปิดโหลปริศนานั้นออกมาดู

 

และเพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น บรรดาความชั่วร้าย คำสาป สงคราม รวมถึงโรคระบาดที่อัดแน่นอยู่ในโหลปริศนาก็ได้กระจายตัวออกสู่โลกภายนอกอย่างรวดเร็ว จนทำให้แพนโดร่ารู้สึกผิด ที่เผลอทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ แถมยังสร้างความวุ่นวายให้กับโลกมนุษย์ที่ปกติสุขในตอนนั้น ให้กลับกลายเป็นความวุ่นวายขึ้นมา ซึ่งกว่าแพนโดร่าจะตัดสินใจปิดฝา ก็พบว่ามันได้สายไปเสียแล้ว 

 

สังคมมนุษย์ที่จากเดิมอยู่อาศัยกันอย่างสงบสุข ได้กลับกลายเป็นสังคมแห่งสงคราม มนุษย์หันมาฆ่ากันเอง บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง และสิ้นหวัง โรคระบาด ทำให้ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก

 

แพนโดร่าเลยกลายเป็นเหมือนของขวัญ

ที่ต้องการจะตอบแทนให้กับสองพี่น้องไททัน

เพื่อแลกกับไฟที่พวกเขาได้แอบขโมยไปนั่นเอง

 


 

 

แพนโดร่า ตัวแทนของ "หญิงสาว ความสวยงาม และความปราณีต"

 

ถึงแม้ว่าจุดประสงค์ในการสร้างแพนโดร่าอาจจะฟังดูไม่ดีสักเท่าไหร่ แต่ถ้าเรามองอีกนัย เราจะพบว่าแพนโดร่านั้นเป็นหญิงสาวที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยความปราณีตเป็นอย่างมาก คำว่าแพนโดร่าเลยสามารถตีความหมายในด้านที่ดีได้ เหมือนกับความหมายของชื่ออย่าง ของขวัญสำหรับทุกคน ที่ต้องการจะสื่อความหมายว่า เธอเป็นของขวัญที่เหล่าเทพและเทพีช่วยกันรังสรรค์ขึ้นมา 

 

ดังนั้นการที่แบรนด์เครื่องประดับสัญชาติเดนมาร์กตั้งใจจะใช้ชื่อนี้เป็นชื่อแบรนด์ของตัวเอง ในมุมมองของเรา เราคิดว่ามันมีเหตุผลและความเชื่อมโยงที่เข้ากันอยู่

 

  • แพนโดร่าเป็นตัวแทนของผู้หญิง เหมือนกับแพนโดร่าที่เป็นแบรนด์เครื่องประดับสำหรับผู้หญิง

  • แพนโดร่าถูกสร้างขึ้นมาจากความปราณีต ละเมียดละไม เหมือนกับแพนโดร่าที่เป็นแบรนด์เครื่องประดับทำมือ ที่ต้องอาศัยความสามารถ และประสบการณ์ของช่างทำเครื่องประดับในการสร้างสรรค์ชิ้นงานนั้น ๆ

  • แพนโดร่าเปรียบได้กับตัวแทนของความสวยงาม  แทนของขวัญสำหรับทุกคน  เหมือนกับเครื่องประดับอย่างแพนโดร่า ที่มีกิมมิกอยู่ที่แพ็กเกจ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นของขวัญชิ้นสำคัญในมุมของผู้รับ ซึ่งแน่นอนว่าความรู้สึกที่ว่านั้น ไม่ใช่ความเลวร้ายเหมือนกับโหลแพนโดร่าในตำนานกรีกโบราณอย่างแน่นอน

 

ดังนั้นความหมายที่ซ่อนอยู่ภายใต้ชื่อแบรนด์อย่าง PANDORA นี้ก็คือ เอกลักษณ์ของความเป็นแบรนด์เครื่องประดับสำหรับผู้หญิง ที่ผ่านการสร้างสรรค์ด้วยความใส่ใจ มีความพิเศษเฉพาะตัว สามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้รับ ประหนึ่งว่ามันเป็นของขวัญชิ้นสำคัญจากแบรนด์ส่งตรงถึงลูกค้าทุกคนนั่นเอง

 


 

💭 หลายคนคงจะเคยได้ยินคำว่า กล่องแพนโดร่า กันมาก่อน ซึ่งจริง ๆ แล้วถ้าอ้างอิงตามตำนาน สิ่งที่เทพซูสได้มอบให้กับแพนโดร่านั้นมีลักษณะเป็นขวดโหลมากกว่า แต่อาจจะด้วยความเก่าแก่ของตำนาน เลยอาจจะทำให้การตีความหมายออกมาคลาดเคลื่อนไปบ้าง แต่ยังไงเราก็หวังว่าจากเนื้อหาต่าง ๆ ที่ทุกคนได้อ่านกันไป คงจะทำให้ทุกคนได้เข้าใจความหมายของคำว่า PANDORA กันได้มากขึ้น รวมถึงความเชื่อมโยงระหว่างตำนานกับแบรนด์ เผื่อว่าใครมีความคิดอยากจะสร้างแบรนด์เป็นของตัวเอง ก็ลองนำไอเดียนี้ไปใช้ในการตั้งชื่อแบรนด์ของตัวเองกันได้นะ

 

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ได้ที่นี่

 


แหล่งข้อมูลอ้างอิง : greekmythology, perseus, worldhistory, desy.de, collinsdictionary และ symbolsage

  • avatar writer
    โดย imnat
    เสพติดการอ่าน & ดูหนัง ตอนนี้อยู่ในระหว่างการทำตามความฝันให้สำเร็จ :)
แสดงความคิดเห็น