LINE จุดเริ่มต้นของการสื่อสารภายในองค์กร สู่จุดจบในการลาออก

 

🗨️

'ตึ๊ง ตึ่ง' เสียงแชท LINE เด้งกลางดึกจนหลอนหูทุกคืน ไม่ใช่หวานใจแต่อย่างใด แต่เป็นเจ้านายสุดที่รักที่ไลน์มาตามงานบ้าง สั่งงานบ้าง แก้งานลูกค้าบ้าง อยากจะพิมพ์ตอบกลับไปว่า 'ไม่ทำ' หรือบล็อกให้รู้แล้วรู้รอด เจอแบบนี้บ่อย ๆ ก็ทำได้แค่ฮัมเพลง 🎵 อย่างนี้ต้องลาออก อย่างงี้ล่ะต้องออก จะขอลาออก รู้แล้วรู้รอดไป 🎵 แล้วลุกจากเตียงนุ่ม ๆ มาเปิดคอมทำงานตามที่นายสั่งอย่างไม่ขัดขืนตามเคย

 

---

 

บอสฉันขยันตามงานผ่าน LINE ฉายแล้ววันนี้ที่แบบฟอร์มลาออกทุกบริษัท

 

ผู้ใช้ Twitter รายหนึ่งออกมา Tweet ข้อความเล่าเรื่องราวของเพื่อนร่วมงาน ที่ถูกเจ้านายตามจิกตามด่าผ่านแอปพลิเคชั่น LINE ไม่เว้นวันหยุดพักผ่อนเสาร์และอาทิตย์ จนเกิดเป็นภาวะเครียดสะสม และมีอาการคลื่นไส้เมื่อได้ยินเสียงแชทไลน์เด้ง 😱 แม้จะมีการขอคำปรึกษาจากแพทย์อย่างจริงจังแล้ว ก็ไม่สามารถช่วยบรรเทาความกลัว LINE ได้เลย จึงเลือกวิธีแก้ปัญหาด้วยการเขียนใบลาออกในที่สุด  

 

 

บทบาทของ LINE ในองค์กรสู่ปัญหาการลาออก

 

กว่า 10 ปีที่แอปพลิเคชั่น LINE เข้ามามีบทบาทในประเทศไทย และกลายเป็นแพลตฟอร์มที่นิยมใช้ในอันดับต้น ๆ เพื่อการติดต่อสื่อสารทั่วไป แต่ปัจจุบันหลายองค์กรเลือกใช้ไลน์ มาเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการทำงาน แม้จะสะดวกและรวดเร็วในการพูดคุยหรือติดต่องาน แต่บางครั้งก็กินเวลาส่วนตัวไปมาก พนักงานออฟฟิศอย่างเปย์เป้ก็กำลังเจอกับปัญหาหนักใจนี้อยู่ เพราะเจ้านายเล่นไลน์หาแบบไม่พักและไม่มีท่าทีว่าจะหยุด เคยลองแกล้งทำเมินไม่อ่านไลน์ แต่ไม่เป็นผล เพราะหัวหน้า Video Call มาแทน 😥 

 

ในปี 2021 จากการสำรวจของ Nielsen บริษัทสำรวจสถิติระดับโลก ได้เปิดเผยผลการวิจัยเกี่ยวกับการใช้งาน LINE ในประเทศไทย พบว่า มีผู้ใช้งานจำนวน 45 ล้านบัญชี จากจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือในประเทศไทยทั้งหมด 69 ล้านเครื่อง โดย เฉลี่ยใช้งานประมาณ 63 นาที เมื่อเทียบกับเวลาทั้งหมดที่ผู้คนใช้เวลาไปกับโทรศัพท์มือถือที่ 216 นาทีต่อวัน เห็นได้ชัดว่า เราใช้เวลาอยู่กับไลน์มากพอสมควร ทั้งเรื่องงาน และเรื่องส่วนตัว ที่ถูกหลอมรวมกันแทบแยกไม่ออก และค่อย ๆ กัดกินเวลาพักผ่อนจนไม่เหลือความเป็นส่วนตัวอีกต่อไป

 

การใช้ LINE เป็นช่องทางติดต่อในองค์กร อาจเป็นต้นเหตุที่ทำให้หลายคนตัดสินใจลาออกจากงาน โดยเฉพาะในหมู่พนักงาน Generation Z หรือ Y ที่ยึดถือ 'Work-Life Balance' หรือสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวกับการทำงานเป็นอย่างมาก ตอนนี้เราเลยเริ่มเห็นว่าหลาย ๆ องค์กรได้มีการเปลี่ยนไปใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ใหม่ ๆ เช่น LINE WORKS, Slack, Asana เป็นต้น เพื่อให้พนักงานสามารถแยกเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวได้อย่างชัดเจน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องราวดี ๆ สำหรับคนทำงาน เสมือนได้รับโบนัสและของขวัญพิเศษจากทางบริษัทก็ว่าได้

 

---

 

รู้จักแพลตฟอร์มออนไลน์ สำหรับการทำงานโดยเฉพาะ

 

🎵 มีงานเข้า มีงานเข้า มีงานเข้า มีงานเข้า มีงานเข้า มีงานเข้า 🎵 เตรียมเปลี่ยนเสียงแจ้งเตือนแอปพลิเคชั่นสำหรับการทำงานเป็นเพลงหัวใจมีงานเข้า ของหลิว อาจารียา นี้ได้เลย เพราะวันนี้เปย์เป้ขอสวมบท HR ฝ่ายบุคคลยุคใหม่ที่จะมาแนะนำแพลตฟอร์มออนไลน์ สำหรับไว้ใช้ในการติดต่องานในช่วง Work from home โดยเฉพาะ 

 

 

LINE WORKS

 

LINE พัฒนาแอปพลิเคชั่นใหม่เพื่อการทำธุรกิจโดยเฉพาะ มาพร้อมรูปแบบการใช้งานที่ง่ายและมีฟีเจอร์ที่หลากหลายให้สะดวกในการติดต่อสื่อสารงาน

 

• สามารถแบ่งประเภทผู้คนตามตำแหน่งงาน
• สร้าง Task การทำงาน หรือ To do list ได้
• ใช้ปฏิทินทำงาน ลงเวลางาน นัดประชุม ใช้งาน Meeting
• แยกหมวด Contact ระหว่างองค์กรกับลูกค้า
• ไม่จำกัดเวลาในการจัดเก็บไฟล์งาน หรือรูปภาพ เมื่อส่งผ่านโปรแกรมแชท

 

💬 ดาวน์โหลด: คลิก

 

---

 

 

Slack

 

พนักงานออฟฟิศหลายคนอาจคุ้นเคยกับแพลตฟอร์มนี้ เพราะเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2013 และได้รับความนิยมต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยมีเวอร์ชั่นให้เลือกใช้งานอย่างหลากหลาย คือ Free, Pro, Business+ และ Enterprise Grid

 

• สามารถจัดเก็บไฟล์งานได้ตั้งแต่ 5 GB จนไปถึง 1 TB
• ฟีเจอร์สร้าง Channel ด้วย Hashtag ให้การทำงานง่ายขึ้น
• รองรับการ Video Call ได้สูงสุดถึง 15 คน

 

💬 ดาวน์โหลด: คลิก

 

---

 

 

Asana

 

แพลตฟอร์มออนไลน์อีกทางเลือกที่สามารถอัปเดตการทำงานในทุกขั้นตอนแบบละเอียดยิบ รับรองว่าถูกใจเจ้านายสายตรวจสอบอย่างแน่นอน โดยมีเวอร์ชั่นรองรับการทำงานทุกธุรกิจ ได้แก่ Basic, Premium, Business และ Enterprise

 

• แจงรายละเอียดและหน้าที่การทำงานได้อย่างชัดเจน
• ตรวจสอบขั้นตอนการทำงานของทุกคนภายในทีม
• กำหนดวัน เวลา ทำงาน รวมถึงความสำคัญของงานได้
• เพิ่ม Add subtask หรือ task ย่อย รายละเอียดของงาน

 

💬 ดาวน์โหลด: คลิก

 

---

 

สำหรับ 3 แอปพลิเคชั่นเพื่อการทำงานโดยเฉพาะ อาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของมนุษย์เงินเดือน ที่จะช่วยให้การทำงานสนุกและเป็นส่วนตัวโดยไม่ต้องพึ่งแพลตฟอร์ม LINE อีกต่อไป รับรองได้เลยว่า เจ้านายจะต้องเป็นปลื้ม เพราะมีฟีเจอร์รองรับการทำงานที่หลากหลาย แต่เปย์เป้ก็ไม่รับประกันว่า ถ้าเปลี่ยนมาใช้ช่องทางใหม่แล้วจะสามารถหยุดการตามงาน หรือ Video Call ของ Big Boss ในช่วงวันหยุดได้หรือไม่ ? คงต้องสวดภาวนาไม่ให้มีสัญญาณโทรศัพท์ หรือกดปุ่มปิดเครื่องหนีกันเลย แต่ก็อย่าใช้วิธีนี้บ่อยจนเกินไป เพราะอาจ 'ตกงาน' แบบไม่รู้ตัวนะ 😛 

 

ที่มา: Salika, Wongnai