No Buy Month ชาเลนจ์หักดิบห้ามฟุ่มเฟือย ทำไมตอนนี้ฮิตมากในโซเชียล

ช่วงนี้ไม่ว่าจะไถฟีดแอปไหน ๆ ก็จะเจอเทรนด์อยู่เทรนด์นึง ที่เป็นชาเลนจ์ฮิตอยู่ในตอนนี้! และเค้ามีชื่อเรียกว่า “No Buy Month” หรือ “No Buy January” มีใครเคยเห็นหรือได้ลองทำแล้วบ้าง ? วันนี้เราเลยจะมาเล่าให้ฟัง ว่าเทรนด์นี้คืออะไร ทำไมถึงน่าทำตาม...แล้วเค้าทำชาเลนจ์นี้ยังไงกันบ้าง ?

พามารู้จัก No Buy Month คืออะไร

จริง ๆ เทรนด์นี้ฮิตมาจากต่างประเทศนะ ถ้าเราเข้าต๊อก ๆ จะเห็นหลายคลิปเลยแหละ ที่เค้าทำชาเลนจ์นี้กันอยู่ ซึ่งคำว่า “No Buy Month” เนี่ย ความหมายตรงตัวก็คือ เดือนนี้จะไม่ซื้ออะไร แต่ชาเลนจ์นี้ มีขึ้นมาก็เพื่อที่จะช่วยให้เรามีวินัยในการใช้จ่ายไม่ให้ฟุ่มเฟื่อย หรือมีสติในการซื้อของ ไม่ให้เยอะเกินความจำเป็นของเรา 

แต่นอกจากเทรนด์ “No Buy Month” แล้ว ก่อนหน้านี้ก็ยังมี “No-Spend Challenge” มาแล้วด้วยนะ โดยอันนั้นเป็นเทรนด์จากประเทศเกาหลี ที่ตอนนั้นเป็นกระแสมาก วัยรุ่นที่นู้นหลายคนพากันทำเพียบ! ซึ่งจริง ๆ แล้ว เป้าหมายของชาเลนจ์นี้ ก็แทบจะไม่ได้ต่างกันเลยกับ No Buy Month  เพราะเป็นชาเลนจ์ที่ต้องการฝึกให้เราใช้เงินให้เป็น มีเงินเก็บมากขึ้นนั่นเอง

ชาเลนจ์ “No Buy Month” เค้าทำยังไง

สำหรับวิธีเล่นชาเลนจ์นี้ ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน..แต่แค่จะต้องอดใจงดซื้อของให้ได้! แต่..ถ้าจะไม่ให้ซื้ออะไรเลย ก็เป็นไปได้ยากอยู่นะ เพราะงั้นชาเลนจ์นี้ก็ยังซื้อของได้ แต่จะต้องเป็นของใช้จำเป็นที่เราใช้หมดแล้วเท่านั้นนะ คือบางคนเค้าก็ทำลิสต์ขึ้นมาเลย ว่าในแต่ละวีค/เดือน เราจะใช้จ่ายได้วันไหนบ้าง หรือจะงดซื้อของอะไรบ้าง ฟีลเหมือนชีทเดย์ (Cheat Day) เลยอะ 

ยกตัวอย่างเช่น เดือนมกราคม เราจะออกไปกินข้าวที่ห้างเดือนละ 2 ครั้งเท่านั้น ส่วนพวก ทิชชู, สกินแคร์, ของใช้ส่วนตัว ฯลฯ ถ้ายังไม่หมดห้ามซื้อเด็ดขาด! แล้วก็ Makeup, เสื้อผ้า, รองเท้า, ช็อปปิ้งออนไลน์ สายแฟทั้งหลายคือต้องงดไปเลย ใส่ที่เรามีไปก่อน..เพราะของพวกนี้เราสามารถวนใช้ได้ และเจ้าพวกนี้นี่แหละที่ทำเราเสียเงินเยอะสุด 555 (ใจแข็งหน่อยนะ เราทำได้!)

แนะนำทริค..การออมเงินซะหน่อย

ไหน ๆ เราก็พูดถึงเรื่องการเก็บเงินมาขนาดนี้แล้ว เราก็เลยได้รวมทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ มาฝากกัน ที่ถ้าทำได้แล้วล่ะก็..เดือนนึงจะมีเงินเก็บเหลือเยอะแน่นอน ลองมาดูกันว่าจะมีอะไรบ้าง

-หลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น : อย่าไปแพ้ให้กับคำว่า “ของมันต้องมี” “ของลดราคา” ลองคิดก่อนที่จะซื้อ ว่าของพวกนี้มันจำเป็นจริง ๆ หรอ เพราะหมดเงินไปเท่าไหร่แล้ว..กับคำพวกนี้ TT

-หักดิบหยุดเข้าแอปช็อปปิ้ง : เพราะยิ่งเข้ามากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งอยากซื้อของมากเท่านั้น แล้วคือของล่อตาล่อใจ แถมคูปองส่วนลดเยอะแยะไปหมด งั้นก็งดเข้าไปดูเลยดีกว่า จบ ๆ (ลบทิ้งเลยก็ได้ พอลดการใช้จ่ายได้แล้วค่อยโหลดกลับมา)

-ไม่รูดบัตรเครดิต ไม่มีบัตรหลายใบ : ข้อนี้ถ้าใครทำได้ คือสามารถประหยัดเงินไปได้เยอะเลยนะ ที่สำคัญไม่ต้องเป็นหนี้ด้วย เพราะถึงแม้จะรูดบัตรไปแล้ว แต่สุดท้ายมันก็คือการเอาเงินในอนาคตมาจ่ายตะหากล่ะ 

-ใช้ก่อนค่อยหาใหม่ : เจ็บมานักต่อนักแล้วนะ กับคำนี้...เพราะหามาได้เท่าไหร่ก็ใช้หมด! แล้วแบบนี้จะมีเงินเก็บตอนไหน เพราะงั้นเลิกใช้เถอะสโลแกนนี้ เปลี่ยนเป็น เก็บเงินตอนนี้ไว้ใช้ทีหลังดีกว่า

-ทำรายรับรายจ่าย : เราว่าข้อนี้สำคัญมากนะ เราจะได้รู้ว่าในแต่ละวัน เราใช้จ่ายไปกับค่าอะไรบ้าง เสียเงินไปเท่าไหร่ มากกว่ารายรับที่ได้มั้ย แล้วพอเรารู้แล้วใช่ปะ ก็จะทำให้เดือนถัดไปเรามีสติในการใช้เงินมากขึ้น และยังสามารถไล่ดูได้ด้วยว่ามีค่าอะไรไม่จำเป็น จะได้ตัดออกไป 

ลองมาทำชาเลนจ์ “No Buy Month” กันมั้ย

เราว่าข้อดีของชาเลนจ์นี้มีเยอะมากเลยนะ การไม่ใช้จ่ายสิ้นเปลืองไม่ฟุ่มเฟือย เป็นเรื่องที่เราทุกคนควรจะทำกันอยู่แล้ว เพราะสำหรับบางคนการเก็บเงินก็อาจจะเป็นเรื่องยากก็ได้ แต่พอมีชาเลนจ์นี้ขึ้นมา ก็เหมือนเป็นการปลุกใจให้กับตัวเอง 555 อยากจะลองหักดิบหันมางดซื้องดจ่ายอะไรที่ไม่จำเป็นดูบ้าง แล้วมีหลายคนที่รีวิวว่ามันได้ผลจริง ๆ พอลองทำแล้ว ก็มีเงินเก็บเยอะขึ้นเลย...เอางี้งั้นเราลองมาทำชาเลนจ์นี้กันมั้ย มาเก็บเงินไปพร้อมกันเถอะ : ) 

👉🏻 อ้างอิงข้อมูล : https://ppro.pro/47N8y3k , https://ppro.pro/49a7aZF