น้ำหอมแบรนด์ไทย 5 เจ้า มาพร้อมดีกรีความหอมไม่แพ้ใคร!
โดย : JINFEB

น้ำหอมแบรนด์ไทย ทำถึงเรื่องกลิ่น!
💬 ความหอมไม่ใช่แค่เรื่องกลิ่น เพราะเป็นเอกลักษณ์และสิ่งที่มาคอมพลีทลุคเราได้ วันนี้เราเลยพามารู้จัก 5 น้ำหอมแบรนด์ไทยที่เป็นกระแส จนหลาย ๆ คนพูดถึง และแต่ละเจ้าดีกรีไม่แพ้ต่างประเทศเลย ที่สำคัญมีจุดเด่น-น้ำหอมกลิ่นฮิตขายดีแตกต่างกันไป ลองมาดูกันว่าจะมีอะไรบ้าง เอาไว้เป็นอีกตัวเลือกที่จะหยิบมาใช้ในแต่ละวัน มาดูกันเลย
น้ำหอมแบรนด์ไทย 5 แบรนด์ฮิตในโซเชียล
1.Scent Studio
จุดเด่นของแบรนด์ : “Scent Studio” แบรนด์น้ำหอมฝีมือคนไทย ที่มาพร้อมกลิ่นมีมิติ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะแบรนด์ อิงจากบรรยากาศและเทศกาลต่าง ๆ มาเบลนด์เป็นน้ำหอมแต่ละกลิ่น
แมสจากอะไร : แบรนด์นี้แมสจากน้ำหอมกลิ่น Matcha 101 ที่หลายคนรีวิวว่าเป็นน้ำหอมกลิ่นคนสะอาด เหมือนอาบน้ำวันละหลายรอบ ฉีดแล้วคนทัก จนเป็นกระแสมาแรง รวมไปถึงแม่ตุ๊ก Little Monster ก็เคยรีวิวน้ำหอมกลิ่นนี้และกลิ่นอื่นของแบรนด์ลงใน TikTok ช่องตัวเองเลยยิ่งทำให้น้ำหอม Scent Studio แมสมากขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย
ร้านนี้ก่อตั้งปี 2562 โดยคุณเจษฎา ที่ทุ่มเทในการพัฒนาสูตรน้ำหอมเพื่อให้ได้กลิ่นที่ยูนีคและใช้ได้นาน โดยเอาธรรมชาติรอบตัวมาเสริมเป็นแรงบันดาลใจในการทำน้ำหอม แถมยังเอาความเห็นกับความต้องการของลูกค้า มาพัฒนาน้ำหอมและแบรนด์อีกด้วย
น้ำหอมกลิ่นฮิต : Matcha 101 เป็นน้ำหอมที่ฉีดแล้วให้ความรู้สึกดูสะอาดและหอมเฟรชเหมือนเพิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ ๆ จะออกกลิ่นโทนชา เบลนด์ระหว่าง Greentea และ Black Tea เสริมความเฟรชด้วย Neroli และ Orange Blossom ปิดท้ายด้วยความอบอุ่นละมุนจาก Musk
Top : Neroli, Cardamom
Mid : Green Tea, Black Tea, Orange Blossom, Jasmine
Base : Vetiver, Ambrette Seed, Iris
น้ำหอมกลิ่นที่น่าสนใจ : Honey Biscuits & English Vanilla เป็นกลิ่นโทนวนิลา, Musk, น้ำผึ้ง หอมเหมือนขนมอบออกจากเตา ได้ฟีลเหมือนเดินอยู่ท่ามกลางร้านเบเกอรี่ นอกจากความหวาน ก็เติมความอบอุ่นและความหรูผู้ดีขึ้นด้วย Amberwood ใครชอบวนิลาแนะนำลองกลิ่นนี้เลย
Top : Honey, Lemon Blossom
Mid : English Vanilla, Vanilla Caviar, Lavender
Base : Amberwood, Ambergris, Musk
ขนาดน้ำหอม : มี 2 ขนาดให้เลือก 5 ml และ 50 ml
ประเภทน้ำหอม : Extrait de Parfum
ราคาเริ่มต้น : 145.-
2.Day Off Studio
จุดเด่นของแบรนด์ : “Day Off Studio” แบรนด์น้ำหอมไทยที่เบลนด์กลิ่นจากบรรยากาศ, ความรู้สึกและประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ตัวเจ้าของแบรนด์ได้พบเจอและสัมผัสมา เอามาพัฒนาให้สร้างสรรค์เข้ากับส่วนผสมต่าง ๆ จนได้เป็นน้ำหอมของแบรนด์ออกมา
แมสจากอะไร : เริ่มจากที่มีคนเดินผ่านหน้าร้านที่เชียงใหม่แล้วได้กลิ่นหอมโชยมา ทำให้ต้องเดินกลับไปซื้อ ซึ่งเป็นกลิ่น Chill Vibes และหยิบมารีวิวเป็นคลิปลง TikTok จนหลายคนเห็นก็สนใจเลยพากันไปซื้อมาใช้ตามดูบ้าง
ร้านนี้ก่อตั้งปี 2561 โดยคุณอู๋ ธีรนัย ที่มีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน ตั้งแต่คัดเลือกออยล์, ผสมกลิ่นและบรรจุลงขวด เป็นแบรนด์น้ำหอมไทยที่เกิดจากความรัก, ความชอบในเรื่องของกลิ่นและเครื่องหอมแบบสุด ๆ ผสมกับประสบการณ์และความรู้ที่ได้เรียนมาทั้งหมดด้วยนั่นเอง
น้ำหอมกลิ่นฮิต : Chill Vibes เป็นกลิ่นโทนวนิลา ที่ไม่หวานจนเกินไป ผสมความสดชื่นและความสะอาดจาก Citrus ได้กลิ่นอายแป้งเด็กจากการเบลนด์ผสมระหว่าง Cream Flower กับ Soft Musk
Top : Soft Citrus Vanilla
Mid : Cream Flower
Base : Soft Musk
น้ำหอมกลิ่นที่น่าสนใจ : Sourwood เป็นกลิ่นโทน Fruity ผสม Woody ได้ทั้งความเฟรชจากผลไม้เมืองร้อนและความอบอุ่น ดูน่าค้นหาจาก Dry Wood ใครชอบแนวโปร่ง ๆ เฟรช ๆ แต่ดูมีอะไรแนะนำกลิ่นนี้เลย
Top : Tropical Fruit
Mid : Citrus
Base : Dry Wood
ขนาดน้ำหอม : มี 3 ขนาดให้เลือก 10 ml, 30 ml และ 100 ml
ประเภทน้ำหอม : Eau de Parfum
ราคาเริ่มต้น : 390.-
3.Baan Good
จุดเด่นของแบรนด์ : “Baan Good” แบรนด์น้ำหอมไทยที่มีความ Unisex ที่เบลนด์กลิ่นแปลกใหม่ ผสมเข้ากับจินตนาการและประสบการณ์ในหลากหลายแง่มุมจากเจ้าของแบรนด์ มาพร้อมส่วนผสมสูตรลับเฉพาะแบรนด์ที่ช่วยให้กลิ่นน้ำหอมติดทนนานมากขึ้น
แมสจากอะไร : ตัวต้นเรื่องก็นี่เลยน้ำหอมเวนดี้ ชื่อนี้คงคุ้นหูใครหลายคน เป็นกลิ่นที่ใช้เวลาพัฒนาถึง 2 ปี แมสจากการที่มีคนรีวิวน้ำหอมกลิ่น I Wendy You ลงโซเชียลตั้งแต่แรกที่เปิดแบรนด์มาและป้ายยากันต่อเรื่อย ๆ ถึงขนาดที่เคย Sold Out ไปสักพักเลย
ร้านนี้ก่อตั้งปี 2563 โดยคุณแนน คนที่มองน้ำหอมเป็นงานศิลปะ เป็นสิ่งที่มองไม่เห็น แต่ทำให้รู้สึกได้ เลยเริ่มทำแบรนด์น้ำหอม Baan Good จากความชอบและความหลงใหล ทำกลิ่นน้ำหอมเล่าผ่านคาแรคเตอร์, ไลฟ์สไตล์, ความชอบของคนแต่ละช่วงวัย รวมถึงคิดชื่อน้ำหอมก่อนที่จะเริ่มทำแต่ละกลิ่นออกมาด้วย เพื่อให้เห็นภาพและตอบโจทย์มากที่สุด
น้ำหอมกลิ่นฮิต : I Wendy You เป็นกลิ่นฟีลลูกคุณหนู มีความน่ารักสดใส ไบร์ท ๆ ซึ่งกลิ่นนี้เบลนด์น้ำหอมด้วย Vanilla, Peony ผสมกับ Powdery เติมความละมุนให้ได้สัมผัสกลิ่นอบอุ่นจาก White Musk และ Woody
Top : Litchi, Pear, Peach
Mid : Peony, Floral Notes, Powdery
Base : White Musk, Vanilla, Woody Notes
น้ำหอมกลิ่นที่น่าสนใจ : Layah กลิ่นนี้บอกเลยว่าเป็นกลิ่นคนสวยขาสุด ๆ ได้ทั้งความเซ็กซี่และสวยแบบมีคลาส เป็นโทน Fruity Floral เบลนด์จากหลากหลายผลไม้และดอกไม้รวมกัน
Top : Strawberry, Blackcurrant, Blueberry, Raspberry
Mid : Peony, Jasmine Accord, Violet Accord, White Rose
Base : White Woods, Musk, Dry Amber, Patchouli
ขนาดน้ำหอม : มี 2 ขนาดให้เลือก 10 ml และ 50 ml
ประเภทน้ำหอม : Eau de Parfum
ราคาเริ่มต้น : 496.-
4.Janua
จุดเด่นของแบรนด์ : “Janua” แบรนด์น้ำหอมฝีมือคนไทย บอกเล่าความหอมผ่านสตอรี่ต่าง ๆ แต่ละกลิ่นจะมีบอกไว้ว่าเหมาะกับใคร, ฉีดแล้วได้ลุคแบบไหน เป็นอีกแบรนด์ที่ตั้งชื่อน้ำหอมให้เชื่อมโยงไปกับกลิ่น ไหนจะยังมีแพ็กเกจจิ้งสุดคิ้วท์ที่เก็บไว้ใช้งานต่อได้ จะใส่ของจุ๊กจิ๊กหรือจะตั้งโชว์ก็ได้หมดเลย
แมสจากอะไร : ไม่พูดถึงไม่ได้เลย! Janua แมสจากตอนที่แฟนคลับมาเล่าใน X ว่าน้องอินจุน NCT DREAM ทักว่าฉีดน้ำหอมอะไร..หอมมาก เท่านั้นแหละทั้งคนในด้อมและคนอื่น ๆ เลยสั่งตามกันเยอะมาก จนตอนนั้นเจ้าของแบรนด์ถึงกับออกมาบอกว่ายอดขายทะลุ 8 แสนในข้ามคืน!
ร้านนี้ก่อตั้งปี 2565 โดยคุณเอื้อย วีรินทร์ภัทร สาวเชียงรายที่ทำแบรนด์น้ำหอมขึ้นมา ด้วยการพัฒนาและศึกษาข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับกลิ่นและน้ำหอมอยู่เสมอ ผสมเข้ากับความชอบของตัวเองและความมุ่งมั่น ที่อยากให้น้ำหอมไทยไปไกลถึงต่างประเทศ
น้ำหอมกลิ่นฮิต : Mine Wish เป็นกลิ่นแนว Fruity Floral ได้ลุคน่ารัก, สดใส กลิ่นสะอาดจากลูกแพร์ ผสมความเซ็กซี่ขี้เล่นด้วย Freesia กับ White Flower ปิดจบด้วยความละมุนอบอุ่นจาก Virginia Cedar และ Amberwood จะออกสไตล์ลูกคุณหนูดูมีภูมิฐานและมีคลาส ดูไม่เด็กและไม่แก่เกินไป
Top : Pear, Freesia, Bergamot
Mid : Solar Jasmine, Grapefruit Essence, Pear Blossom
Base : Virginia Cedar, Amberwood, Satin Musks, Cotton Candy
น้ำหอมกลิ่นที่น่าสนใจ : Kiss Me More กลิ่นโทน Fruity & Sweet เป็นอีกกลิ่นที่ได้ลุคคนสวยขา สวยแซ่บแอบเซ็กซี่จาก Rose กับ Cashmeran ผสมกับกลิ่นจาก Vanilla ถ้าให้นึกถึงใครสักคนก็ต้องเสี่ยวหยูหรือเจนเย่ จากเรื่องสงครามส่งด่วนนี่แหละใช่เลย
Top : Bergamot, Red Fruit, Blackcurrent
Mid : Rose, Jasmine, Green Leaves
Base : Patchouli, Cashmeran, Vanilla
ขนาดน้ำหอม : มีขนาดเดียว 30 ml
ประเภทน้ำหอม : Eau de Parfum
ราคาเริ่มต้น : 269.-
5.Sundalo
จุดเด่นของแบรนด์ : “Sundalo” แบรนด์น้ำหอมไทย ที่เบลนด์กลิ่นออกมาได้มีสไตล์โดดเด่นเป็นของตัวเอง และใช้ได้ในหลายโอกาส ตอนนี้มีหน้าร้านอยู่ที่ Siam Discovery ชั้น G สามารถเข้าไปดมและลองแต่ละกลิ่นกันได้เลย
แมสจากอะไร : น้ำหอมของ Sundalo แมสมาจากการที่คนรีวิวกลิ่น Mayfair Vanille ลงใน TikTok ว่าฉีดแล้วกลิ่นหอมหวาน ดูสวยหรู จนคนรอบข้างทัก และเริ่มเป็นกระแสแมสขึ้นมาและคนพากันไปซื้อมาใช้เยอะขึ้นเรื่อย ๆ
ร้านนี้ก่อตั้งปี 2562 โดยคุณศิรวิชญ์ ที่มี Passion และชอบในเรื่องของกลิ่นและน้ำหอม เป็นแบรนด์ที่ปรุงน้ำหอมจากฝีมือของนักปรุงน้ำหอมคนไทย มีการบรรยายบอกเล่าแต่ละกลิ่น รวมถึงบอกว่ากลิ่นต่าง ๆ เหมาะกับลุคแบบไหนและเหมาะกับใครด้วย
น้ำหอมกลิ่นฮิต : Mayfair Vanille เป็นกลิ่นแนวหอมหวาน, ชวนให้หลงใหลและน่าค้นหาจาก Vanilla, Caramel และ Red Berries ได้ลุคดูสวยหูหราจาก White Flower ปิดท้ายด้วยความอบอุ่นละมุนจาก Musk
Top : Saffron, Mandarin, Cocktail, Red Berries
Mid : Rose, Orchid, Lily Of The Valley, Jasmine
Base : Amber, Vanilla, caramel, Sandalwood, Musk
น้ำหอมกลิ่นที่น่าสนใจ : Trapping Litchi เป็นกลิ่นโทน Fruity Floral อัปลุคให้ดูเป็นสาวหวาน แสนเย้ายวนใจ แต่ก็ดูเฟรชขึ้นด้วย Lychee Rhubarb กับ Bergamot ปนเซ็กซี่จากหลากหลายมวลดอกไม้
Top : Lychee Rhubarb, Nutmeg, Red Berries, Bergamot
Mid : English Rose, Peony, Lily Of The Valley, Vanilla
Base : Cashmeran, Musk, Vetiver
ขนาดน้ำหอม : มี 3 ขนาดให้เลือก 2 ml, 10 ml และ 50 ml
ประเภทน้ำหอม : Extrait de Parfum
ราคาเริ่มต้น : 99.-
มาสรุปกันสักหน่อย
ก่อนออกจากบ้านแต่ละทีเรื่องความหอมนี่แหละเรื่องใหญ่! ไม่แปลกที่น้ำหอมจะเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่สำคัญ แล้วน้ำหอมแบรนด์ไทยที่เราได้เล่าไปข้างบน แต่ละแบรนด์ แต่ละกลิ่นก็ให้ความรู้สึกและอารมณ์ที่ต่างกันไป ยังไงก็แนะนำให้เลือกอ่านดูจากส่วนผสมที่ชอบ ลุคที่อยากได้ หรือจะไปลองดมของจริงดูก่อนก็ยิ่งดี นี่ทำให้เห็นเลยว่าน้ำหอมแบรนด์ไทยเรา นี่ไม่ธรรมดาจริง ๆ
👇🏻อ่านบทความที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ได้ที่นี่👇🏻
โดย JINFEB
🍀💜