สายดูหนังห้ามพลาด ! ป้ายยาหนัง 10 เรื่องที่ตอนจบค้างไม่ไหว จบแบบนี้ต้องการอะไรจากช้านนน..

avatar writer
โดย : imnat
avatar writer16 พ.ย. 2564 avatar writer1.4 K
สายดูหนังห้ามพลาด ! ป้ายยาหนัง 10 เรื่องที่ตอนจบค้างไม่ไหว จบแบบนี้ต้องการอะไรจากช้านนน..

 

เพื่อนๆ คนไหนเคยมีประสบการณ์เวลาดูหนังจบแล้วมีฟีลลิ่งแบบค้างๆ อึ้งๆ เหมือนถูกทิ้งไว้กลางทางกันมั้ย  เราขอยกมือขึ้นสุดแขนก่อนแล้ว 1 ซึ่งเอาจริงๆ เราเป็นคนชอบหนังแนวนี้มากกกกก รู้สึกว่ามันมีความลุ้นระทึก และให้ฟีลลิ่งบางอย่างต่างจากหนังแนวปกติ วันนี้เราเลยถือโอกาสมาป้ายยากันแบบเบาๆ กับหนัง 10 เรื่องที่ตอนจบทำเอาคนดูอย่างเราค้างไม่ไหว ส่วนจะมีเรื่องอะไรบ้าง ตามมาดูกัน !

 


 

เปิดลิสต์ " 10 หนังแนวพีคตอนจบ " สายดูหนังห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง

 

 

✔️ เรื่องที่ 1 : Oldboy

 

ขอเรียงลำดับจากความชอบส่วนตัวก็แล้วกัน  😆  (แต่ลิสต์ที่ยกมาทั้งหมดนี้ ใดๆ ก็คือชอบหมดนะ) อย่างเรื่องแรกที่ยกมาประเดิมก่อนเลยก็คือ Oldboy ที่ต้องบอกว่าเป็นหนังที่ผิดคาดสำหรับเรามาก เพราะส่วนตัวไม่คิดว่าจะสนุกและน่าติดตามได้ขนาดนี้ 

 

ด้วยความที่บรรยากาศของหนังเป็นแนวระทึกขวัญผสมสืบสวนสอบสวน ซึ่งสารภาพจากใจว่านี่เป็นหนังเกาหลีแนวนี้เรื่องแรกๆ เลยมั้งที่เรามีโอกาสได้ดู เพราะส่วนใหญ่จะชอบดูหนังทางฝั่งตะวันตกมากกว่า และโชคดีที่เราได้ดู เพราะหนังเรื่องนี้มันดีมาก อ่ะ มาว่ากันที่เรื่องย่อกันก่อน สำหรับเรื่องย่อของ Oldboy เรื่องนี้ มันเป็นเรื่องราวของชายคนนึงที่ถูกขังอยู่ในห้องแคบๆ มาเป็นสิบๆ ปี จนวันหนึ่งเค้าก็ได้ถูกปล่อยตัวให้เป็นอิสระ แล้วก็เริ่มไล่คิดบัญชีกับ 'ลูกหนี้' ที่คาดว่าน่าจะเป็นตัวการทำให้เค้าต้องมาประสบกับการถูกขังลืมแบบนี้

 

อ่านมาจนถึงตรงนี้ เราเชื่อว่าหลายคนน่าจะยังเดากันไม่ออกใช่ไหมว่าแล้วมันจะค้างกันตรงจังหวะไหน เอาเป็นว่าลองไปดูกันก่อน ทางเรารับประกันเลยว่าการแก้แค้นครั้งนี้นำพามาด้วยเหตุการณ์บางอย่าง ที่ทำเอาคนดูหลายคนอึ้งกันมาแล้ว !

 


 

 

✔️ เรื่องที่ 2 : Psycho

 

เชื่อมะว่าหลังจากที่ดูครั้งแรกปุ๊บ หลังจากนั้นถ้ามีใครขอให้เราแนะนำหนังสักเรื่อง Psycho เรื่องนี้จะโผล่มาตลอด5555  แหะๆ ก็คนมันชอบจริงๆ ชอบนี่ชอบถึงขนาดลามไปยังผู้กำกับของเรื่องอย่าง Hitchcock เลยนะ กระซิบไว้ก่อนล่วงหน้าเลยว่า หากใครดูแล้วประทับใจ ไปหาหนังของเค้ามาดูกันเพิ่มเติมได้ เพราะสนุก พีค และอึ้งไม่ต่างจากเรื่องนี้เลย

 

และถ้าถามว่าหนังเรื่องนี้คือตำนานแค่ไหน ดูจากสีของโทนภาพที่เป็นขาว - ดำด้านบนน่าจะเป็นคำตอบให้ทุกคนกันได้ แต่ต่อให้หนังเรื่องนี้จะผ่านมาหลายปีแล้ว แต่เนื้อหาของเค้าเรามองว่ามันยังทันสมัยและหยิบมาดูเมื่อไหร่ก็ไม่มีเบื่อ อ่ะ มาเข้าเรื่องกันบ้าง Psycho เรื่องนี้เกี่ยวกับอะไร ?  ตัวเรื่องดำเนินไปด้วยตัวละครหลักอย่าง เลขาสาวคนนึง ที่แอบขโมยเงินของเจ้านายเพื่อจะหนีไปตั้งต้นชีวิตใหม่กับแฟนหนุ่มที่เมืองอื่น ซึ่งหลังจากที่เธอขโมยเงินมาแล้ว เธอก็ได้ทำการหลบหนีทันที ซึ่งในระหว่างทางก็จะเจอกับเรื่องราวชวนให้คนดูอย่างเราลุ้นตามว่า สรุปแล้ว เธอจะรอดไหม 

 

ซึ่งจะบอกว่าดูเหมือนเส้นเรื่องจะเป็นเส้นตรงมาตลอดแบบนี้ แต่บทเค้าจะหักมุมที Hitchcock ก็ทำได้แบบแยบยล โดยเฉพาะตอนจบของเรื่องนะ บอกเลยว่าอึ้ง อึ้ง และก็อึ้ง 😂 

 


 

 

✔️ เรื่องที่ 3 : The Game

 

เคยดูหนังที่ให้ฟีลเหมือนถูกตบหน้าตอนจบไหมทุกคน ถ้ายังไม่เคย ลองไปดูเรื่องนี้ อาจจะมี 'มอ หอ' กันได้55555  อย่างเราตอนที่ดูก็ไม่ได้คาดหวังอะไร ฟีลดูไปเรื่อยๆ แล้วตอนนั้นดูกับเพื่อนด้วยไง (แต่เราเป็นคนเสนอเรื่อง)   แรกๆ ทรงกำลังดี แต่พอหนังจบปุ๊บ เพื่อนโกรธเลยแม๊... เพราะหนังปั่นหัวแบบทำให้หัวร้อนเลย 😂 

 

แต่ก่อนที่จะไปดูกัน มาดูเรื่องย่อคร่าวๆ ของเรื่องนี้กันก่อน ระหว่างอ่านลองจินตนาการกันดูนะ ว่ามันจะพอทำให้เราค้างจังหวะไหนได้บ้าง The Game เป็นเรื่องราวของนักธุรกิจหนุ่มคนหนึ่งที่ร่ำรวยมากๆ เรียกได้ว่ามีทุกอย่างครบ ไม่ต้องการอะไรในชีวิตนี้อีกแล้ว จนวันเกิดปีที่ 48 ของเค้าที่กำลังจะใกล้เข้ามา น้องชายก็ได้มอบของขวัญชิ้นหนึ่งให้ พร้อมกับบอกอีกว่ามันจะทำให้ชีวิตของพี่สนุกขึ้น

 

อ่ะ ไอ้เราก็เพ่งเล็งไปที่ของขวัญชิ้นนั้นโดยอัตโนมัติ แต่ใครจะไปรู้ล่ะ ว่าบทสรุปของมันจะมีอะไรมากกว่านั้น มากแบบชนิดที่ว่าเกินกว่าจะรับไหว555555 กระซิบว่าตอนนี้มีให้ดูใน Netflix อยู่นะ ใครอยากดูไปดูกันโลด

 


 

 

✔️ เรื่องที่ 4 : ร่างทรง

 

ใครยังไม่ได้ดู ไปดูตอนนี้ยังทันนะ  😂  เพราะหนังผีเรื่องนี้ว่ากันว่าเป็นหนังผีที่มาแรงที่สุดในตอนนี้ พล็อตคร่าวๆ ว่าอึ้งแล้ว ความรู้สึกหลังดูหนังจบก็ว่าอึ้งไม่แพ้กัน เล่าคร่าวๆ แบบไม่สปอยล์นะ ร่างทรงนี้เป็นหนังที่ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบของสารคดี มีตากล้องเป็นตัวดำเนินเรื่องหลัก ซึ่งตรงนี้ให้ความรู้สึกเรียลสุดๆ โดยสารคดีที่ว่าเป็นสารคดีเกี่ยวกับการตามติดชีวิตร่างทรง ซึ่งนั่นก็ได้แก่ ป้านิ่ม ผู้เป็นร่างทรงของย่าบาหยัน 

 

โดยสารคดี (หรือหนังเรื่องนี้) จะพาเราไปตามติดชีวิตของป้านิ่มกันแบบละเอียดยิบ พร้อมกับบทสัมภาษณ์สั้นๆ บางช่วง อ่านถึงตรงนี้หลายคนอาจจะไม่รู้สึกถึงความหวือหวาหรือน่ากลัวอะไร ถ้าสารคดีเรื่องนี้ไม่ได้ชักนำให้เราไปรู้จักกับตัวละครหลานของป้านิ่มอย่าง มิ้งค์

 

เหตุการณ์หลังจากที่ป้ากับหลานได้มาเจอกัน รวมถึงคนดูอย่างเราที่ได้เห็นมิ้งค์เป็นครั้งแรก นั้นนำพาเหตุการณ์แปลกประหลาดรวมถึงน่าขนลุกตามมาอีกเป็นกอง โดยเฉพาะตอนจบที่นอกจากจะทำให้อ้าปากค้างกันแล้ว ยังมีอะไรให้พวกเราได้ไปคิดต่อกันอีกไม่น้อยเลยล่ะ

 


 

 

✔️ เรื่องที่ 5 : The Mist

 

ฮั่นแน่... รู้นะว่ากำลังลุ้นกันอยู่ใช่ไหมว่าจะมีหนังเรื่องนี้หรือเปล่า  จะไม่มีได้ยังไงล่ะ เพราะตอนจบของหนังเรื่องนี้ขึ้นแท่นตำนานของความ เฮ้ย อิหยังวะ เชียวนะ 😂 

 

เล่าคร่าวๆ สำหรับคนที่ยังไม่ดู The Mist เป็นเรื่องราวของเมืองๆ นึงที่ถูกปกคลุมด้วยหมอกหนา ซึ่งนั่นไม่ใช่หมอกธรรมดาแบบที่หลายคนเข้าใจ แต่ภายใต้หมอกนั้นยังมีอสูรกาย หรือบางคนเรียกกันว่าสัตว์ประหลาดที่พร้อมจะคร่าชีวิตทุกคนอยู่ และดูเหมือนว่าแหล่งกบดานแห่งเดียวที่พอจะพึ่งพาได้ก็ได้แก่ ซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง ที่สลัดคราบตัวเองจากร้านค้ามาเป็นสถานที่หลบภัยที่อัดแน่นเต็มไปด้วยเหล่าผู้รอดชีวิต

 

ซึ่งจะบอกว่าหนังทำได้ลุ้นระทึกมากจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นบรรดาสัตว์ประหลาดที่พยายามจะบุกเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต รวมไปจนถึงตอนจบ ที่หลายคนดูแล้วอยากจะโผล่หน้าเข้าไปในจอ แล้วกระชากตัวละครมาเขย่าด้วยความหงุดหงิด เอ้า ถ้าอยากรู้ว่าตอนจบที่ว่าเป็นยังไง ไปดูกันต่อเอาเองน้าาา 

 


 

 

✔️ เรื่องที่ 6 : Shutter Island

 

จำภาพประกอบด้านบนเอาไว้ดีๆ เพราะตอนจบของหนังเรื่องนี้จะตลบหลังม้วนตัวหลอกคนดูอย่างเราแบบเงิบหนักมาก (อ่ะ เพ่งกันใหญ่เชียวน้าาา) สำหรับหนังเรื่องนี้เราจะไปตามติดชีวิตของนักสืบ  ที่จะต้องเดินทางไปยังเกาะแห่งหนึ่งที่มีข่าวลือว่ามีคนหายตัวไปอย่างลึกลับ ซึ่งทุกคนลองนึกภาพตามนะ เกาะที่ว่านั้นเป็นเกาะที่ตั้งอยู่กลางทะเล คือเอาง่ายๆ ถ้าเป็นเรา สิ่งแรกที่เราจะคิดก็คือ หรือคนนั้นจมน้ำเสียชีวิตไปแล้ว

 

แต่ด้วยความที่เป็นนักสืบอะทุกคน การจะตัดสินอะไรได้สักหนึ่งอย่างก็ต้องงัดเหตุและผล รวมถึงหลักฐานมาประกอบด้วยเสมอ ซึ่งนั่นเป็นจุดที่ทำให้หนังเรื่องนี้น่าสนใจ และขอย้ำกันอีกที สังเกตภาพประกอบด้านบนไว้ดีๆ เพราะนี่คือคำใบ้ที่ดีของหนังเรื่องนี้เลยแหละ (นี้เราไม่ได้สปอยล์อะไรใช่ไหมนะ คริๆ) 😉 

 


 

 

✔️ เรื่องที่ 7 : Forgotten

 

ถ้าชอบหนังที่มีกลิ่นอายคล้ายคลึงกับ Shutter Island เราขอผายมือมาที่หนังลำดับที่ 7 อย่าง Forgotten สารภาพเลยว่าที่ทางเราดู เหตุผลหลักๆ เลยก็เพราะคังฮานึล แต่ๆๆ ใครจะไปรู้ว่าหนังมันจะสนุกขนาดนี้ คือระทึกไม่ไหว ทำเอาคนดูเงิบจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ ก็ต้องยกให้เรื่องนี้เค้าเลยแหละ

 

สำหรับเรื่องย่อของ Forgotten นั้นเป็นเรื่องของครอบครัวๆ หนึ่ง ที่ได้ย้ายเข้าไปยังบ้านหลังใหม่ โดยตัวหนังจะให้เราไปโฟกัสที่ลูกชายคนเล็กของครอบครัวเป็นหลัก คือนิสัยคร่าวๆ เค้าเป็นคนซื่อๆ ขยัน และมีความมุ่งมั่นตั้งใจกับการอ่านหนังสือสอบมากๆ เค้ามีพี่ชายคนโตอยู่ 1 คน ซึ่งถือว่าเป็นไอดอลเลยก็ว่าได้ พี่ชายเป็นแบบฉบับให้กับเค้าได้ทุกอย่าง ทั้งเรียนเก่ง ประสบความสำเร็จในชีวิต แต่ก็มีอะไรบางอย่าง ที่เราไม่รู้หรอกนะว่าน้องชายสัมผัสได้ไหม แต่ทางเราสัมผัสได้ชัดเจนมากว่าตัวละครพี่คนนี้ ไม่น่าไว้วางใจ !

 

ส่วนจะไม่น่าไว้วางใจยังไง เราก็ไม่อยากจะใส่สีตีไข่ เพื่อนๆ ลองไปดูกันเอาเอง นอกจากตอนจบจะหักมุมทำเอาอึ้งแล้ว จะบอกว่าโทนของหนังคืออย่างกับหนังผี มันดาร์กๆ ทึมๆ บอกไม่ถูก ถ้าใครยังไม่เคยดู สามารถเข้าไปดูได้ที่ Netflix เลยจ้า

 


 

 

✔️ เรื่องที่ 8 : Gone Girl

 

หนังอีกเรื่องที่ขึ้นชื่อเรื่องหักหลังคนดูแบบเจ็บแสบ  ซึ่งเราเชื่อว่าน้อยคนนะที่ยังไม่เคยดู เพราะหนังเรื่องนี้เป็นกระแสในบ้านเราช่วงนึงมาแล้ว เรื่องย่อของหนังเรื่องนี้คร่าวๆ ก็คือ เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่งที่พบว่าภรรยาของเค้าหายตัวออกไปจากบ้านอย่างลึกลับ เค้าเลยจัดการออกตามหา และไม่ใช่แค่ตัวของเค้านะ ดันกลายเป็นว่าสื่อมวลชนต่างๆ ก็ออกมาช่วยตามหาด้วยเช่นกัน 

 

แต่ดูเหมือนว่าจากที่ดูเหมือนเหตุการณ์จะดำเนินไปได้สวย กลับมาพีคตรงตอนท้ายๆ เรื่องที่เราขอยกคำพูดตอนต้นมาใช้อย่าง การหักหลังคนดูแบบเจ็บแสบ ดูแล้วต้องมีรู้สึกอึดอัด หรือหงุดหงิดเกิดขึ้นมาบ้างแหละ ใครยังไม่ดูลองไปดูกันนะ รับรองว่าไม่ผิดหวัง สมกับที่กวาดรางวัลมาเพียบจริงๆ

 


 

 

✔️ เรื่องที่ 9 : Sweet & Sour

 

ไม่รู้ว่าจะใช้คำว่าม้ามืดได้มั้ย แต่ทางเราชอบ เลยขอยกมาป้ายยากันอีกเรื่อง 😂  สำหรับ Sweet & Sour เรื่องนี้มู้ดแอนด์โทนของหนังคือมาแนวรักหวานแหววแจ๋วสุดๆ  จนไม่คิดเลยว่าตอนจบจะทำร้ายคนดูอย่างเราได้ขนาดนี้

 

Sweet & Sour เป็นเรื่องของหนุ่มสาวคู่หนึ่ง ซึ่งก็ตามวิถีชีวิตของคู่รักทั่วไปนั่นแหละ ก็มีทั้งเวอร์ชันรักกันหวานชื่นนนน งอนบ้าง ทะเลาะบ้าง จนผลสุดท้ายมีจุดพีคบางอย่างที่ทำให้พระเอก - นางเอกของเรื่องต้องตัดสินใจว่าจะเอายังไงกับความรักครั้งนี้ต่อไป  และนั่นแหละ จุดเซอร์ไพร์สของเรื่องมันอยู่ตรงนี้ อ่ะ เราบอกใบ้ให้ว่าจับตาดูกันดีๆ เพราะตั้งแต่ต้นจนจบมันมีความเกี่ยวข้องอะไรบางอย่างอยู่ ส่วนจะคืออะไรต้องไปติดตามดูกันเอาเอง !

 


 

 

✔️ เรื่องที่ 10 : Inception

 

บอกได้คำเดียวว่า ล้ำไม่ไหว !  กับหนังแนวแอคชั่นผสมไซไฟที่เล่นกับจิตวิทยาสุดๆ ที่บอกว่าเล่นกับจิตวิทยานั้นไม่ได้หมายถึงเนื้อหาในเรื่องอย่างเดียวนะ แต่ยังหมายถึงการเล่นกับจิตวิทยาของคนดูอย่างเราด้วยเช่นกัน เรื่องย่อคร่าวๆ ของ Inception นี้จะเป็นเรื่องราวของอาชีพ โจรกรรมความคิด ซึ่งการโจรกรรมที่ว่าไม่ใช่การเอาอาวุธไปจี้เพื่อให้คนๆ หนึ่งยอมคายความลับออกมานะ แต่มันคือการโจรกรรมทางจิต (ล้ำไม่ล้ำพูดดด) โดยที่มี 'ครอบครัว' เป็นหลักประกัน

 

อ่านแค่นี้ต้องบอกเลยว่าหนังดูมีความซับซ้อน ดูแล้วจะงงหรือเปล่า กำลังใจเดียวที่เราจะให้กับทุกคนก็คือ จงตั้งใจดู เพราะทุกดีเทลที่หนังพยายามจะสื่อสารนั้นมีความเกี่ยวเนื่องกันทั้งนั้น รวมไปถึงการเล่นกับจิตวิทยาเป็นอะไรที่ในความรู้สึกของเรานะ มองว่ามันสามารถหลอกกันได้ แต่ไม่รู้ว่าสุดท้ายปลายทางของเรื่องนี้จะไปจบที่ตรงไหน แล้วจังหวะไหนที่หนังจะตลบหลังคนดูอย่างเรา อันนี้ก็ต้องไปตามดูต่อกันเอาเองน้าา 

 


 

จากบรรดาหนังที่ป้ายยากันไปเรียกได้ว่ามีครบทุกรส ทุกอารมณ์จริงๆ ไม่ว่าจะแนวล้ำๆ อย่าง Inception ก็มี, หนังรักหวานกรุบ รวมไปจนถึงหนังระทึกขวัญก็มี แต่ใดใดทุกเรื่องก็คือทำเอาคนดูหลายคนอ้าปากค้างกันมานักต่อนักแล้ว ใครยังไม่ได้ตามเก็บเรื่องไหน อย่าลืมเก็บให้ครบ ทางเรารับประกันความสนุก คริๆ อย่างบางเรื่องก็มีให้ดูใน Netflix ด้วย ใครที่เป็นสมาชิกอยู่ก็ดูได้แบบชิลๆ ส่วนใครมีหนังแนวๆ นี้เรื่องไหนที่อยากจะป้ายยาก็แนะนำกันเข้ามาโล้ด เดี๋ยวทางเราไปดูตามมม

  • avatar writer
    โดย imnat
    เสพติดการอ่าน & ดูหนัง ตอนนี้อยู่ในระหว่างการทำตามความฝันให้สำเร็จ :)
แสดงความคิดเห็น