ปอบ ตัวเต็งแห่งจักรวาลผีไทย กับความน่ากลัวที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก

avatar writer
โดย : imnat
avatar writer17 ต.ค. 2566 avatar writer188
ปอบ ตัวเต็งแห่งจักรวาลผีไทย กับความน่ากลัวที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก

 

ใกล้จะถึงช่วงเทศกาลวันปล่อยผีของชาวยุโรปกันแล้ว ในส่วนคนไทยอย่างเราถึงแม้ว่าจะไม่ได้ข้องเกี่ยวกับเทศกาลนี้โดยตรง แต่ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวันที่สร้างสีสันให้กับพวกเราได้ไม่น้อย

 

และเมื่อเอ่ยถึงเทศกาลวันฮาโลวีน หลายคนคงจะนึกถึงผีจากฝั่งยุโรปกันเสียเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นผีดิบ แวมไพร์ อัศวินผีหัวขาด ผีแม่ชี ฯลฯ สำหรับบทความนี้เราเลยขอแทงสวน หันมาพูดถึงผีไทยที่มีดีกรีความน่ากลัวไม่แพ้ใครกันบ้าง ซึ่งหนึ่งในตัวเต็งที่เรามั่นใจว่าหลายคนน่าจะนึกถึงกันเป็นอันดับต้น ๆ นั่นก็คือ ผีปอบ

 

 

*หมายเหตุ : บทความนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน


 

 

ปอบ ตำนานความหลอนที่มีต้นตอมาจากความเชื่อ

 

ปอบ (น.) ผีชนิดหนึ่งเชื่อกันว่าสิงอยู่ในตัวคน

กินตับไตไส้พุงจนหมดแล้วก็ออกไป คนนั้นก็ตาย

 

- พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 -

 

 

เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยผ่านหูผ่านตากับเรื่องราวของปอบกันมาแล้วหลายรูปแบบ บ้างก็ได้ยินมาจากเรื่องเล่าของปู่ ย่า ตา ทวด บ้างก็ได้เห็นมาจากหนังหรือไม่ก็ละคร หรือบ้างก็ได้ฟังมาจากรายการเล่าเรื่องผี สารพัดที่มา สารพัดเรื่องราว แล้วต้นกำเนิดของปอบจริง ๆ มาจากไหน จะเหมือนเรื่องราวและคำจำกัดความที่เขาว่ากันไว้หรือเปล่า ?

 

ปอบ เป็นผีชนิดหนึ่งที่มีต้นกำเนิดมาจากทางภาคอีสานของไทย โดยจุดเริ่มต้นจริง ๆ เชื่อกันว่ามาจากดวงจิตที่ยังคงยึดติดของปอบมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ โดยดวงจิตที่ว่านี้สามารถไปเข้าสิงร่างใครก็ได้ (ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย สัตว์หรือว่าคน) แถมยังสามารถโยกย้ายร่างได้อย่างอิสระ 

 

และนอกจากดวงจิตที่ยังคงยึดติดแล้ว วิธีการที่จะทำให้คน ๆ หนึ่งกลายมาเป็นปอบได้ เชื่อกันว่ามีอยู่ด้วยกัน 2 วิธี คือ

 

  1. การสืบทอดจากบรรพบุรุษที่เป็นเชื้อสายของปอบ (อันนี้เป็นความตั้งใจที่จะเป็นปอบ)

  2. มาจากการผิดครูของคนที่มีวิชาอาคม แล้ววิชาอาคมนั้นได้ไหลย้อนกลับเข้าตัว หรือที่ทางภาคอีสานเรียกกันว่า คะลำ (อันนี้เป็นความไม่ตั้งใจที่จะเป็นปอบ)

 

ข้อสังเกตของคนที่โดนปอบเข้า หลัก ๆ คือจะชอบกินของสุก ๆ ดิบ ๆ แถมยังกินในปริมาณที่มากกว่าปกติ (เลยเป็นที่มาของคำอุปมาที่เอาไว้ใช้เรียกคนที่กินเยอะว่า ปอบลง) รวมไปถึงอาการพร่ำเพ้อ พูดจาไม่รู้เรื่อง บางคนอาจจะมีนิสัยที่ผิดแผกไปจากเดิม ชนิดที่ว่าเปลี่ยนจากหน้ามือกลายเป็นหลังมือ โดยวิธีที่จะขับไล่ปอบได้ก็จะมีตั้งแต่การให้คนที่มีวิชาอาคมมาไล่ ไปจนถึงการขับไล่คนที่เป็นปอบออกจากพื้นที่ จนกว่าปอบที่สิงอยู่จะหลุดออกจากร่าง หรือไม่ก็ตายไปพร้อมกับเจ้าของร่าง

 

 


 

เปิดจักรวาลปอบมัลติเวิร์ส

 

สำหรับความเชื่อเรื่องปอบในแต่ละพื้นที่ ต่อให้จะอยู่ในภาคเดียวกันก็จริง แต่คนในพื้นที่นั้น ๆ ก็จะมีความเชื่อเรื่องปอบที่แตกต่างกันออกไป แต่ถ้าอิงจากความเชื่อของคนส่วนใหญ่ ปกติแล้วปอบจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 ไทป์ ดังนี้

 

  1. ปอบธรรมดา คือการที่คน ๆ หนึ่งมีดวงจิตของปอบอยู่ในร่าง เมื่อเจ้าของร่างตาย ปอบก็จะตายตามไปด้วย

  2. ปอบเชื้อ เป็นการสืบทอดดวงจิตของปอบจากรุ่นสู่รุ่น ที่มีมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ

  3. ปอบแลกหน้า คือคนที่โดนปอบเข้าแล้วไม่ยอมบอกความจริงว่าตัวเองเป็นปอบ แถมยังโยนความผิดไปให้คนอื่น

  4. ปอบกึกกัก คือปอบที่ไม่ยอมบอกว่าใครเป็นคนเลี้ยงดวงจิตของตัวเอง ทำให้เวลาขับไล่ปอบประเภทนี้จะทำได้ยากมาก เพราะไม่รู้ต้นสายปลายเหตุที่แท้จริง

 

นอกจากความเชื่อเรื่องปอบเหล่านี้แล้ว ยังมีปอบประเภทอื่น ๆ  อย่าง ปอบหมาดำ ที่ดวงจิตของปอบได้แฝงอยู่ในร่างของหมา (มีความเชื่อทั้งในแถบภาคอีสานและภาคเหนือ) โดยปอบหมาดำจะเป็นปอบที่ออกไปหาอาหารแทนนายของมัน เมื่อหมาอิ่ม เจ้าของก็จะอิ่ม แต่ถ้าหมาเจ็บ เจ้าของก็จะเจ็บ

 

ห่าก้อม อีกหนึ่งความเชื่อที่ว่ากันว่าเป็น โค-ตะ-ระ ปอบ คือเป็นปอบที่มีวิชาขั้นสูงสุด ไม่จำเป็นจะต้องเข้าสิงร่างเพื่อไปกัดกินอวัยวะใคร เพราะแค่วิ่งชนก็สามารถทำให้คนที่โดนชนตายได้ทันที แถมยังปรากฏตัวได้ทั้งช่วงเวลากลางวันและกลางคืน ไม่เหมือนปอบธรรมดาที่จะต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ ออกมาหาอาหารได้แค่ช่วงเวลากลางคืนเท่านั้น แต่ห่าก้อมสามารถแฝงตัวอยู่กับคนทั่วไปได้ตั้งแต่เวลากลางวันเลย

 

 

 

 

นอกจากนี้ยังมีความเชื่ออีกด้วยว่า ปอบ เป็นผีสายยักษ์ ที่อยู่ในความดูแลของท้าวเวสสุวรรณ หรืออธิบดีแห่งอสูร ซึ่งความเชื่อนี้มีความเกี่ยวโยงกับความเชื่อทางฝั่งตะวันตกของ Ogre (โอเกอร์) สัตว์ประหลาดในเทพนิยายที่มีลักษณะคล้ายคน แต่มีรูปร่างสูงใหญ่เหมือนยักษ์ มีนิสัยดุร้าย และชอบกินคนเป็นอาหาร

 

โดยโอเกอร์ ปรากฏตัวครั้งแรกในวรรณกรรมของนักเขียนชาวฝรั่งเศส ที่ได้อ้างอิงตัวละครตัวนี้มาจากเทพปกรณัมโบราณ ก่อนที่หลังจากนั้นจะมีการหยิบเอาโอเกอร์มาถ่ายทอดในเวอร์ชันต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของหนังหรือว่าการ์ตูน อย่างหนึ่งในเวอร์ชันที่ประสบความสำเร็จมากก็ได้แก่ Shrek (เชร็ค) ที่สลัดคราบตัวร้ายในปกรณัม ก่อนจะผันตัวกลายเป็นยักษ์เขียวแสนใจดี

 

 

Ogre (โอเกอร์) มัลติเวิร์สของปอบในอีกจักรวาล

 

 

ยังไม่จบแค่นั้น แต่มัลติเวิร์สของปอบยังได้ลามไปถึง วงการตลาดหุ้น กับการใช้เรียก Prop Trading หรือนักเทรดที่ถูกว่าจ้างให้มาดูแลเงินทุนของบริษัทใดบริษัทหนึ่ง ที่คนในวงการหุ้นจะมีศัพท์แสลงเอาไว้ใช้เรียกนักเทรดประเภทนี้ว่า ปอบหยิบ โดยเป็นการเพี้ยนเสียงมาจากคำว่า พร็อป ส่วนหยิบก็มาจากการอาศัยจังหวะในการทำกำไรให้กับบริษัทที่ตัวเองดูแลอยู่ เรียกได้ว่าต่อให้จักรวาลจะไม่ได้คู่ขนานเสียทีเดียว แต่ก็สามารถถูกจับมาโยงกันได้  (เก่งจริง ๆ เล๊ย.. คนต้นคิด) 

 

 


 

ปอบหยิบ หยิบอะไร แล้วทำไมต้องหยิบ ?

 

ไหน ๆ ก็พูดถึง ปอบหยิบ ขึ้นมา ทำให้เราอดนึกถึงตัวละครปอบหยิบจากในหนังไม่ได้ แถมตัวละครตัวนี้ยังมีซิกเนเชอร์ที่มาคู่กันอย่างการทำมือหยิบ ไม้ตายที่ปอบจะแสดงก่อนจะออกโรงวิ่งไล่เหยื่อ หรือจะเป็นท่าทางการแลบลิ้น เลียปาก จนทำให้เราเกิดความสงสัยว่า ปอบหยิบที่ว่าคือหนึ่งในมัลติเวิร์สของปอบใช่ไหม แล้วพฤติกรรมต่าง ๆ ที่พูดถึงไป ใช่พฤติกรรมของคนที่เป็นปอบจริง ๆ หรือเปล่า ?

 

 

ใบปิดบ้านผีปอบ ภาค 1 ภาพจาก หอภาพยนตร์

 

 

ปอบหยิบ เป็นการรวมตัวกันของคำว่า ปอบ กับ ทองหยิบ ที่เป็นชื่อของตัวละครจากหนังเรื่อง บ้านผีปอบ ที่ได้ดัดแปลงมาจากหนังสือของเหม เวชกร ที่มีชื่อว่าปีศาจของไทย โดยตัวละคร ปอบ (ทอง) หยิบนี้ ได้ปรากฏตัวตั้งแต่บ้านผีปอบ ภาค 2 เป็นต้นมา แถมบทนี้ยังได้สร้างชื่อให้กับผู้ที่รับบทอย่าง หน่อย ณัฐนี ให้ได้รับการพูดถึงในฐานะเจ้าแม่ผีปอบด้วย 

 

ในส่วนของท่าทางการแสดงออกของตัวละครปอบหยิบกับซิกเนเชอร์ทั้งหลายแหล่นั้น เป็นไอเดียของผู้กำกับอย่าง สายยนต์ ศรีสวัสดิ์ ที่อยากจะสร้างภาพจำให้กับตัวละครปอบหยิบ เพราะความตั้งใจเดิมของเขาไม่ได้อยากให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังผีที่น่ากลัวไปเสียทีเดียว อยากให้มีความตลกขบขันสอดแทรกไปกับเนื้อหาด้วย นั่นเลยกลายเป็นที่มาของมุกตลกหนีลงตุ่ม กับเทคนิคการถ่ายทำแบบง่าย ๆ แต่กลับกลายเป็นที่จดจำและสร้างชื่อให้หนังเรื่องนี้ได้รับการพูดถึง จนมาถึงตอนนี้ได้ปาเข้าไป 14 ภาคเป็นที่เรียบร้อย แถมบ้านผีปอบ ภาค 2 ปฐมบทของตัวละครปอบหยิบ ยังได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนมรดกภาพยนตร์ของชาติ ในปี 2558 หลังออกฉายมาตั้งแต่ปี 2532

 

 

หน่อย ณัฐนี กับฉากเปิดตัวปอบหยิบในบ้านผีปอบ ภาค 2 ภาพจาก หอภาพยนตร์

 


 

จากความเชื่อ สู่ความน่ากลัวที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก

 

หากใครจะมองว่าผีปอบเป็นหนึ่งใน ซอฟต์ พาวเวอร์ ที่สร้างเอกลักษณ์ให้กับประเทศไทย ผ่านการบอกเล่าเรื่องราวความเชื่อที่สะท้อนออกมาในรูปแบบของผี เช่นเดียวกับผีไทยตนอื่น ๆ อย่างผีนางรำ ที่เป็นอีกหนึ่งตัวเต็งแห่งจักรวาลผีไทย ที่นอกจากจะสร้างความน่ากลัวให้กับคนไทยได้แล้ว ความน่ากลัวนี้ยังได้โกอินเตอร์จนเป็นที่เลื่องลือในหมู่ชาวต่างชาติด้วย

 

และในบรรดาชาวต่างชาติที่รู้จัก ส่วนหนึ่งน่าจะรู้จักกันผ่านเกม โฮมสวีตโฮม ที่ผีนางรำเป็นหนึ่งในผีที่มีบทบาทสำคัญมากในเกม และนอกจากผีนางรำแล้ว โฮมสวีตโฮม ยังได้บรรจุตัวละครของผีไทยเอาไว้เยอะมาก อาทิ ผีปอบ ผีกระสือ ผีแม่นาก ผีกุมารทอง ผีเปรต แถมเนื้อหาของเกมยังได้รวบรวมเอาความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับคนไทยเอาไว้เพียบ

 

 

 

 

นอกจากการรู้จักผีไทยผ่านเกมแล้ว หนัง ละคร รวมไปถึงรายการที่นำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับผี ก็เป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันที่ทำให้ความเชื่อเกี่ยวกับผีตนนั้น ๆ ได้เป็นที่รู้จักกันมากขึ้น ไม่ใช่แค่คนต่างชาติอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงคนไทยเองด้วย

 

เพราะบางความเชื่ออาจจะกระจุกตัวอยู่แค่ในกรอบเล็ก ๆ อย่างก่อนหน้าที่จะมีตัวละครของผีปอบ ถ้าถามคนกรุงเทพฯ ณ ตอนนั้น เชื่อว่าน้อยคนมากที่จะรับรู้ถึงการมีอยู่ของผีตนนี้ แต่หลังจากที่หนังเรื่องบ้านผีปอบเข้าฉาย และได้ขยายฐานการรับรู้มาเรื่อย ๆ กลับกลายเป็นว่าทุกวันนี้น่าจะไม่มีใครไม่รู้จักผีปอบกันแล้ว และไม่ใช่แค่การรู้จักผ่านชื่อเท่านั้น แต่บางคนอาจถึงขั้นรู้รายละเอียดความเป็นมาเกี่ยวกับผีตนนั้นกันเลย

 

ดังนั้นถ้าให้พูดถึงความน่ากลัวของจักรวาลผีไทย บอกเลยว่าน่ากลัวไม่แพ้จักรวาลผีของชาติไหนแน่นอน ซึ่งสาเหตุที่บิลท์ความน่ากลัวให้กับมันได้ นั่นก็เป็นเพราะการถูกหยิบมาเชื่อมโยงเข้ากับความเชื่อที่มีอยู่จริงในสังคมไทย เลยเป็นเหตุให้ผีไทยมีศักยภาพที่จะท้าชนความน่ากลัวกับผีจากประเทศอื่นได้ อย่างน้อยก็ได้ผู้นำทัพอย่างห่าก้อม หรือโค-ตะ-ระ ปอบ ที่แม้แต่ผีไทยด้วยกันเองก็ยังกลัว

 

 


 

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ได้ที่นี่

 

 

แหล่งข้อมูลอ้างอิง : wikipedia 1 2 3 และอมรินทร์ทีวี

  • avatar writer
    โดย imnat
    เสพติดการอ่าน & ดูหนัง ตอนนี้อยู่ในระหว่างการทำตามความฝันให้สำเร็จ :)
แสดงความคิดเห็น