Vivienne Westwood Orb จากไอเดียสุดล้ำสู่อัตลักษณ์และจิตวิญญาณของแบรนด์

 

 

ถ้าพูดชื่อแบรนด์ Vivienne Westwood สิ่งแรกที่หลายคนนึกถึง คืออะไร ?

คุณป้าวิเวียน เวสต์วูดตัวแม่แฟชั่นพังก์ ?

เสื้อผ้าแนวพังก์ที่ดูเหมือนจะใส่ไม่ได้จริง ?

หรือโลโก้ลูกโลกที่มีวงแหวนดาวเสาร์ ?

 

สำหรับเราแล้วสิ่งแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวก็คงหนีไม่พ้น โลโก้ของแบรนด์ ที่มีลักษณะคล้ายลูกโลกเล็กๆ ซึ่งบางคนก็มองเป็นดาวเสาร์เพราะว่ามีวงแหวนคล้ายกับดาวเสาร์ แต่รู้หรือไม่ว่าโลโก้อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์นั้นมีความหมายและ กิมมิกเล็กๆ  ซ่อนอยู่ ! 

 

---

 

โลโก้ Vivienne Westwood ต้นกำเนิดจากไอเดียสุดล้ำที่หลายคน "ยากจะเข้าถึง"

 

ถ้าจะพูดถึงที่มาของโลโก้ที่เราคุ้นตากันดีของแบรนด์นี้ ก็ต้องเล่าย้อนกลับไปยังปี 1985-1986  ช่วงเวลาประมาณ 1 ปีหลังจากที่วิเวียน เวสต์วูดได้เลิกรากับ Malcom Mclaren "World's End" ร้านเสื้อผ้าที่ทั้งคู่เปิดร่วมกันต้องปิดตัวลงพร้อมกับการปิดฉากความรัก วิเวียนได้เดินทางไปยังอิตาลี โดยได้รับความช่วยเหลือจาก Elio Fiorucci ดีไซน์เนอร์ชาวอิตาลี เจ้าของแบรนด์ Fiorucci

 

ในระหว่างที่ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น เธอก็ตัดสินใจเลือกที่จะเดินทางต่อบนเส้นทางสายแฟชั่น โดยได้รังสรรค์คอลเลกชันที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก การแต่งกายของราชวงศ์ ที่ผสมผสานกับความเป็นแฟชั่นแห่งอนาคตเข้าด้วยกัน ซึ่งเธอก็ได้ยึดเอาแรงบันดาลใจนี้ เป็นคอนเซ็ปต์หลักของคอลเลกชันนี้ด้วย

 

ตัวอย่างหนังสือและนิตยสารเกี่ยวกับดวงดาวและอวกาศ

 

สำหรับที่มาของคอนเซ็ปต์สุดล้ำที่คนในยุคสมัยนั้นยากจะเข้าใจ มีเหตุมาจากการที่เธอนั้นอ่านนิตยสารเกี่ยวกับดาราศาสตร์ ที่ข้างในเต็มไปด้วยภาพถ่ายของหลุมดำในอวกาศ รวมไปถึงภาพถ่ายของวงแหวนดาวเสาร์ ซึ่งลูกชายของเธอได้สะสมไว้ และได้มอบให้กับวิเวียนก่อนที่เธอจะเดินทางไปยังอิตาลีนั่นเอง

 

เสื้อ Jumper Deep Sky 

 

นอกจากดาราศาสตร์แล้ว หนึ่งในไอเทมของคอลเลกชันนี้ที่วิเวียนออกแบบและวางแผนตัดเย็บ นั่นก็คือ เสื้อถักนิตติ้ง ที่เธอได้แอบจินตนาการไว้ว่า เสื้อตัวนี้เหมาะกับเป็นเสื้อที่ เจ้าฟ้าชายชาร์ล สวมใส่ในวันพักผ่อนสบายๆ ดังนั้นในการออกแบบเสื้อตัวดังกล่าว เธอจึงได้แรงบันดาลใจจาก เครื่องราชอิสริยาภรณ์  ต่างๆ ที่คิดว่าเจ้าชายอังกฤษพึงมี มาเป็นองค์ประกอบของคอลเลกชันนี้ ไม่ว่าจะเป็น...

 

• สัญลักษณ์กริฟฟอน สัตว์ในเทพนิยายครึ่งสิงโต ครึ่งนกอินทรี
• ตราแผ่นดินของสหราชอาณาจักร (Coat of arms) หรือสัญลักษณ์ประจำสถาบัน 
• ดอกธิสเซิล (The Thistle) ดอกไม้ประจำชาติของสกอตแลนด์
• กระเทียมต้น (Leek) สัญลักษณ์ประจำแคว้นเวลส์ ซึ่งในปัจจุบันแคว้นเวลล์มีสัญลักษณ์ประจำแคว้นถึง 2 อย่างด้วยกัน คือ ดอกแดฟโฟดิลและกระเทียมต้น
• ต้นแชมร็อก (Shamrock) สัญลักษณ์ประจำประเทศไอร์แลนด์ 
• โซ่, มงกุฏ, และลูกโลก จากมงกุฏเพชร 

 

จากสัญลักษณ์ต่างๆ ที่สื่อถึงความดั้งเดิม ความเป็นขนบธรรมเนียมของราชวงศ์ รวมถึงความชอบส่วนตัว วิเวียนจึงตัดสินใจที่จะนำวงแหวนของดาวเสาร์ ที่เคยเห็นจากนิตยสารเกี่ยวกับอวกาศ เข้ามาเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของคอลเลกชันนี้ และนำมาใส่ในสัญลักษณ์ลูกโลกที่เธอออกแบบไว้ด้วย เหตุผลเพราะต้องการเพิ่มเติมความเป็นอนาคตหรือความทันสมัยตามคอนเซ็ปต์หลักของคอลเลกชันที่เธอวางไว้ตั้งแต่แรก 

 

Vivienne Westwood Orb จึงเป็นการผสมผสานระหว่างสัญลักษณ์ของราชวงศ์อังกฤษ

และสัญลักษณ์จากอวกาศ ที่สื่อถึงแนวคิดหลักของคอลเลกชันได้อย่างชัดเจน

 

 

เมื่อ Carlo D’Amario เพื่อนของวิเวียน (ซึ่งปัจจุบันเป็น CEO ของแบรนด์ Vivienne Westwood) ได้เห็นโลโก้ลูกโลกและผลงานคอลเลกชันนี้แล้วถึงกับบอกเธอเลยว่า โลโก้นี้เหมาะที่จะเป็นโลโก้ประจำตัวของวิเวียน เวสต์วูดที่สุด เพราะแสดงถึงตัวตนและแนวคิดของวิเวียนได้ชัดเจนมาก ซึ่งก็จริงดั่งที่คาร์โลว่าไว้นั่นแหละ เพราะไม่ว่าจะกี่คนออกแบบ (ในช่วงนั้นวิเวียนได้จ้างคนอื่นให้ออกแบบโลโก้ให้ด้วย) ยังไงโลโก้ก็ไม่สื่อถึงจิตวิญญาณได้เท่ากับ เจ้าของแบรนด์เป็นคนออกแบบ จริงมั้ย ?!

 

 

ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา Vivienne Westwood Orb ก็ได้ถูกนำมาใช้เป็น โลโก้ของแบรนด์อย่างเต็มตัว ไม่ว่าจะนำไปใช้กับป้ายฉลากบนเสื้อผ้า นำไปทำเป็นกระดุม ฝาสำหรับขวดน้ำหอม นำไปปรินต์เป็นลายเสื้อหรือลายปักบนเสื้อผ้าคอลเลกชันต่างๆ  รวมไปถึงการนำไปทำเป็นแชนเดอเลียร์ทรง Vivienne Westwood Orb ขนาดใหญ่ เพื่อตกแต่งที่สำนักงานใหญ่ของแบรนด์ และอีกสารพัดสิ่งที่จะสามารถแสดงความเป็นตัวตนของ Vivienne Westwood ลงไปได้

 

---

 

เมื่อ The Orb ไม่ได้มีแค่เพียงโลโก้ลูกโลกของ Vivienne Westwood

 

โลโก้ของ Harris Tweed ผ้าพื้นเมืองของสก็อตแลนด์

 

ถ้าหากว่าใครที่พอจะตามวงการผ้าหรือวงการแฟชั่นอยู่บ้าง อาจจะเกิดความสับสนเล็กน้อยว่า โลโก้ Vivienne Westwood Orb มีความคล้ายคลึงกับโลโก้ที่ใช้การันตีคุณภาพของผ้าอย่าง Harris Tweed ผ้าพื้นเมืองของสกอตแลนด์เป็นอย่างมาก เพราะมีลูกโลก และมีเพชรที่คล้ายคลึงกัน จะแตกต่างกันก็ตรงที่โลโก้ของ Harris Tweed ไม่มีวงแหวน เท่านั้นเอง

 

ภาพเสื้อผ้าจากคอลเลกชัน Harris Tweed  AW ปี 1987-1988 

 

แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้มีดราม่าหรือข้อพิพาทกันแต่อย่างใดนะ เพราะวิเวียน เวสต์วูดถือได้ว่าเป็นดีไซน์เนอร์คนแรกๆ ที่หยิบเอาผ้าลายพื้นเมืองนี้มาเป็นส่วนหนึ่งของวงการแฟชั่น โดย Vivienne Westwood และ Harris Tweed ก็ได้มีโอกาสร่วมงานกันครั้งแรก ในชื่อคอลเลกชันว่า Harris Tweed AW 1987/88 ซึ่งนี่ก็ยังเป็นจุดเริ่มต้นให้ดีไซน์เนอร์หลายๆ คนหันมาสนใจในผ้าพื้นเมืองและอุตสาหกรรมผ้าท้องถิ่นมากขึ้นด้วย เหมือนเป็นการช่วย ชุบชีวิตผ้า Harris Tweed ให้กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง และจนกระทั่งตอนนี้ แบรนด์ Vivienne Westwood ก็ยังคงออกสินค้าที่ทำมาจากผ้า Harris Tweed อยู่ด้วยนะ

 

สินค้าคอลเลกชันปัจจุบันที่ทำมาจากผ้า Harris Tweed

 

---

 

Vivienne Westwood Orb พาสินค้าไลน์ Jewelry ขึ้นเป็นไอเทมยอดฮิตในยุค Y2K

 

ในปัจจุบัน Vivienne Westwood Orb ก็ยังถูกนำมาใช้คอลเลกชันต่างๆ อยู่มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสินค้ากลุ่ม Jewelry ซึ่งนำโลโก้ลูกโลกของวิเวียนไปดีไซน์เป็นเครื่องประดับชิ้นน้อยใหญ่ ได้ออกมาแล้วดูทันสมัย แต่ในขณะเดียวกันก็ยังแฝงไปด้วยกลิ่นอายความย้อนยุคด้วยเช่นกัน มีเครื่องประดับหลายชิ้นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จนสินค้าไลน์ Jewelry ของแบรนด์ได้ถูกกล่าวถึงและกลายมาเป็นอีกหนึ่งสินค้าไฮไลท์ของ Vivienne Westwood ไปโดยปริยาย

 

เหล่า Celebrity กับสร้อย Pearl Necklace ของ Vivienne Westwood

 

และยิ่งตอนนี้กระแสการตีกลับของแฟชั่นเมื่อ 20 ปีที่แล้วอย่าง แฟชั่นสไตล์ Y2k ก็ได้หวนกลับมาครองใจวัยรุ่นยุค Gen Z  จึงทำให้เครื่องประดับของ Vivienne Westwood หลายๆ ชิ้นกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสร้อยคอ Pearl Necklace ในตำนานที่มีจี้เป็นโลโก้ลูกโลกของแบรนด์ ก็กลายมาเป็นที่พูดถึงมากที่สุดชิ้นหนึ่งในช่วงปี 2020-2022  จะเห็นได้จากการที่เหล่าตัวแม่ เซเลบริตี้ทั้งหลาย ได้นำกลับมาใส่จนเป็นกระแสไปทั้งโซเชียล !

 

---

 

ต้องยอมรับเลยจริงๆ ว่า ลูกโลกของ Vivienne Westwood คือ ภาพจำที่ดี ไม่ว่าใครที่เห็นลูกโลกเล็กๆ ใบนี้ก็จะชวนให้นึกถึงแฟชั่นสายพังก์สุดล้ำ ความทันสมัยที่ยังมีกลิ่นอายของความวินเทจ และยังเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงจิตวิญญาณ ตัวตน และความเป็นหัวขบถแห่งวงการแฟชั่นของวิเวียน เวสต์วูดอยู่เสมอ 

 

💖 บทความที่เกี่ยวข้อง

• เปิดประตูสู่อาณาจักร PANDORA จากร้านขายเครื่องประดับ 1 คูหา สู่การเป็น All-Time Favourite ของคนทั้งโลก
• ได้เวลาอัปลุคให้ออกมาปัง ! กับเคล็ด (ไม่) ลับ เลือกเครื่องประดับให้เข้ากับสีผิว
• สะเทือนวงการสายมู ! สร้อยข้อมือเสริมดวงสุดฮิตจากแบรนด์ Ravipa ความมูไม่หาย ใช้ดีไซน์เป็นตัวเสริม

 

แหล่งอ้างอิงข้อมูล : viviennewestwood.com, farfetch.com