“ตัวตึงวงการกิ๊ฟช็อป!” Miniso ร้านสารพัดของกุ๊กกิ๊ก แม้เจอดราม่ารัว ๆ แต่ก็ขยายสาขาไปทั่วโลก

avatar writer
โดย : JINFEB
avatar writer9 มี.ค. 2567 avatar writer187
“ตัวตึงวงการกิ๊ฟช็อป!” Miniso ร้านสารพัดของกุ๊กกิ๊ก แม้เจอดราม่ารัว ๆ แต่ก็ขยายสาขาไปทั่วโลก

“ตัวตึงวงการกิ๊ฟช็อป!” Miniso ร้านสารพัดของกุ๊กกิ๊ก แม้เจอดราม่ารัว ๆ แต่ก็ขยายสาขาไปทั่วโลก

 

👀 นาทีนี้คงมีน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักร้าน “Miniso” ร้านขายสารพัดของปุ๊กปิ๊กต่าง ๆ แถมบางทียังไปคอลแลบร่วมกับการ์ตูนยอดฮิต เช่น Toy Story, We Bare Bears, Marvel และอื่น ๆ อีกเพียบ แล้วราคาที่ขายก็ยังเข้าถึงได้ค่อนข้างง่าย และเค้ามีหลายสาขาทั่วโลกเลย ในไทยเองก็ไม่แผ่ว มีสาขาเยอะเกือบทุกจังหวัดด้วย!


มาดูเรื่องราวของ Miniso กัน

 

🙀จากพนักงานโรงงานท่อน้ำ สู่ CEO หมื่นล้าน!

 

 

ใครจะรู้บ้างว่าเจ้าของแบรนด์ Miniso อย่างคุณ ‘Ye Guofu’ เคยเป็นลูกชายชาวนา อยู่ในเมืองที่ไม่มีทางออกทะเลในจังหวัด Hubei เค้าเลยฝันตั้งแต่เด็ก ๆ ว่าอยากไปเห็นเมืองใหญ่ เห็นโลกภายนอกที่กว้างมากขึ้น หลังจากนั้นเค้าก็เป็นพนักงานโรงงานท่อน้ำแล้วค่อย ๆ เก็บหอมรอมริบก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาเรื่อย ๆ 

 

ซึ่งร้าน Miniso มีจุดเริ่มต้นมาจากตอนที่คุณ Ye Guofu กับครอบครัว ได้ไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นในปี 2013 พอไปถึงเค้าเห็นว่าร้านค้าปลีกของคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่มีสินค้าคุณภาพดี ออกแบบก็เริ่ดแถมยังมีราคาที่ไม่ได้สูงมาก จากที่ไปดูมาก็เห็นว่าสินค้าส่วนใหญ่ผลิตจากประเทศจีนด้วย 

 

เค้าเลยเอามาปรับใช้สร้างแบรนด์ตัวเอง จนเกิดเป็นร้าน Miniso นี่แหละ โดยตอนนี้มีสำนักงานใหญ่อยู่กวางโจวและฐานผลิตหลักที่ประเทศจีน ด้วยแนวคิดที่ว่าจ่ายในราคาถูก แต่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและได้ของดี ๆ กลับไปใช้ด้วย

 


🤔เป็นของญี่ปุ่น หรือ จีน กันแน่นะ?

 

 

หลายคนก็คงเคยสงสัยและสับสนกันใช่มั้ยว่า Miniso เนี่ยเป็นร้านของประเทศอะไรกันแน่นะ แล้วถ้าเพื่อน ๆ คิดว่าร้านเค้าเป็นของญี่ปุ่นละก็…คิดผิดกันแล้ว! เอาจริง ๆ ช่วงแรกทางร้าน Miniso ก็เคยสร้างความสับสนให้ลูกค้าในจีนอยู่เหมือนกัน เพราะเค้าเคยเคลมว่ามีผู้ร่วมหุ้นเป็นดีไซเนอร์ชาวญี่ปุ่น และเคลมว่าร้านนี้ก็เป็นแบรนด์จากญี่ปุ่นด้วย (แม้แต่โลโก้ร้านช่วงแรก ๆ ยังมีตัวหนังสือญี่ปุ่นเลย) แต่ความจริงคือเค้าเป็นร้านที่จดทะเบียนในประเทศจีนทำธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2013 ซึ่งมีสาขาในจีนเยอะมาก แต่ดันไม่มีร้านเปิดในประเทศญี่ปุ่นเลย

 

เลยกลายเป็นดราม่าเรื่องการนำเสนอตัวเอง ว่าทำไมต้องพยายามทำตัวเป็นแบรนด์สไตล์ญี่ปุ่นขนาดนั้น ทั้งที่จริง ๆ แล้วกำเนิดมาจากจีน จนลูกค้าในจีนเองก็ไม่พอใจ เกิดเป็นประเด็นร้อนในโซเชียลขึ้นมา ทางแบรนด์เลยต้องออกมาแถลงชี้แจงและจัดการปรับร้านและรูปแบบต่าง ๆ ใหม่ รวมทั้งเอาตัวอักษรญี่ปุ่นออกจากโลโก้ Miniso ด้วย

 

นอกจากนี้ทางบริษัทยังโดนดราม่าจากเรื่องอื่น ๆ ถาโถมเข้ามาอีก แต่ทางทีม Miniso ก็คือสู้ไม่ถอย พยายามปรับตัว แก้ไขจุดบกพร่องและพัฒนาอยู่ตลอดเวลา จนตอนนี้สามารถขยายสาขาออกไปทั้งฝั่งอเมริกา ยุโรป และเอเชียแล้ว

 


💸ขายของราคาไม่แรงแต่รายได้พุ่งสูงขึ้นแทบทุกปี!

 

 

ออกแนวเริ่ดเกินคุณน้า! ก็ดูสิพี่ Miniso เค้าขายของคุณภาพจัดว่าโอเคเลย แถมราคายังเอื้อมถึงได้ และด้วยความที่ราคาไม่ได้แรงมากนี่แหละ ทำให้ขายได้เยอะและขายได้เรื่อย ๆ จนรายได้เพิ่มสูงขึ้นตลอดเลย นี่แหละที่เป็นหนึ่งในเคล็ดลับของเค้า ซึ่งเค้าก็ใช้เวลาแค่ 10 กว่าปีเท่านั้น ในการเปิดร้านไปแล้วกว่า 6,000 สาขา ใน 90 กว่าประเทศทั่วโลก ในไทยก็ปาเข้าไปกว่า 70 สาขาทั่วประเทศแล้ว บอกเลยว่าตัวเลขขนาดนี้ไม่ธรรมดาเลย 

  • อย่างรายได้ในปี 2023 เค้าทำไปได้ถึง 1.65 พันล้านดอลลาร์ หรือ 59 หมื่นล้านบาทเลยนะเยอะมาก! ซึ่งเพิ่มขึ้น 5.61% จากปี 2022 
  • ส่วนในปี 2022 อยู่ที่ 1.562 พันล้านดอลลาร์ หรือ 55 หมื่นล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 14.05 % จากปี 2021
  • เมื่อปี 2021 อยู่ที่ 1.37 พันล้านดอลลาร์ หรือ 49 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.28% จากปี 2020

 


🧸ตัวพ่อแห่งการคอลแลปส์

 

 

โอ้โห..Miniso นี่คือคอลแลบเก่งเวอร์! มีทั้งการ์ตูนดัง ๆ สารพัดเรื่องเต็มไปหมด ถ้าจะให้นับก็ตาลายแน่นอน~ แล้วขยันออกคอลเลกชันใหม่ ๆ ด้วยนะ ที่มีมาแบบไม่ขาดช่วงเลย ให้เราได้กรี๊ดความน่ารัก แล้วยังเอาใจลูกค้าทุกเพศทุกวัยด้วย อย่างการ์ตูนคิ้วท์ ๆ แบบ We Bare Bears หรือจะ Toy Story ก็มีมาเรื่อย ๆ ยังไม่หมดนะเอาใจคนชอบซูเปอร์ฮีโร่ด้วยอย่าง Marvel แล้วล่าสุดเห็นเค้ามีคอลเลกชันที่คอลแลบกับพี่สาว Barbie มีทั้งหมอนสุดน่ารัก, กระเป๋าเครื่องสำอาง, หวีหรือจะเป็นสมุดจดตั่งต่างก็มีนะ สวยหวานสุด ๆ ไปเลย><

 


💖สารพัดของหลากหลาย สุดละลานตา!

 

 

ที่นี่นะเข้าไปทีไรของเยอะมาก ยิ่งเจอการ์ตูนเรื่องที่ชอบหรือของที่อยากได้แล้วล่ะก็…เผลอตัวอีกทีนี่มีร้อยหมดร้อย มีพันหมดพัน หยิบของใส่ตะกร้าเพลินไปหมด แล้วเค้ามีของหลากหลายด้วย มากกว่า 8,000 อย่างเลยอะ คือมีของใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นมาตลอด 

 

อีกอย่างที่นี่ก็เป็นร้านที่ตามกระแสตามเทรนด์อยู่นะ อย่างเช่นพวกกล่องสุ่มหรือ Art Toy ฮิต ๆ เค้าก็ยกขบวนกองทัพมาหลายคอลเลกชันเลยนะ ให้เราได้เลือกจุ่มกัน จากตอนแรกมีแค่ไม่กี่แบบ ทุกวันนี้มีโซนนี้หลายสิบกว่าแบบแล้ว ใครที่ชอบลองมาดูกันได้ทุกสาขาเลย

 


เป็นยังไงกันบ้างได้มารู้จักกับร้าน Miniso มากขึ้นแล้ว กว่าจะมีวันนี้มันไม่ง่ายเลยจริง ๆ และทำให้เห็นเลยว่าการปรับตัว การตามเทรนด์และการเอาใจใส่ลูกค้า รวมไปถึงขายของที่มีคุณภาพ ในราคาที่จับต้องได้ก็ทำให้ Miniso เติบโตขึ้นและมีรายได้สูงมากขึ้นด้วย ว่าแต่เวลาเพื่อน ๆ เข้าไปในร้าน Miniso ช็อปอะไรกันบ้างน้า ? แวะเข้ามาป้ายยาทางนี้หน่อยสิ ><


ที่มา : https://ppro.pro/3Ir5zTQ , https://ppro.pro/3P3Z5Of , https://ppro.pro/49GDdkm , https://ppro.pro/43lybYt , https://ppro.pro/3IrDnjQ


👇🏻อ่านบทความที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ได้ที่นี่👇🏻

 

 

 

 

แสดงความคิดเห็น